จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก
Patiya Mahawong โพสต์คลิปจากกล้องวงจรปิด จับภาพขณะรถยนต์ขับรถเลี้ยวเข้าซอยตรงตลาดอินดี้ดาวคะนอง แต่กลับเร่งความเร็วจนขับไปทับหมา โดยที่น้องหมาพยายามวิ่งหนีตาย แต่ก็ไม่ทันเนื่องจากน้องหมาโดนทับกลางหลัง จนในที่สุดสุนัขเสียชีวิต
ล่าสุด วันนี้ (30 มี.ค.) ทีมข่าวได้เดินทางมาที่จุดเกิดเหตุ บริเวณซอยสุขสวัสดิ์ 2 พบว่า ซอยดังกล่าวมีรถเข้าออกเป็นจำนวนมาก ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุคือตลาดอินดี้ มาร์เก็ท ซึ่งเป็นตลาดนัดที่เป็นแหล่งเดินเที่ยวของกลุ่มวัยรุ่น และผู้ที่เข้ามาซื้อของภายในตลาด ต้องนำรถเข้าไปจอดภายในซอยดังกล่าว จึงทำให้ปริมาณรถเข้าออกเป็นจำนวนมาก โดยมีบางช่วงที่รถจะติดเป็นเวลานาน
นอกจากนี้ ที่ซอยดังกล่าวสามารถขับทะลุไปที่โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ได้ และในซอยจะมีกล้องวงจรปิดที่บริเวณหน้าปากซอย 2 ตัว และอีกหนึ่งตัวคือบริเวณหน้าสำนักงานของตลาด
น.ส.วรัญภัทร ไทรจันทร์ หรือ "เกล" พนักงานดูแลตลาดอินดี้ มาร์เก็ท ได้พาทีมข่าวดูจุดเกิดเหตุ พบว่าจุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากหน้าปากซอยสุขสวัสดิ์ 2 ไม่ถึง 2 เมตร คาดว่ารถคันดังกล่าวต้องขับมาเร็วมาก
น.ส.วรัญภัทร เล่าว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 01.00 น. แต่ตนไม่เห็นเหตุการณ์ขณะที่ "เจ้าอินดี้" โดนชน แต่ตนเห็นตอนที่ "เจ้าอินดี้" ถูกรถชนแล้ววิ่งไปบริเวณใกล้กับท่อระบายน้ำ ก่อนที่ประชาชนจะเข้ามามุงดู เมื่อตนเข้าไปดูเห็นมีเลือดอาบแต่ยังไม่ตาย คาดว่าได้รับบาดเจ็บช่วงหน้าอก และศีรษะ ส่วนล้อหลังของรถน่าจะทับกระดูกช่วงขา เนื่องจากจุดนี้มีเลือดไหลออกมาจำนวนมาก
ตนจึงได้รีบพา "เจ้าอินดี้" ไปที่โรงพยาบาล ทางแพทย์บอกว่า "เจ้าอินดี้" ได้หมดลมหายใจแล้ว คาดว่าน่าจะสิ้นลมตอนช่วงที่เดินทางมาโรงพยาบาล
น.ส.วรัญภัทร เล่าว่า ตอนที่ตนทราบว่า "เจ้าอินดี้" ถูกรถชนก็รู้สึกตกใจ เนื่องจากตนคิดว่า "เจ้าอินดี้" ไม่ใช่สุนัขที่ประมาท และเป็นสุนัขที่คนในตลาดรักมาก จึงไม่คิดว่าจะต้องมาถูกรถชนเช่นนี้ ตนจึงเชื่อว่ารถที่ขับเข้ามาจะต้องขับเข้ามาเร็วเป็นอย่างมาก ประกอบกับเมื่อรถคันดังกล่าวขับชนสุนัขแล้วกลับไม่ลงมาดู สื่อได้ว่าเป็นคนไม่มีน้ำใจ
นอกจากนี้ น.ส.วรัญภัทร ยอมรับว่า โกรธที่คนขับรถชนไม่ลงมาดูเพราะสุนัขก็มีชีวิต ส่วนทางด้านคนขับก็ไม่ได้มีการแสดงตัวหรือแสดงความรับผิดชอบแต่อย่างใด เนื่องจาก อาจคิดว่า "เจ้าอินดี้" เป็นสุนัขจรจัด
อย่างไร ถือว่าเป็นสัตว์ที่มีชีวิตเช่นกัน และขอฝากถึงผู้ที่ขับรถว่า อยากให้คำนึงถึงความปลอดภัย เพื่อไม่ให้เกิดความประมาท สำหรับกรณีที่เกิดขึ้น หากไม่ได้เกิดขึ้นกับสุนัขแต่เกิดกับเด็กเล็กจะเป็นอย่างไร เพราะเรื่องคงไม่จบง่ายๆ อย่างแน่นอน