น้อยใจ! “แม่ขวัญจิต” เพลงพื้นบ้านถูกลืม เผยเคล็ดลับความนิยมตลอดกาล น้อยใจ

4 ธ.ค. 63


อีกหนึ่งตำนานเจ้าของเพลงพื้นบ้านภาคกลางของไทย “แม่ขวัญจิต ศรีประจันต์” ศิลปินแห่งชาติปี 2539 สาขาศิลปะการแสดง (เพลงพื้นบ้าน-อีแซว) เจ้าตัวเตรียมขึ้นฟรีคอนเสิร์ต “มรดกพื้นบ้านผสานสู่สากล” ในวันเสาร์ที่ 5 ธันวาคม 2563 ณ หอประชุมเล็ก ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- คณะผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ห่างไกลโควิด สวมหน้ากากเฟซชิลด์ เก็บตัวเชียงใหม่ วันเเรก
- "ณเดชน์" เผยถ้าจะขอแต่งงาน "ญาญ่า" ต้องมีเซอร์ไพรส์ และเป็นวันที่เขาต้องมีความสุขที่สุด!!
- "พชร์-นิก" โต้ทะเลาะสร้างกระแสโปรโมทนัง ปัดเหตุเลิกแฟนเก่ายอมจูบปากคืนดี

แม่ขวัญจิต อัพเดตงานให้ฟังว่า ที่ผ่านมา ช่วงที่ตนยังคงโด่งดัง ทุกครั้งที่แต่งเพลง แต่งเสร็จก็ขายให้ศิลปิน พอขายเสร็จก็ไม่ได้ตามร้อง ตามจำอะไรเพราะถือว่าได้รับเงินมาแล้วก็เท่ากับจบ จึงทำให้มีบ้างที่ลืมเพลงของตัวเองที่เคยแต่งให้ศิลปิน ซึ่งก็มีอยู่ช่วงหนึ่งที่เพลงของตนกลับมานิยมและถูกใช้กันเยอะมากทั้งในไทยและต่างประเทศ ตอนนั้นก็มีคนเข้ามาถามถึงเรื่องลิขสิทธิ์กับตน แต่แม่ก็เลือกที่จะปล่อยผ่านเพราะมองแล้วว่ายังไงก็ไม่มีปัญญาที่จะติดตามจนถึงต้นตอได้ จึงขอมองในแง่ดีว่าเป็นการรื้อฟื้นเพลงพื้นบ้านให้กลับมาตื่นตัว ให้เห็นคุณค่าอีกรอบ

ซึ่งตลอดที่ผ่านมา “แม่ขวัญจิต” ก็ยังคงรับงานตลอดไม่ว่าจะเป็นงานร้องเพลงหรือออกรายการทั่วไป แต่อย่างหนึ่งเลยที่เจ้าตัวบอกว่าไม่ต้องมีใครมาบอกให้ตนไปทำ ตนก็ตั้งใจอยากจะทำ นั่นคือการเป็นครูสอนเด็กรุ่นใหม่ให้รู้จักเพลงพื้นบ้าน สอนให้เขามีความกล้าในการขึ้นเวที พบปะผู้คน มีทักษะในการใช้ภาษาไทยอย่างถูกต้อง ซึ่งก็ได้ลูกหลานคอยช่วยเหลือกันอยู่ตลอด ถือว่าเป็นการทำให้เพลงพื้นบ้านไม่สูญหายไป

ก่อนที่จะโอดว่าการรับงานของศิลปินเพลงพื้นบ้าน-อีแซว ในแต่ละยุคล้วนต้องผ่านขั้นตอนที่ยากมาก เพราะเนื้อเพลงต้องเข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่สามารถร้องเนื้อหาซ้ำๆเดิมๆเหมือนเพลงทั่วไปได้ บวกกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไปการโชว์ก็จะต้องมีความทันสมัยมากขึ้นเพื่อที่จะให้งานนั้นๆดูดีมีระดับ ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมก็ต้องมีการวางแผนให้น่าสนใจ แม้จะเป็นเพลงพื้นบ้านก็ตาม จึงทำให้ “แม่ขวัญจิต” ยังคงมีงานจนถึงวันนี้ ซึ่งบางครั้งผู้จ้างไม่สามารถรู้ได้เลยว่าความยากลำบากแบบนี้เป็นยังไง จึงทำให้ต้องสู้กับค่าจ้างที่น้อยนิดมาตลอด

ส่วนตัวแล้วเมื่อพูดถึงกระแสความนิยมในเพลงพื้นบ้านที่ลดลงเรื่อยๆ จนบางครั้งอาจจะใช้คำว่า “ถูกลืม” ก็ว่าได้ ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าประเด็นนี้แอบน่าน้อยใจอยู่เหมือนกัน แต่ก็พยายามทำความเข้าใจกับสังคมที่เปลี่ยนไป จึงอยากให้เด็กรุ่นใหม่กลับมาเห็นความสำคัญกับเพลงพื้นบ้านอีกครั้งด้วย

นอกจากนี้ “แม่ขวัญจิต” ยังเผยอีกว่าสุขภาพของตัวเองก็ยังคงมีโรคประจำตัวอยู่ 2 โรคที่อยู่กับตัวมา 20 กว่าปี นั่นคือ โรคเบาหวานและไขมันในเส้นเลือด บวกกับบางครั้งก็มีอาการลมจับอยู่บ้าง ขึ้นอยู่สภาพร่างกายในแต่ละวัน แต่ถึงแม้จะอายุเหยียบเข้า 73 ปี เจ้าตัวก็เอ่ยปากบอกเลยว่าจะยังคงรับงานไปเรื่อยๆ

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส