กรณีร.ต.อ.ประจวบ พันธ์ทอง รอง สว.(สอบสอน) สภ.ดงขุย จ.เพชรบูรณ์ รับแจ้งเหตุพบศพบริเวณข้างถนนสาย 113 หลัก กม.ที่ 47 ม.3 ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ชนแดน และอาสากู้ภัยร่วมกตัญญูเขตชนแดน
โดยที่เกิดเหตุพบศพ ด.ช.การวิทย์ หรือ น้องแบงค์ อายุ 14 ปี อยู่บ้านเลขที่ 192 ม.15 ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ สวมเสื้อยืดสีดำ นุ่งกางเกงยีนต์ขายาว สภาพศพนอนหงาย มีบาดแผลคล้ายถูกของมีคม เข้าที่บริเวณท้ายทอย ข้อมือซ้ายเกือบขาด บริเวณฝ่ามือด้านขวาขาดหายไป และจากข้อมือถึงข้อศอกเหลือแต่กระดูก บริเวณหน้าท้องมีลำไส้ทะลักออกมา ในตัวผู้ตายพบโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
เจ้าหน้าที่จึงโทรหาญาติ ทราบว่า ผู้ตายเดินทางมาทำงานรับจ้างอยู่ที่ ต.ดงขุย เมื่อหายตัวไปทางญาติจึงไม่มีใครรู้ จากการชันสูตรคาดว่า เสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน เจ้าหน้าที่เตรียมนำศพส่งชันสูตรต่อที่ รพ.นเรศวร จ.พิษณุโลก
ล่าสุดวันที่ 2 ธ.ค.63 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดงขุย ระบุว่า ขณะนี้มีรายงานว่าพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย คันที่มาแวะจอดรับด.ช.การวิทย์ ในคืนวันที่ 28 พ.ย.63 แล้ว โดยรถคันดังกล่าวเป็นรุ่น PCX ยี่ห้อฮอนด้า มีรอยคราบเลือดติดที่รถด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่จะนำไปตรวจหาดีเอ็นเอ และความเชื่อมโยงว่าเป็นเลือดของด.ช.การวิทย์ หรือไม่
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังสภ.ดงขุย เพื่อสอบถามข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติม เมื่อมาถึงพบว่าขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการเรียกกลุ่มเพื่อนของผู้เสียชีวิตที่สนิท มาสอบปากคำตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอเล็ก อายุ 18 ปี (นามสมมติ) และนายเอ อายุ 19 ปี (นามสมมติ) เพื่อนรุ่นพี่ของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ปกติแล้วผู้เสียชีวิตเป็นคนนิสัยดีเพื่อนฝูงรักใคร่ ถือเป็นน้องรักคนหนึ่งในกลุ่ม ลักษณะนิสัยของผู้เสียชีวิตจะเป็นคนอัธยาศัยดี แต่ไม่ค่อยบอกข้อมูลส่วนตัวให้ทางกลุ่มเพื่อนฟัง ซึ่งตั้งแต่ที่รู้จักกันมา ก็ไม่เคยเห็นผู้เสียชีวิตมีปัญหาทะเลาะกับใคร
สำหรับครั้งสุดท้ายที่พวกตนได้พบกับผู้เสียชีวิต วันที่ 27 พ.ย. 63 เพราะผู้เสียชีวิตและเพื่อนได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาดื่มกินกับตนที่บ้านตามปกติ หลังจากนั้นก็กลับออกไปและไม่ได้พบกันอีก เนื่องจากช่วงเช้าวันที่ 28 พ.ย.63 พวกตนรวม 12-13 คน ได้เดินทางไปเที่ยวที่ภูทับเบิก แต่ผู้เสียชีวิตไม่ได้ไปด้วย เนื่องจากต้องทำงานอยู่ที่อู่ซ่อมรถ กระทั่งตนมาทราบข่าวเมื่อช่วงเช้าวันที่ 30 พ.ย.63 จากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ผู้เสียชีวิตถูกฆาตกรรม ศพถูกทิ้งอยู่บริเวณข้างถนนสาย 113 หลัก กม.ที่ 47 ม.3 ต.ดงขุย อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเมื่อพบก็รู้สึกสลด ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าผู้เสียชีวิต จะมาจากไปอย่างกะทันหัน
ส่วนปมการเสียชีวิต หรือตัวผู้ก่อเหตุ ตนยืนยันว่าไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร และปมเหตุเกิดจากอะไร อีกทั้งในกล้องวงจรปิดที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มา ก็เป็นภาพขณะที่ผู้เสียชีวิตเดินออกมาจากอู่ซ่อมรถ เพื่อไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของบุคคลปริศนาที่ขับมาจอดรับอยู่บริเวณฝั่งตรงข้าม แต่ภาพก็ค่อนข้างไกล จึงไม่สามารถระบุได้ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นใคร ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการ
เหตุการณ์ในครั้งนี้ พวกตนคิดว่าผู้ก่อเหตุทำรุนแรงเกินไป เนื่องจากผู้เสียชีวิต อายุเพียงแค่ 14 ปี แต่กลับถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม อย่างไรก็ตาม พวกตนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็น เพราะเดินทางไปเที่ยวกันหมด กระทั่งมาทราบเรื่อง
นายอเล็ก ยังเล่าให้ทีมข่าวฟังอีกว่า หลังจากที่ตนเดินทางกลับมาจากภูทับเบิกในช่วงค่ำของวันที่ 29 พ.ย.63 เพื่อกลับบ้านจะต้องผ่านบริเวณจุดเกิดเหตุ พบมีหมาดำยืนขวางหน้าตัด รถจักรยานยนต์ของตนอยู่บนถนน ซึ่งใกล้กันกับจุดที่พบศพผู้เสียชีวิต จึงคิดว่าหมาดำตัวดังกล่าว อาจเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่างหรือไม่ สุดท้ายนี้พวกตนอยากบอกกับผู้เสียชีวิตเป็นครั้งสุดท้ายว่า พวกตนรักผู้เสียชีวิต คิดถึง และไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้รับหลักฐานสำคัญ เป็นแชตที่มีการพูดคุยกับผู้ต้องสงสัย ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังเรียกตัวมาสอบปากคำ โดยเป็นการพิมพ์สนทนาระหว่างรุ่นพี่รายหนึ่ง กับรุ่นน้องที่คาดว่าเป็นคนมารับน้องแบงค์ไปในคืนวันที่ 28 พ.ย.63 โดยมีข้อความที่รุ่นพี่ระบุว่า "มึงให้ไอ้โอ๊ตไปรับไอ้แบงค์ทำไม กล้องมันมี เขาเห็นกันหมด เลวจริง ๆ กับน้องมึงยังทำ"
ทั้งนี้รุ่นน้องคนดังกล่าว ยังได้ปฏิเสธว่า "ผมถูกกล่าวหาพี่" ซึ่งรุ่นพี่ตอบกลับว่า "มึงก็รู้อยู่แก่ใจ พวกพี่เอ (แก๊งคาร์บอม) เป็นคนฆ่า ไอ้แบงค์มันติดหนี้"
นายอิฐ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี เพื่อนของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ในวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตนมาสอบปากคำ ตั้งแต่ช่วงเช้า ซึ่งวันนี้ถือเป็นวันที่ 2 แล้วที่พวกของตนเดินทางมาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ โดยตนยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการเสียชีวิตของผู้เสียชีวิตแน่นอน เพราะในวันที่ 28 พ.ย.63 พวกตนได้เดินทางไปเที่ยวที่ภูทับเบิกกัน จึงไม่รู้ว่าผู้เสียชีวิตหายตัวไปตั้งแต่ตอนไหน ซึ่งการไปเที่ยวในครั้งนี้ตนมีหลักฐานและภาพยืนยันว่าไปเที่ยวกันจริง จึงอยากชี้แจงให้ทางเจ้าที่ตำรวจทราบ
บรรยากาศการสวดพระอภิธรรมศพ นายการวิทย์ หรือ น้องแบงค์ ภายในศาลาวัดสว่างเนตร หมู่ 3 ต.ดงขุย อ.ชนแดน เป็นไปด้วยความโศกเศร้า โดยทางญาติมีกำหนดพิธีฌาปนกิจศพในวันที่ 3 ธ.ค.63
จากการสอบถามนายชรินทร์ บุญธรรม อายุ 32 ปี พ่อผู้ตาย เปิดเผยว่า ตนรู้สึกเสียใจมาก อยากให้ตำรวจจับคนร้ายให้ได้ไว ๆ อยากจะรู้ว่าเพราะอะไรถึงทำแบบนี้ ให้รีบออกมามอบตัว เพราะตนอยากเห็นหน้าคนร้าย อยากให้ตำรวจได้ตัวคนร้ายมาเร็ว ๆ
