ยายไหลตายคาบ้าน หลานสติไม่ดีนอนเฝ้าศพทาแป้งกลบกลิ่นเน่า ก่อนอุ้มฝังดิน (คลิป)

จากกรณีวันที่ 4 ธ.ค. 63 เวลา 18.00 น. เจ้าหน้าที่รับแจ้งจากทีมสว่างจรรยาฯ จุดประโคนชัยฐาน อำเภอพลับพลาชัย รับแจ้งเหตุหญิงชราถูกฝังดินเสียชีวิต ทราบชื่อยายสอย คงทันดี อายุ 93 ปี ชาวบ้านหมู่ 12 ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์

วันที่ 5 ธ.ค. 63 ทีมข่าวเดินทางมาที่หมู่ 12 ต.โคกขมิ้น อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ ลักษณะเป็นบ้านไม้สองชั้น มีต้นไม้ล้อมรอบ ซึ่งจุดที่ผู้ตายเสียชีวิตอยู่ที่ชั้น 1 ของบ้าน บริเวณเบาะนอนบนพื้นห้องโถง ข้างกันมีเสื่อวางไว้ และมีข้าวของวางกระจัดกระจาย พื้นห้องมีแต่ฝุ่น

ส่วนจุดที่ขุดหลุมฝังผู้ตาย ห่างจากตัวบ้านประมาณ 15 เมตร พบว่ายังมีร่องรอยของการขุดดินอยู่ และมีธุปปักไว้ นอกจากนี้ด้านหน้าจุดที่ศพ ยังมีห้องน้ำที่ทำจากสังกะสีตั้งอยู่ ห่างกันประมาณ 5 เมตร ซึ่งขณะฝังศพอาจจะทำให้คนภายนอกไม่เห็น

นายแดง คงดี อายุ 35 ปี หลานชายของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนกับผู้ตายอาศัยอยู่บ้านหลังนี้กันเพียง 2 คน โดยนางสอยน่าจะเสียชีวิตมาประมาณ 8 วันแล้ว ก่อนที่จะเสียชีวิตยังปกติดี และยังกินข้าวได้เหมือนเดิม ในวันนั้นตนก็ป้อนแตงโมกับนมกินให้

กระทั่งเช้าวันรุ่งขึ้นวันที่ 27 พ.ย. 63 ตนตื่นขึ้นมาแล้วพบว่า นางสอยยังหลับอยู่ตนจึงลุกขึ้นมาดู แล้วก็พบว่าสิ้นลมหายใจแล้ว แต่ตนไม่กล้าบอกใคร จึงนอนเฝ้าศพ

จนเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 ธ.ค. 63 ศพเริ่มเน่าเปื่อย ตนจึงนำศพไปฝัง โดยใช้เสียมขุดดินที่หน้าบ้าน ระดับความลึกประมาณ 50 ซม. ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ก่อนจะอุ้มนางสอยไปวางไว้ในหลุม และขุดดินกลบ จากนั้นเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 18.00 น. ชาวบ้านได้เข้ามาดู และทราบเรื่อง

ทั้งตน ไม่กล้าที่จะบอกใครว่ายายเสียชีวิตเพราะไม่มีใครสนใจ และคนแถวนี้ต่างคนต่างอยู่ และเพิ่งจะมาสอบถามเมื่อวานนี้โดยยายสอยเป็นอัมพาต เดินไม่ได้มาหลายปีแล้ว และมีอาการมีคันตามเนื้อตัว แต่ช่วงหลังมานี้ไม่มีใครพามาหาหมอ ส่วนตนก็ไม่มีรถ จึงไม่ได้พาไป อีกทั้งบัตรสวัสดิการก็ฝากไว้กับชาวบ้าน หลังจากนี้ ตนคงจะต้องอาศัยอยู่บ้านคนเดียว และคงจะใช้ชีวิตอยู่แบบเดิม ถ้ามีงานก็ทำ และคงจะไม่ขอความช่วยเหลือใคร

นางเหยียบ คงทันดี อายุ 69 ปี หลานของผู้ตาย ผู้พบศพคนแรก เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 18.00 น. ตนเดินไปที่บ้านของผู้ตาย เพื่อนำของที่ใช้บัตรสวัสดิการรัฐซื้อมาให้ ได้แก่ นม และอาหารแห้ง แต่ไปถึงตนก็บอกกับนายแดง หลานชายของผู้ตายว่า "ส่งอันนี้ให้ยายกินด้วย" แต่นายแดงตอบกลับมาว่า "ยายเสียแล้ว ผมเอาไปฝัง" ตนไม่เชื่อ จึงเดินหาตามใต้เตียงแต่ไม่เจอ นายแดงก็พาไปชี้จุดที่ฝังให้ดู พบว่าสุนัขกำลังคาบเอากระดูกส่วนซี่โครงไป ตนจึงเดินร้องไห้แล้วไปตามทุกคนให้เข้ามาช่วย

ทั้งนี้ สภาพศพพบว่าอยู่ในท่านอน เอียงหัวเล็กน้อย เนื้อหนังยุ่ย ตัวบวม แต่ไม่พบบาดแผล จากการสอบถามนายแดงบอกว่านางสอยเสียชีวิตมาหลายวันแล้ว และนอนกับนางสอยประมาณ 3-4 วัน จนนางสอยเริ่มมีกลิ่นเหม็น จึงเอาแป้งไปโรยใส่ และนำร่างไปฝัง พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ตนคิดว่าน่าจะพูดความจริง เพราะตนอยู่บ้านติดกัน ไม่ได้ยินเสียงแต่อย่างใด

โดยนายแดง หลายชายของผู้ตายสติไม่ค่อยดี เนื่องจากเมื่อก่อนติดยา แต่ปัจจุบันนี้ไม่เสพแล้ว บางครั้งก็มีอาการคลุ้มคลั่งเหมือนคนบ้า มักจะพูดคนเดียว แล้วก็เดินไปมาพลางด่ากราดใส่ชาวบ้าน แต่ไม่เคยทำร้ายใคร แม้แต่ยายก็ไม่เคยทำร้าย ทั้งนี้ผู้ตายน่าจะเสียชีวิตเพราะอายุมากแล้ว อีกทั้งแม่ของผู้ตายก็เคยไหลตาย และตายในช่วงที่อากาศหนาวเช่นกัน ตนรู้สึกสงสารผู้ตายมาก เพราะผู้ตายมีลูก 12 คน ลูกตายไปก่อนหมด หลังจากนี้ตนจะทำบุญให้ และขอให้ผู้ตายไปสู่สุคติ