กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความว่า “ช่วยกันหน่อยนะคะ หลานสาวหายจากบ้านไป 3 คืน 4 วัน พร้อมรถจักรยานยนต์ ติดต่อไม่ได้เลย ใครพบเห็นช่วยแจ้งด้วย ล่าสุดมีคนเห็นอยู่แถวนางั่ว จ.เพชรบูรณ์ ไปกับคนชื่อกอล์ฟ แล้วก็พ่อของเขาชื่อเก่ง คนแถวนั้นน่าจะรู้จักดี แต่ไม่รู้จะตามยังไง พ่อแม่เป็นห่วงมากคะ ไปตามก็ไม่รู้จะตามตรงไหน"
ทั้งนี้ในเวลาต่อมาพ่อและแม่ ด.ญ.แพรว อายุ 14 ปี ก็ได้เข้าแจ้งไว้ที่ สภ.ท่าพล จ.เพชรบูรณ์ ว่า บุตรสาวซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ได้หายออกจากบ้านไป เมื่อวันที่ 21 พ.ย.63 ที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ยังไม่ได้เจอตัว ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 27 พ.ย. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังบริเวณป่ารกร้าง รอยต่อระหว่างหมู่ 13 และหมู่ 12 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ลักษณะเป็นป่าดงดิบ ติดกับไร่ข้าวโพดของชาวบ้าน
ในเวลา 13.00 น. ขณะที่ทีมข่าวและเจ้าหน้าที่ชุดค้นหา ได้พักการค้นหา และมีการทานอาหารกลางวันกันที่ เทศบาลตำบลนางั่วนั้น จู่ ๆ ก็มียายแก่คนหนึ่ง รูปร่างผอม ผมสั้นหงอก ได้ถือธูปเทียน พร้อมกับมีการแสดงอาการร่ายรำ คล้ายกับมีการเข้าทรงบางอย่าง จากนั้นหญิงรายนี้ได้พูดขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกเจ้างัวทองบ้างลูก ทำเหมือนเจ้างัวทองโง่ อะไรกันวะ ปล่อยให้เจ้างัวทองงงเลย"
จากนั้นก็มีชาวบ้านพูดว่า ครอบครัวของน้องแพรวเขาไม่รู้ว่าต้องขอขมา ตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เขาไป สภ.ท่าพล กันหมด เขานึกไม่ถึงว่าต้องพึ่งเจ้างัวหลักทอง เดียวจะพาเขามาขอขมาเจ้างัวหลักทองทีหลัง
หญิงแก่รายนี้จึงตอบว่า "ถ้าข้าช่วย จะให้อะไรตอบแทน" ชาวบ้านจึงตอบว่า เป็นผลไม้ หรืออาหารคาวหวานได้ไหมเจ้าแม่" หญิงรายนี้จึงตอบว่า "ของพวกนี้กินเยอะก็ร้อนท้อง พวกเธอไม่มีหญ้าให้ข้ากินรึ"
ทีมข่าวจึงสอบถามหญิงแก่รายนี้ว่า น้องแพรวอยู่ที่ไหน หญิงแก่ตึงตอบว่า "เขาถูกบีบบังคับอยู่ เด็กไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตอนนี้ข้ามองไม่เห็นอะไรมาก เขายังไม่เปิดทางให้" จากนั้นหญิงสาวรายนี้ ได้นำมือปิดตาและนั่งลงกับพื้น ทำท่าคล้ายกับวิญญาณออกจากร่าง
หลังจากที่มีการเข้าทรงเสร็จ หญิงแก่รายนี้ ได้ไปไหว้ศาลประจำเทศบาลตำบลนางั่ว เพื่อทำการเปิดป่า ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้สอบถามกับหญิงรายนี้ ทราบชื่อนางจันทร์ ศรีคง ผู้ที่ถูกเจ้าแม่หลักงัวทองเข้าทรงดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวีว่า เมื่อสักครู่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ตนจำอะไรไม่ได้เลย ตนไม่ได้เป็นร่างทรง แต่ตนเคยถูกผีเข้า 1 ครั้ง เมื่อหลายปีมาแล้ว และมีครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2
โดยที่ตนมีอาการแปลก ๆ เมื่อสักครู่นี้น่าจะโดนเจ้าหลักงัวทองเข้าร่างตน และเจ้าแม่อาจเข้าสิงตนเพื่อมาบอกใหญ่ญาติน้องแพรวเคารพต่อสถานที่ มาทำพิธีเปิดป่า เพื่อจะได้เจอน้องแพรวในเร็ววัน
สำหรับปฏิบัติการค้นหาวันนี้ มีนางดา (นามสมมติ) แม่ของน้องแพรว พร้อมกับทีมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ต.นางั่ว และเช้าบ้านรวม 30 คน ได้แบ่งกำลังค้นหาแบบกระจัดกระจายทั้ง ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ โดยจะเน้นจุดค้นหาหลักที่บริเวณป่ารอยต่อหมู่ 13 และหมู่ 12 เนื่องจากเป็นป่าใกล้เคียงบ้านของนายกอล์ฟ ค้นหาประมาณ 15 คน รัศมีการค้นหาประมาณ 2 กิโลเมตร
จุดนี้มีนางดา แม่ของผู้สูญหายร่วมค้นหาด้วย โดยค้นหาตั้งแต่เวลา 09.00 น. ตามป่าละเมาะที่คาดว่า นายเก่ง และนายกอล์ฟ สองพ่อลูกจะนำตัวน้องแพรวมาซ่อน กระทั่งเวลา 13.00 น. ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ที่ได้หยุดพักกินข้าว เพื่อค้นหาน้องแพรวต่อในช่วงบ่าย
อย่างไรก็ตาม นางดา ก็ได้ค้นหาน้องแพรวตามป่าละเมาะด้วยใบหน้าที่มีความหวัง และให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่า ตนจะค้นหาลูก จนกว่าจะเจอลูกสาว จากนั้นเวลา 13.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าพล จ เพชรบูรณ์ ได้มารับตัวแม่ผู้สูญหายไปสอบปากคำ
จุดที่ 2 ทีมผุ้ใหญ่บ้านและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน กว่า 5 คน ได้ไปค้นหาที่บริเวณกระท่อมปลายนา ในท้องที่หมู่ 9 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ อยู่ห่างจากจุดค้นหาจุดแรกประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นจุดที่นายกอล์ฟ ได้เข้ามาขโมยเครื่องอุปโภคของชาวบ้าน เช่น ข้าวสาร น้ำตาล ปลากระป๋อง หม้อหุงข้าว โดยทำการขโมยในช่วงกลางคืนของวันที่ 25 พ.ย. 63 และเวลา 21.00 น.ของวันที่ 26 พ.ย. 63 นายกอล์ฟ ได้มาขโมยขนมที่กระท่อมปลายนาหลังเดิมอีกครั้ง ทำให้วันนี้เจ้าหน้าที่จึงมาค้นหานายกอล์ฟที่จุดดังกล่าว แต่ก็ไม่เจอเบาะแสเพิ่มเติม
ห่างจากกระท่อมปลายนาจุดนี้ไปอีก 100 เมตร เป็นบริเวณถนนลูกรัง จะเป็นจุดที่ชาวบ้านเจอนายกอล์ฟ ในเวลา 21.00 น.วันที่ 26 พ.ย. 63 ซึ่งทีมข่าวพร้อมกับเจ้าหน้าที่ ก็ได้ไปค้นหาที่จุดดังกล่าวนี้เช่นกัน แต่ก็ไม่เจอเบาะแส
ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางมายังกระท่อมปลายนาของนางแดง ช่วยปุ่น เจ้าของไร่ที่ถูกขโมยของ โดยนางแดง ได้พาทีมข่าวไปชี้จุดที่กระท่อมปลายนา บริเวณตู้เย็น และตู้กับข้าว ซึ่งบริเวณตู้เย็นของนางแดงนั้น ถูกโจรขโมยอาหารไปจนหมด เหลือเพียงตู้เย็นเปล่า ๆ และมีเพียงหน่อไม้ดองที่เหลือติดตู้เย็นเอาไว้
นางแดง ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 26 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ตนได้มาที่กระท่อมของตน และพบว่าข้าวของที่อยู่ในตู้เย็นนั้นได้หายไป เช่น ข้าวสาร น้ำตาล ปลากระป๋อง และหม้อหุงข้าวของตน ได้หายไปจากตู้เย็นและตู้กับข้าว ตนจึงได้ไปแจ้งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เพราะตั้งแต่ตนเอาของมาไว้ที่ไร่ ข้าวของก็ไม่เคยหาย มีครั้งนี้เป็นครั้งแรก
อีกทั้งวันนี้ตนยังพบว่า ขนมที่อยู่ในตู้เย็นของตน 3 ห่อ ก็ได้หายไปติดต่อกันเป็นวันที่ 2 และก็มีข้อมูลว่าผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 มาเจอนายกอล์ฟ ผู้ต้องสงสัย ใกล้กับกระท่อมปลายนาของตนอีก ตนจึงคิดว่าข้าวของตนที่หายไป น่าจะเป็นฝีมือของนายกอล์ฟ และตนก็ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กลัวว่าตนจะเป็นอันตราย ตนจึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ รีบจับตัวนายกอล์ฟให้ได้โดยเร็ว
นายสถาพร คงคาน้อย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 9 ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ และเป็นผู้ที่เจอนายกอล์ฟ เมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 21.00 น. ตนเห็นผู้ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่กับรถมอเตอไซค์สีชมพู และอยู่ห่างจากกระท่อมของนางแดง ชาวบ้านที่ข้าวของในตู้เย็นหาย ประมาณ 100 เมตร ตนจึงกลัวว่าชายรายนี้น่าจะเป็นโจร จึงได้เข้ามาสอบถามชายคนดังกล่าว
ตนได้สอบถามชายคนดังกล่าวว่า "มาทำอะไร" เขาก็ตอบว่า "มาส่องนก" จากนั้นชายคนดังกล่าวก็ขี่รถมอเตอไซค์ ทะเบียน อยษ 225 กทม. ออกไป ตนจึงมาเอะใจว่า คนที่ตนพูดคุยด้วยคือนายกอล์ฟ ลูกชายนายเก่ง คนที่พาตัวน้องแพรวไป และตนก็ยืนยันว่าตนจำใบหน้าของเขาได้ และทะเบียนรถได้ ว่าเป็นรถคันเดียวกันกับรถของน้องแพรว โดยตนเจอแต่นายกอล์ฟคนเดียว ไม่เจอนายเก่งและน้องแพรว
โดยตนคาดว่า เขาน่าจะมาก่อเหตุขโมยอาหาร และของกินชาวบ้าน ตามกระท่อมปลายนา ที่ชาวบ้านกักตุนเอาไว้ เนื่องจากคืนวันที่ 25 พ.ย. 63 เวลา 21.00 น. ได้หายไป กระทั่งคืนวันที่ 26 พ.ย.63 ของในตู้เย็นก็ยังมาหายอีก ตนจึงคาดว่านายกอล์ฟน่าจะมาขโมยของชาวบ้านไปกิน
หลังให้สัมภาษณ์นายสถาพร ได้พาทีมข่าวไปชี้จุดที่เจอนายกอล์ฟ ในเมื่อคืนนี้ ลักษณะเป็นป่าละเมาะข้างทางลูกรัง เป็นทางลูกรังเพื่อเข้าไปสู้ไร่ของนางแดง ชาวบ้านที่ถูกขโมยของ อยู่ห่างจากไร่นางแดง ประมาณ 100 เมตร
หลังจากค้นหาที่กระท่อมปลายนาเสร็จ ทีมข่าวและชาวบ้านที่ค้นหา ได้ไปค้นหาเบาะแสต่อที่ สถานปฏิบัติธรรมพระศรีพรหมญาณ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ อยู่ห่างจากกระท่อมปลายนาจุดที่ 2 ประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นสถานปฏิบัติธรรมร้าง ไม่มีผู้อยู่อาศัย และอยู่บนเขากลางป่า ชาวบ้านคาดว่านายกอล์ฟ นายเก่ง น่าจะพาตัวน้องแพรว ไปอาศัยอยู่ที่ดังกล่าวนั้น
เมื่อทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี และชาวบ้านที่ค้นหามาถึงสถานปฏิบัติธรรมดังกล่าว ปรากฏว่าเป็นสถานปฏิบัติธรรมร้าง ไม่มีผู้พักอาศัย ทีมข่าวและเจ้าหน้าที่ได้ค้นหาทั่ววัด ก็ไม่เจอเบาะแสเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ทั้งนี้ในเวลา 14.00 น. ทีมข่าวได้ข้อมูลจากกำนัน ต.นางั่ว อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ว่า เมื่อวานนี้นายกอล์ฟ ได้ส่งข้อความแชตเฟชบุ๊ก ไปขอเงินแม่ ที่ทำงานอยู่ กทม. จำนวน 100 บาท และได้บอกแม่ว่า "ขอเงินไปกินข้าวหน่อยแม่ กอล์ฟหิว" ก่อนที่ผู้เป็นแม่จะตอบกลับลูกว่า ให้ลูกชายเอาน้องแพรวไปส่งคืนครอบครัว และไปมอบตัวเร็ว ๆ
ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าพล จะออกหมายจับ 2 พ่อลูก นายเก่ง อายุ 42 ปี พ่อของนายกอล์ฟ อายุ 15 ปี หลังล่อลวงเด็กสาววัย 14 ปี โดยเบื้องต้นตั้งข้อหา พรากผู้เยาว์อายุไม่เกิน 15 ปี ไปจากบิดามารดา โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว
ด้านน้องนุ่น อายุ 20 ปี ญาติของน้องแพรว เปิดเผยว่า ช่วงเช้าเมื่อวานนี้ ตนได้ส่งข้อความไปในอินบ็อกซ์เฟซบุ๊กน้องแพรว ปรากฏว่าได้มีการเปิดอ่าน แต่ไม่มีการตอบกลับ หรือพูดคุยอะไร จึงไม่แน่ใจว่าเป็นน้องแพรวหรือนายกอล์ฟเป็นคนเปิดอ่าน ยังเชื่อว่าน้องแพรวยังมีชีวิตอยู่ แต่ไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนเท่านั้นเอง
นางดา (นามสมมติ) แม่ของน้องแพรว หลังทำพิธีได้ขอขมาปู่สังกะสา ย่าสังกะสี ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า วันนี้ตนก็ได้ไปค้นหาลูกสาวที่ป่าแนวรอยต่อระหว่างหมู่ 13 และหมู่ 12 ของ ต.นางั่ว จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งไปตามเบาะแสที่ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 พาไป แต่ตนก็ไม่เจอเบาะแสลูกสาวเพิ่มเติมแต่อย่างใด
ถึงแม้วันนี้จะเป็นวันที่ 6 ในการค้นหาลูกสาวแล้ว ตนยอมรับว่าเหนื่อย ลำบาก แต่ตนก็ต้องสู้ต่อไป เพื่อที่ตนจะได้เจอตัวลูกสาว วันนี้ตนก็ได้ทำทุกกวิถีทาง และก็ได้มาพึ่งร่างทรงปู่ย่า และจากการพูกคุยกับร่างทรง ตนก็รู้สึกสบายใจขึ้น เพราะร่างทรงบอกว่าลูกสาวอยู่สบาย อีก 2 วันจะเจอตัว และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ให้ข้อมูลตนว่า นายกอล์ฟและนายเก่ง ยังอยู่ในพื้นที่
นางดา กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนอยากให้นายกอล์ฟนายเก่งนำลูกสาวตนมาคืน ตนเป็นห่วงลูกมาก ตนนอนไม่หลับเลยสักคืน ตนรู้ว่าตนเป็นคนที่ชอบบ่นให้ลูก แต่ตนทำไปเพราะรัก ตนเป็นห่วงลูก ตนถึงทำอย่างนั้น ที่ผ่านมาลูกสาวมีน้อยใจตนบ้าง และเคยตะคอกให้ตนเวลาที่ตนบ่น แต่ตนอยากบอกลูกสาวว่า "ลูกกลับบ้านเรานะ แม่จะลดอาการขี้โมโหลง ลูกก็รู้ว่าแม่เป็นโรคเครียด บางทีมีอะไรนิดหน่อย แม่ก็ชอบเครียด ชอบบ่น"
