สุราษฎร์ธานีประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 9 อำเภอ

3 ธ.ค. 63

ผจว.สุราษฎร์ธานี ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 9 อำเภอ พร้อมประเมินสถานการณ์ และขอสนับสนุนเรือดันน้ำจากกองทัพเรือ มาช่วยระบายน้ำลงสู่ทะเล

นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราขการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุมร่วม ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย อาคารศาลากลางสุราษฎร์ฯ เมื่อเวลา 11.00 น. เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งขณะนี้พบว่ามวลน้ำจำนวนมากจากจังหวัดนครศรีธรรมราช ส่วนหนึ่งที่จะมาระบายออกทะเลที่กาญจนดิษฐยังมี่ปริมาณมาก ขณะที่ทางด้านทิศตะวันตก ก็รับมวลน้ำจากเทือกเขาแก่งกรุงและเทือกเขาพนม ไหลมาระบายลงทะเลที่อำเภอพุนพิน ซึ่งจะทำให้อำเภอพุนพินได้รับน้ำจาก 3 คลองหลัก ประกอบด้วยคลองยัน คลองพุมดวง และแม่น้ำตาปี อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมอำเภอพุนพินมากกว่าปัจจุบัน จึงได้พิจารณาขอสนับสนุนเรือผลักดันน้ำจากทัพเรือภาค 2 มาช่วยระบายน้ำที่อำเภอพุนพินออกสู่ทะเล ไม่ให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งมากบรรเทาทุกข์ในชาวลุ่มน้ำตาปี พร้อมประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้ว 9 อำเภอ เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

1606979050103

สำหรับสถานการณ์น้ำ ยังคงขยายพื้นที่ในหลายอำเภอ ล่าสุดหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มใน ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่ได้รับน้ำป่าจากอีกด้านของเทือกเขาแก่งกรุง ทำให้มวลน้ำเข้าท่วมถนนภายในหมู่บ้าน และบ้านเรือนประชาชน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสำรวจและให้การช่วยเหลือ

1606979112682

เช่นเดียวกับพื้นที่ ตำบลท่าขนอน อ.คีรีรัฐนิคม ที่ระดับน้ำเริ่ม น้ำในคลองยัน ที่รับน้ำฝนที่ตกในเทือกเขาแก่งกรุง เริ่มหลากล้นตลิ่งแล้ว ทำให้ประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบ ซึ่งก็ได้ดำเนินการช่วยชาวบ้านขนของหนีน้ำ และญาติประชาชนออกจากบ้านเสี่ยงที่ต้องการไปอยู่บ้านญาติชั่วคราว โดยมวลน้ำตาปียังมีแนวโน้มที่จะเพิ่มสูงขึ้น และไหลต่อไปยังปลายน้ำในอำเภอพุนพินเพื่อระบายสู่ทะเล

1606979144307

ทำให้ขณะนี้มีพื้นที่น้ำท่วมแล้ว จำนวน 11 อำเภอ คือ อ.ดอนสัก อ.กาญจนดิษฐ์ อ.วิภาวดี อ.ท่าฉาง อ.บ้านนาเดิม อ.เคียนซา อ.ชัยบุรี อ.พุนพิน อ.ไชยา อ.บ้านนาสาร อ.คีรีรัฐนิคม รวมทั้งสิ้น 41 ตำบล 180 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับผลกระทบจำนวน 3,244 ครัวเรือน 9,775 คน ไม่มีผู้บาดเจ็บและไม่ผู้เสียชีวิต

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ