ลูกค้าโวยร้านชาบูบุฟเฟ่ต์ ล้วงหม้อชั่งของเหลือ ปรับขีดละ 100

2 ธ.ค. 63

ดราม่าสนั่นเฟซบุ๊ก ลูกค้าสาวโพสต์โวยไปรับประทานชาบูบุฟเฟ่ต์ พนักงานขอชั่งเศษอาหารที่เหลือในหม้อ พร้อมคิดค่าปรับขีดละ 100 บาท เจ้าของร้านโต้ไม่ได้เป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา ปรับไปแค่ 40 บาท จากหมูที่เหลือในหม้อเท่านั้น

ผู้ใช้เฟซบุ๊กเป็นหญิงสาวรายหนึ่ง โพสต์ภาพถุงพลาสติกที่ภายในมีเนื้อหมูและเศษผัก วางอยู่ตาชั่งพร้อมระบุข้อความว่า “ไปกินบุฟเฟ่ร้านนึงในขอนแก่นอยู่เเถวกังสดาล กินเสร็จพนักงานขอช่างเศษอาหารในหม้อ คิดเงินเพิ่มขีดละ 100 บาท งงมากเเม่ เศษผักต้มกับเศษหมูยังตักเลย ใครไปกินต้องระวังหน่อยนะ อาจจะเป็นนโยบายหากำไรเพิ่มของทางร้านก้อด้ายย #ร้านชาบูขอนแก่น #บุฟเฟ่ต์ขอนแก่น” ทำให้มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก

002

ต่อมาพบว่า ทางหญิงเจ้าของร้านได้ออกมาชี้แจงผ่านทางโซเชียลมีเดียโดยระบุว่า “จากการสอบถามพนักงานและตรวจสอบกล้องวงจรปิดแล้ว ทุกครั้งที่เรียกเช็กบิลพนักงานมีหน้าที่ตรวจสอบอาหารที่ทานไม่หมดของลูกค้าทุกท่าน ทุกโต๊ะค่ะ และของคุณลูกค้าทางพนักงานชั่งแต่เนื้อหมู ซึ่งน่าจะติดวากาเมะมา 1 ชิ้น ชั่งได้ประมาณ 50 กรัม พนักงานจึงได้ขอคิดเงินค่าอาหารไป 40 บาท น้ำหนักหมูที่ถูกชั่งยังไม่ได้รวมเนื้อหมูที่ยังเหลืออยู่ที่จาน และอยู่ในถ้วยไข่ของลูกค้าค่ะ ตักออกจากในหม้อชาบูเท่านั้นนะคะ

และสภาพถุงที่เป็นแบบนี้ เพราะลูกค้าได้บีบรีดน้ำออกเพื่อให้ได้น้ำหนักน้อยที่สุดค่ะ ทางเราไม่ได้มีเจตนาอยากหารายได้เพิ่มโดยการปรับค่าอาหารที่ทานไม่หมดค่ะ ไม่ได้สบายใจเลยค่ะ บางครั้งลูกค้าสั่งอาหารเยอะ เรายินดีมากค่ะ บุฟเฟ่ต์ลูกค้าหลากหลาย ทานมาก ทานน้อย แตกต่างกัน ขอเพียงตามมารยาทในการทานบุฟเฟ่ต์ คือทานให้หมดค่ะ บางท่านซ่อนแล้วซ่อนอีกค่ะ พนักงานจะแจ้งทุกครั้งว่าทานต่ออีกไหม และมีป้ายประกาศติดอยู่ทั่วร้าน อาหารจะสั่ง 1 ชิ้น หรือ 2 ชิ้น พนักงานทำให้ได้นะคะ แม้ว่าSERVINGจะมากกว่าก็ตาม หากครั้งนี้ได้รับความไม่สะดวกใจอย่างไร ต้องขออภัยด้วยค่ะ”

003

นอกจากนี้ เจ้าของร้านยังได้โพสต์เฟซบุ๊กในเพจของร้าน โดยระบุว่า “ขออนุญาตชี้แจงเรื่องการปรับอาหารที่ทานเหลือนะคะ ตั้งแต่ทางร้านได้เปิดร้านมา พบว่ามีลูกค้าทานอาหารเหลือเป็นจำนวนมาก ยอมรับเลยค่ะว่าตอนแรกก็ไม่กล้าปรับ ไม่อยากปรับอยากให้สบายใจกันที่สุด ได้แต่บอกพนักงานว่าไม่เป็นไร แต่อาหารที่ทานเหลือกลับมากขึ้นในทุกๆ วันเลยค่ะ ทางร้านพยายามคัดสรรวัตถุดิบต่างๆ ที่ดีที่สุดมาให้กับลูกค้า ลูกค้าจะทานเท่าไหร่ ทางร้านยินดีเสมอ บางท่านทานเยอะมากจริงๆ ค่ะ เราก็ยิ้มได้ และมีความสุขมาก ที่เห็นลูกค้ามาใช้บริการในร้าน บางท่านก็ทานน้อยจนตกใจ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติของการทำร้านบุฟเฟ่ต์ค่ะ เราต้องเจอกับลูกค้าที่หลากหลาย แต่ทุกคนจ่ายเงินในราคาที่เท่ากัน ร้านไม่ได้อยากหารายได้เสริม จากการปรับค่าอาหารค่ะ เพราะจุดนี้จริงๆ ไม่ได้สะดวกใจ แต่จำเป็นค่ะ บางวันเศษอาหารเหลือทิ้งหลายกิโลกรัมเลยนะคะ

เราจะมีความสุขมาก ถ้าลูกค้าสั่งอาหารแล้วทานให้หมดค่ะ ทานเท่าไหร่ก็ได้ ขอแค่หมด ไม่เอาซ่อนก็พอค่ะ บางท่านกระดาษทิชชู่โปะแล้วโปะอีก หมูกระจายอยู่ทั่วโต๊ะเลยก็มี บางท่านทานคนละแพ็กเกจ แต่แอบส่งของให้กันก็เกิดขึ้นมาแล้วค่ะ เราเปิดร้านบุฟเฟ่ต์ด้วยความตั้งใจมากๆ เลยค่ะ อยากเห็นลูกค้ามีความสุข พาครอบครัว พาคนรัก พาเพื่อนมาทาน มาใช้เวลาด้วยกัน เรายินดีบริการมากค่ะ ย้ำกับพนักงานเสมอ ว่าเราต้องบริการให้ดีนะ ให้ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่ได้จ่ายมาให้เรา สุดท้ายนี้ อยากให้ลูกค้าเข้าใจทางเราด้วยนะคะ แต่ถ้าการปรับอาหารทำให้ลูกค้าบางท่านไม่สบายใจอย่างไร ทางร้านต้องขออภัยจริงๆ ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

001

ซึ่งหลังจากเจ้าของร้านได้ออกมาชี้แจง ทำให้ประชาชนหลายคนแสดงความเห็นใจเจ้าของร้าน และขอให้ลูกค้าเข้าใจด้วยว่า ทางร้านเองมีต้นทุนทุกอย่าง ควรสั่งแต่พออิ่ม และหากเหลือก็ต้องปฏิบัติตามกฎ ยอมรับเงื่อนไขของทางร้านด้วยเช่นกัน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ