เมื่อวันที่ 29 พ.ย.63 เวลา 20.19 น. บรรยากาศการชุมนุมของคณะราษฎร ที่กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.11 ทม.รอ.) ถนนพหลโยธิน มวลชนเข้ามาเต็มพื้นที่ ขณะเดียวกันเเกนนำได้ผลัดกันปราศรัย เรียกร้องให้ทหารผู้รักประชาธิปไตยปลดอาวุธ และมาอยู่เคียงข้างประชาชน
โดยตั้งเเต่เวลา 18.20 น. ที่ผ่านมา มวลชนได้เคลื่อนขบวนถึงบริเวณด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 ซึ่งเดินขบวนมาพร้อมกับเป็ดเหลือง โดยมีรถปราศรัยขับนำขบวน ซึ่งบนรถมีเเกนนำคนสำคัญ นายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน ไมค์-ภาณุพงศ์ จาดนอก และมีการ์อาสาสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หน้ากากกันแก๊ส และหมวกนิรภัยเป็นด่านหน้าเดินนำขบวน พร้อมปราศรัย และตั้งคำถามว่า เหตุใดกรมทหารราบที่ 11 จึงไม่เปิดไฟ กลัวอะไรกับราษฎรและเป็ด พร้อมกับมีการ์ดนำแผงเหล็กมาล้อมรถขยายเสียง และใช้เป็ดมาเป็นการ์ดโดยรอบแผงเหล็กอีกชั้นหนึ่ง เพื่อรักษาแนว โดยมวลชนได้นั่งฟังอย่างเป็นระเบียบ
จากนั้นนายพริษฐ์ ชีวารักษ์ หรือ เพนกวิน ได้กล่าวกับมวลชน ประกาศชัยชนะที่สามารถนำมวลชนมาถึงกรมทหารราบที่ 11 ได้ เรียกร้องให้ทหารรับใช้ประชาชน เเละระบุว่า จะจัดกิจกรรมอย่างสงบ จะไม่มีการบุกเข้าไปในพื้นที่ของค่ายเด็ดขาด
ต่อมานายสมยศ พฤกษาเกษมสุข อดีตผู้ต้องโทษคดี มาตรา 112 ได้ขึ้นปราศรัย เชิดชูดวงวิญญาณคณะราษฎร 2475 โดยระบุว่า บัดนี้ราษฎร 2563 ได้กำเนิดขึ้นเพื่อเรียกร้องความเท่าเทียม เเละความเสมอภาคตามระบอบประชาธิปไตย พร้อมระบุว่า กรมทหารราบที่ 11 ในอดีตเมื่อปี 53 เคยเป็นศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉินของรัฐบาล และหลังจากนั้นมีคนเสื้อเเดงเสียชีวิตจากการชุมนุมเป็นจำนวนมาก วันนี้จึงเดินทางมาที่นี่ เพื่อเรียกร้องให้ทหารที่รักประชาธิปไตย ให้ปลดอาวุธมารับใช้ มาเป็นทหารของประชาชน พร้อมเรียกร้องให้หยุดใช้มาตรา 112 ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุม
จากนั้น นายอานนท์ นำภา ได้ปราศรัย ยืนยันถึงข้อเรียกร้องเดิมว่า ไม่สามารถถอยหลังได้ เพราะเพดานได้ทะลุไปแล้ว ดังนั้นทางออกเดียว คือ รับข้อเรียกร้องทั้ง 3 ข้อของราษฎรเท่านั้น
นายปิยรัช จงเทพ หรือโตโต้ หัวหน้าการ์ดมวลชนอาสา วี-โวลันเทียร์ ยอมรับว่า จริง ๆ แล้ววันนี้ เป้าหมายหลักไม่ได้อยู่ที่กรมทหารราบที่ 1 แต่เป็นที่กรมทหารราบที่ 11 ตั้งแต่ต้น และยอมรับว่าเป็นการสับขาหลอกหรือแกงเจ้าหน้าที่ ซึ่งเชื่อว่า เจ้าหน้าที่คงไม่มีกำลังเพียงพอที่จะเคลื่อนย้ายแบริเออร์และตู้คอนเทนเนอร์มาบริเวณนี้ได้ทัน
โดยการชุมนุมในวันนี้ อาจกระทบต่อการจราจรในพื้นที่บ้าง ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางพื้นที่ชุมนุม ส่วนการเคลื่อนขบวนมวลชนจากสถานีรถไฟฟ้า บีทีเอส วัดพระศรีมหาธาตุ มายังกรมทหารราบที่ 11 ทางการ์ดของผู้ชุมนุมซึ่งมีหลายกลุ่ม จะจัดกำลังเป็น 3 ชั้น คือ หัวขบวน กลางขบวน เเละท้ายขบวน เพื่อคุ้มกันมวลชน ขณะเดียวกันขอความร่วมมือมวลชน ร่วมกันสอดส่องผู้ที่พกพาอาวุธ รวมถึงเครื่องดื่มเเอลกอฮอร์ เพื่อป้องกันมือที่ 3 อาจเเฝงตัวเข้ามาสร้างสถานการณ์
นายปิยรัช กล่าวถึงความคืบหน้าทางคดีความของตัวเอง ว่า ตอนนี้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว โดยศาลจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งพนักงานสอบสวนพยายามจะขอฝากขัง เเต่ทางศาลพิเคราะห์เเล้วว่าตนไม่ได้ไปยุ่งกับพยานหลักฐาน จึงอนุญาตให้ปล่อยตัว ดังนั้นขั้นตอนหลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะต้องเร่งทำสำนวนให้เรียบร้อยเพื่อส่งอัยการ เเล้วอัยการจะพิจารณาส่งฟ้องต่อไป ซึ่งหากจะต้องถูกดำเนินคดี ตนก็ไม่กลัว "การต่อสู้ในครั้งนี้ ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้ว่าจะต้องเจออะไรบ้าง เเต่เราต้องเเลก การต่อสู้ดังกล่าวไม่ได้มาโดยง่าย เเม้เเลกกับการติดคุกติดตารางเราก็ต้องยอม" ส่วนการจับนั้น เจ้าหน้าที่ควรปฏิบัติอย่างรัดกุม เเล้วเเสดงตัวให้ชัดเจน ซึ่งตนไม่มีเจตนาหลบหนี ดังนั้นควรสวมเครื่องเเบบมา อย่ามานอกเครื่องเเบบ ตนไม่ใช่อาชญากร
ในเวลา 16.15 น. กลุ่มการ์ดของผู้ชุมนุม ได้เคลื่อนย้ายรถเมล์ตำรวจ 3 คัน ที่จอดอยู่บริเวณด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 โดยการเข็นออก พร้อมกับใช้คีมตัดลวดหนามที่ติดตั้งอยู่ด้านหน้าเเละบริเวณโดยรอบ ซึ่งระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ได้เริ่มเคลื่อนรถฉีดน้ำเเรงดันสูง 2 คัน ที่จอดเตรียมความพร้อมอยู่ด้านใน ขยับมาจอดชิดเเนวประตู ซึ่งทันทีที่มวลชนเห็นรถฉีดน้ำ ก็มีเสียงฮือพร้อมส่งเสียงโห่ร้องด้วยความไม่พอใจ
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.อรรถพล มีเสียง ผกก.สน.บางเขน ได้เข้ามาบริเวณด้านหน้ากรมทหารราบที่ 11 พร้อมประกาศผ่านเครื่องขยายเสียง ว่า การชุมนุมดังกล่าวเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาตการชุมนุมสาธารณะภายในระยะเวลาที่กำหนด อีกทั้งสถานที่ชุมนุมอยู่ห่างจากเขตพระราชฐานไม่เกิน 150 เมตร จึงขอให้ยุติการชุมนุมภายในเวลา 18.00 น. ผู้ใดฝ่าฝืนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
เวลา 18.00 น. ผู้ชุมนุมร่วมกันร้องเพลงชาติ ชู 3 นิ้ว ก่อนไมค์-ภาณุพงศ์ สั่งเคลื่อนขบวน ซึ่งแนวขบวนนำโดยการ์ดที่เดินคล้องแขนกัน 1 แถว ถัดไปเป็นกลุ่มผู้ชุมนุมและเป็ดยาง โดยพบพระสงฆ์ 1 รูป เดินถือธงสีแดงนำขบวนอีกด้วย ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ผู้ชุมนุมจึงเคลื่อนขบวนมาถึงด้านหน้าประตูทางเข้ากรมทหารราบที่ 11 โดยการ์ดเคลียร์พื้นที่ให้รถขยายเสียงเข้ามาจอดเป็นแนวขวางด้านหน้าประตู จากนั้นจึงขอให้กลุ่มผู้ชุมนุมส่งเป็ดยางมาวางไว้รวมกันด้านข้างเวที
บรรยากาศการชุมนุมของคณะราษฎร ที่กรมทหารราบที่ 11 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ (ร.11 ทม.รอ.) ถนนพหลโยธิน ตั้งแต่ป้ายด้าหน้า ถึงด้านในกรมทหาร ซึ่งปกติแล้วจะเปิดไฟส่องสว่าง แต่วันนี้เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดไฟส่องสว่างทั้งหมด ทำให้มวลชนที่มาร่วมชุมนุม ตะโกนโห่ร้องเพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่เปิดไฟ จากนั้นก็มีการฉีดพ้นสีสเปรย์ใส่รถเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 คันที่จอดเป็นกำแพงกั้นมวลชน
นอกจากนี้ผู้ชุมนุมร่วมกันโยนจรวดกระดาษ ข้อความเชิงสัญลักษณ์ หลังแถลงการณ์ของเพนกวินเสร็จสิ้น และร่อนเข้าไปในกรมทหารราบที่ 11
กระทั่งในเวลา 21.57 แกนนำได้ประกาศให้ตัวแทนผู้ชุมนุม นำสีแดงสาดใส่รั้วแผงเหล็กและหีบเพลง เพื่อแสดงสัญลักษณ์ โดยห้ามสาดใส่เจ้าหน้าที่ จากนั้นได้ประกาศว่าในวันที่ 2 ธ.ค. 63 จะเดินทางไปพร้อมกันที่ศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนบรรยากาศการชุมนุมของวันนี้ คาดว่าจะยุติในเวลา 22.00 น.
