หนุ่มกอดมีดดับปริศนาพบรอยแทงทั่วร่าง 11 แผล ญาติคาใจหึงเมียรุ่นลูกไม่เชื่อคิดสั้น (คลิป)

24 พ.ย. 63

กรณีพ.ต.ท.ณัฐ ผดุงรัตน์ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.เมืองสระบุรี พร้อมกู้ภัยสว่างรัตนตรัยสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุว่านายทูล ศรีสว่าง อายุ 46 ปี ชาว จ.อุบลราชธานี นอนเสียชีวิตอยู่ในห้องเช่าที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ตลิ่งชัน อ.เมือง จ.สระบุรี

986751

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบห้องแถวเช่าจำนวน 9 ห้อง ส่วนห้องที่เกิดเหตุคือห้องหมายเลข 1 ไม่พบร่องรอยของการต่อสู้ สภาพศพสวมใส่เสื้อยืดสีเทาแขนสั้นสวมกางเกงยีนส์ นอนตะแคงอยู่บนที่นอน มีเลือดท่วมตัว กอดมีดสปาต้ายาว 50 ซม. อยู่ติดหน้าอก ตามร่างกายพบบาดแผลจำนวน 11 แผล แบ่งเป็นบริเวณหน้าท้อง 4 แผล บริเวณลำคอ 3 แผล และบริเวณริมกกหูด้านขวา 4 แผล

831500

นางสาวสุดา ศรีสว่าง อายุ 21 ปี ภรรยาของผู้ตาย ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยแห่งหนึ่งใกล้ที่เกิดเหตุ บอกว่า ตนอยู่กับผู้ตายที่ห้องเช่าห้องนี้ได้ประมาณ 1 ปี ในวันเกิดเหตุตนเลิกงานออกมาประมาณ 21.00 น. เมื่อกลับมาถึงห้องพักก็รู้สึกแปลกใจ เนื่องจากสามีไม่เปิดไฟรออย่างเช่นทุกวัน อีกทั้งยังไม่ปิดประตูห้อง โดยหลังจากที่ตนเดินเข้าไปภายในห้องก็พบว่าสามีนอนตะแคง มีเลือดเต็มที่นอน จึงได้เข้าไปเขย่าร่างสามี แต่สามีแน่นิ่งเสียชีวิตแล้ว

cg_7992131

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจคาดว่าสาเหตุของการก่อเหตุของผู้ตายน่าจะเกิดโรคซึมเศร้า จึงลงมือทำร้ายตัวเอง แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่ตัดประเด็นเกี่ยวกับการชิงทรัพย์ ถึงแม้ทรัพย์สินใด ๆ จะไม่สูญหาย เนื่องจากผู้ตายไม่น่าจะสามารถทำร้ายตัวเองให้มีแผลจำนวนมากขนาดนี้ได้ อีกทั้งในพื้นที่เกิดเหตุยังมีแรงงานต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการส่งร่างของผู้ตายไปผ่าพิสูจน์ที่ รพ.ศูนย์การแพทย์สมเด็จพระเทพ มศว องครักษ์ จ.นครนายก ต่อไป

292269

ล่าสุดวันที่ 24 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้ลงพื้นที่ห้องเช่าดังกล่าว พบเป็นห้องเช่าท้ายซอย ภายในห้องได้ทำการเช็ดทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายวิญญู เวกสูงเนิน อายุ 67 ปี เจ้าของห้องเช่า ซึ่งเปิดร้านขายของชำอยู่ห่างจากห้องเช่าที่เกิดเหตุประมาณ 150 เมตร บอกกับทีมข่าวว่า ผู้ตายกับภรรยาได้เข้ามาเช่าห้องตั้งแต่เดือนม.ค.63 ที่ผ่านมา ผู้ตายเป็นคนยิ้มแย้มแต่นิ่งเงียบ ใครพูดด้วยถึงจะพูด ถามคำตอบคำ ไม่สุงสิงกับใคร ส่วนภรรยานั้นก็ไม่สุงสิงกับใครเข่นกัน

โดยทั้งคู่นั้นมักจะทะเลาะกันบ่อย โดยเฉพาะเวลาที่ผู้ตายเมา ผู้ตายมักจะกล่าวหาว่าภรรยาแอบไปมีคนอื่นเป็นประจำ แต่เท่าที่ตนสังเกตและสอบถามชาวบ้านก็ไม่เคยมีผู้ชายคนใดมายุ่งเกี่ยวกับภรรยาผู้ตายแม้แต่คนเดียว กระทั่งเดือนต.ค.63 ตนได้เข้าไปตักเตือนทั้งคู่ว่า “เป็นอะไรกัน ทะเลาะกันทุกวัน ลุงรับไม่ได้นะ รบกวนคนข้างห้อง” ซึ่งผู้ตายก็รับปาก “ต่อไปจะไม่ให้มีเรื่องแบบนี้อีก จะไม่ทะเลาะกันเสียงดังอีก”

332868

เมื่อสัปดาห์ก่อน ผู้ตายนั้นได้เดินทางกลับบ้านที่ จ.อุบลราชธานี เพื่อไปเลิกสุรา และเพิ่งจะกลับมาถึง จ.สระบุรี เมื่อวันที่ 21 พ.ย.63 ที่ผ่านมา โดยเมื่อวานนี้ (23 พ.ย.63) ตนได้พบกับผู้ตายครั้งสุดท้ายในช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. ผู้ตายได้นำเงินค่าของที่ติดตนไว้มาจ่ายให้ตน ซึ่งตนสังเกตเห็นว่าผู้ตายนั้นเดินก้มหน้าผิดปกติ คล้ายคนอ่อนเพลีย ไม่พูดไม่จาแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน จึงได้ทักผู้ตายไปว่า “เป็นอะไร ?” ผู้ตายได้ตอบกลับมาว่า “เฮียคิดเงินให้ผมหน่อย” ตนจึงบอกไปว่า “คิดไว้ให้แล้ว 720 บาท”

862115

เมื่อจ่ายเงินแล้ว ตนก็ได้พยายามถามผู้ตายอีกหลายครั้งว่าเป็นอะไร แต่ผู้ตายไม่ได้ตอบอะไร แค่ยิ้มให้แล้วเดินออกไป คาดว่าน่าจะกลับไปทำงานโรงงานตามปกติ ซึ่งตนไม่คิดมาก่อนว่าผู้ตายจะก่อเหตุฆ่าตัวตายเช่นนี้ สำหรับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ตนคิดว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากผู้ตายน่าจะมีอาการเครียดหลังจากที่กลับมาตากการเลิกสุรา ประกอบกับคิดมากว่าภรรยาจะแอบไปมีผู้ชายคนใหม่ ทำให้กลายเป็นโรคซึมเศร้า และก่อเหตุในที่สุด 

ส่วนภรรยาของผู้ตายนั้น วันนี้ในเวลา 9.00 น. ได้มาแจ้งขอย้ายออกจากห้องเช่า และขอตัวเดินทางกลับ จ.อุบลราชธานี คาดว่าจะกลับไปเตรียมงานศพให้ผู้ตาย และน่าจะยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

663556

นายแซง ศรีสว่าง อายุ 44 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า หลังรู้ข่าวตนเสียใจมาก อีกทั้งไม่สบายใจ ส่วนเรื่องลูกไปทำงานก็ไม่รู้ว่าไปมีเรื่องกับใคร เสียใจที่ไม่ได้อยู่กับลูกชาย พร้อมยอมรับว่าเสียใจมากจริง ๆ คิดว่าลูกชายคงไม่ฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน น่าจะถูกฆาตกรรม แต่ยังไม่อยากจะสงสัยใคร

ทั้งนี้ช่วงที่ลูกชายกลับมาบ้าน ลูกชายก็จะร่าเริง และจะอยู่กับน้องชาย มีอะไรพี่น้องก็จะคุยกัน ส่วนงานศพก็จะจัดตามประเพณีต่อไป สำหรับเรื่องคดีต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส