แม่ร่ำไห้ลูก 10 ขวบช่วยเพื่อนกลับจมน้ำดับ ช็อกเชือกพันมือ เผยเจอหญิงกวักมือเรียกก่อนเป็นศพ (คลิป)

7 ธ.ค. 63

กรณีด.ช.ชิลนะภัทร (สงวนนามสกุล) อายุ 10 ปี เสียชีวิตจากการพลัดตกลงน้ำในคลองเปรมประชากร ช่วงประตูระบายน้ำอำเภอบางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา

339356

ล่าสุดวันที่ 7 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณประตูระบายน้ำคลองเปรมประชากร อยู่ในพื้นที่ ต.บางกะสั้น อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นคลองที่มีลักษณะการขุดเป็นตัววี มีความลึกประมาณ 3.5 เมตร ความกว้างของคลองอยู่ที่ประมาณ 30 เมตร

774606

จากนั้นทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ นายนที บัวประดิษฐ์ หัวหน้าฝ่ายกู้ภัยทางน้ำ สมาคมอยุธยาร่วมใจ หน่วยกู้ภัยอยุธยา เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนได้รับการแจ้งเหตุประมาณ 07.00 น. ว่ามีเด็กจมน้ำหายตัวไป ที่บริเวณประตูระบายน้ำคลองเปรมประชากร จึงจัดกำลังพลหน่วยกู้ชีพทางน้ำ 7 นาย รุดไปยังพื้นที่จุดเกิดเหตุ

877833

เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุ พบว่ามีชาวบ้านที่ใช้เรือสีน้ำเงิน พายเรือช่วยหาเบื้องต้น ขณะนั้นกระแสน้ำเริ่มนิ่งแล้ว เนื่องจากมีการปิดประตูระบายน้ำไปไม่นาน แต่สภาพน้ำค่อยข้างเย็น มีทีมบางคนที่เป็นตะคริวในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ โดยเริ่มจากจุดที่มีการพบตัวของ ด.ช.ชิลนะภัทร อายุ 10 ปี (ผู้เสียชีวิต) ตามคำกล่าวอ้างของ ด.ช.คิม อายุ 10 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่าเห็น ด.ช.ชิลนะภัทร โพล่หัวล่าสุดตรงจุดที่มีเรือสีน้ำเงินจอด ซึ่งห่างจากประตูระบายน้ำ ประมาณ 30 เมตร ใกล้กับประตูระบายน้ำอันเก่า ตนและทีมจึงเริ่มต้นค้นหาจากจุดดังกล่าว

จากนั้นใช้เวลางมหานานกว่า 4 ชม. โดยอุปสรรคในการหาตัวในครั้งนี้ คือ เศษหินจากถุงบิ๊กแบ็ก ในการกั้นน้ำเพื่อสร้างประตูระบายน้ำ รวมถึงเศษกิ่งไม้ และหนามจากต้นไม้ที่ยังคงจมอยู่ใต้น้ำ ซึ่งมีการประสานทิศทางการค้นหาตัวเป็นในลักษณะครึ่งวงกลม แล้วค่อย ๆ ไล่ดำหาเรื่อย ๆ กระทั่งไปเจอศพของด.ช.ชิลนะภัทร ห่างจากจุดเกิดเหตุ 100 เมตร

636027

โดยสภาพศพ เส้นเอ็นตามข้อพับเริ่มมีการแข็งตัว ปากซีด แต่เนื้อยังนิ่มอยู่ และพบเจอเชือกไนลอนสีเขียวขนาดเล็ก ถูกมัดแน่นเข้ากับข้อมือขวา โดยมีความยาวประมาณ 50 ซม. แต่ทีมกู้ภัยได้ตัดเชือกออก จนเหลือความยาวประมาณ 1 ช่วงแขน ซึ่งตนก็ยังสงสัยเชือกที่เจอ ส่วนความเชื่อเรื่องตัวตายตัวแทน ตนก็ค่อนข้างเชื่อในระดับหนึ่ง เนื่องจากดูจากพฤติการแล้วเหมือนสลับดวงกันตาย แต่ว่าในการปฏิบัติภาระกิจใต้น้ำ ยังไม่เจอเรื่องราวลี้ลับในวันนั้น

486636

ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับนางจันทรา (นามสมมติ) แม่ผู้เสียชีวิต เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ตนมีลูก 5 คน ด.ช.ชิลนะภัทร อายุ 10 ปี ผู้เสียชีวิตเป็นลูกคนที่ 3 ซึ่งด.ช.คิม อายุ 10 ปี เป็นเพื่อนสนิทกับลูกชายของตน เรียนห้องเดียวกัน เวลาว่างวันหยุด ลูกชายของตนเคยขอไปนอนบ้านของด.ช.คิม ตนเห็นว่าเป็นเพื่อนสนิทกัน และก็รู้จักกับแม่ของด.ช.คิมด้วย จึงค่อนข้างไว้ใจ

ส่วนอุปนิสัยของด.ช.ชิลนะภัทร จะค่อนข้างเป็นคนเรียบร้อย เป็นเด็กตั้งใจเรียน เวลาจะไปไหนมาไหน ลูกชายจะขออนุญาตทุกครั้ง และที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีประวัติว่าลงไปเล่นตรงจุดเกิดเหตุ ที่สำคัญว่ายน้ำไม่เป็น ตนคิดว่าลูกชายไม่น่าจะกล้าไปเล่นน้ำอย่างแน่นอน

545641

ทั้งนี้ในวันที่ 5 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันหยุด ด.ช.ชิลนะภัทร ลูกชายของตนขออนุญาตไปนอนบ้าน ด.ช.คิม ตนก็เดินทางไปส่งตามปกติ แล้วจะมารับตัวกลับในวันที่ 6 ธ.ค.63 หลังเลิกงาน ซึ่งตนได้รับโทรศัพท์จากแม่ของ ด.ช.คิม เวลาประมาณ 07.00 น. ว่าด.ช.ชิลนะภัทร (ผู้เสียชีวิต) พลัดตกน้ำที่บริเวณประตูระบายน้ำ วินาทีนั้นตนรู้สึกวูบจะเป็นลม จากนั้นจึงรีบเดินทางมายังจุดเกิดเหตุ แล้วพบว่าทีมกู้ภัยกำลังปฏิบัติหน้าที่งมหาร่างลูกชายของตน

สภาพจิตใจของตนตอนนี้ ยังคงรู้สึกเสียใจมาก ๆ ยังทำใจไม่ได้ ทุกครั้งที่พูดเรื่องนี้ก็เหมือนโดนมีดปักอกตัวเองทุกครั้ง ส่วนตัวไม่ติดใจการตายในครั้งนี้ เนื่องจากเด็กทั้ง 2 คน เป็นเพื่อนรักกัน ทุกอย่างคงเป็นอุบัติเหตุ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ไม่มีลางบอกเหตุใด ๆ

cg-1

แต่ที่ตนก็ยังสงสัยอยู่ก็คือ ทำไมเด็ก 2 คนถึงมาเล่นบริเวณประตูระบายน้ำในเวลา 06.00 น. เช่นนั้น ซึ่งเป็นเวลาเช้าตรู่ ตนก็ได้สอบถาม ด.ช.คิม บอกกับตนว่า มีผู้หญิงมาเรียกให้ไปยังบริเวณนั้น หลังจากนั้นก็เกิดเหตุสลดขึ้น โดยด.ช.คิม พลัดตกลงไปริมขอบปูน แต่มือยังเกาะขอบปูนไว้ได้ ส่วน ด.ช.ชิลนะภัทร ก็ได้หยิบกิ่งไม้แห้งแถวนั้น แต่ไม่ค่อยแข็งแรงยื่นให้ ด.ช.คิม เพื่อดึงตัวขึ้นมา

cg-2

ทว่าด.ช.คิม ตัวใหญ่กว่า ด.ช.ชิลนะภัทร ทำให้ไม้หัก กลายเป็นว่า ด.ช.คิม พยุงตัวขึ้นมาได้ แต่แรงสวนจากการดึงไม้ ทำให้ด.ช.ชิลนะภัทร (ผู้เสียชีวิต) พลัดตกลงน้ำไปแทน ถ้าถามว่าเชื่อเรื่องตัวตายตัวแทนหรือไม่นั้น ตนไม่อยากจะเชื่อ หลังจากนี้จะนำศพลูกชายไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่ต.นานวม อ.สนม จ.สุรินทร์

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส