5 แกนนำ นปช.ร้องศาลพิจารณา ปมฟ้องคดีซ้ำซ้อน ชุมนุมไล่รัฐบาลอภิสิทธิ์-ล้มประชุมอาเซียน

23 พ.ย. 63

ศาลพัทยา เลื่อนนัดสืบพยานคดี นปช. ชุมนุมไล่รัฐบาล "อภิสิทธิ์" ปี 52 ออกไปเป็น 8 ก.พ. 64 หลัง 5 แกนนำ นปช.ร้องศาลพิจารณา ปมการฟ้องซ้ำซ้อนคดีล้มประชุมอาเซียนที่พัทยา ขอรอฟังคำวินิจฉัยจากศาลฎีกาก่อน

เมื่อวันที่ 23 พ.ย. 63 ที่ศาลจังหวัดพัทยา จ.ชลบุรี นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตประธาน นปช. นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. นพ.เหวง โตจิราการ แกนนำ นปช. และนายอดิศร เพียงเกษ อดีตแกนนำ นปช. ได้เดินทางมาศาลตามที่ศาลฎีกานัดพร้อมและตรวจพยานหลักฐาน ในคดีผู้สนับสนุนจัดการชุมนุมใหญ่ขับไล่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เมื่อปี 2552 ซึ่งในส่วนของเหตุที่เกิดขึ้นที่พัทยา เป็นการล้มการประชุมอาเซียน

ทั้งนี้ อัยการเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง 5 แกนนำ นปช. ในความผิดฐานร่วมกันทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจาฯ เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปฯ กระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง โดยเป็นหัวหน้าหรือผู้มีหน้าที่สั่งการ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และฝ่าฝืน พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ที่ห้ามชุมนุมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ซึ่งจำเลยได้ยื่นฎีกาว่ามีการฟ้องซ้ำซ้อนกับการดำเนินคดีที่กรุงเทพฯ ซึ่งในชั้นของศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่าฟ้องซ้ำ แต่อัยการได้ยื่นอุทธรณ์กลับคำวินิจฉัยของศาลชั้นต้นว่าไม่ได้ฟ้องซ้ำกัน

โดยวันนี้ทั้ง 4 แกนนำ นปช.ที่เป็นจำเลย เดินทางมาศาลจังหวัดพัทยา ส่วนนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ซึ่งยังต้องโทษอยู่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ จึงดำเนินการผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ซึ่งในวันนี้ศาลได้มีการเลื่อนการนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานและรอคำพิพากษาของศาลฎีกาออกไป เป็นวันที่ 8 ก.พ. 64

นายจตุพร กล่าวว่า เนื่องจากได้มีการร้องมายังศาลจังหวัดพัทยาในว่าได้มีการฟ้องร้องซ้ำซ้อนกับที่กรุงเทพฯ ซึ่งทางศาลชั้นต้นก็ได้วินิจฉัยว่าเป็นการฟ้องซ้อน ต่อมาทางอัยการได้ยื่นอุทธรณ์กลับคำวินิจฉัยว่าไม่ได้ฟ้องซ้ำ พวกตนจึงได้ยื่นฎีกา ทั้งนี้ ระหว่างรอฎีกาทางศาลจังหวัดพัทยาได้นัดกว้าง ๆ กันเอาไว้ในวันนี้เพื่อที่จะนัดพร้อม แต่ถ้าศาลฎีกายังไม่มีคำวินิจฉัย จึงได้ขอศาลจังหวัดพัทยาได้เลื่อนการวินิจฉัยออกไปก่อน ซึ่งจะผูกพันกับคดีที่ศาลอาญา กรุงเทพฯ เพราะว่าพยานปากที่ 2 เป็นต้นไปนั้นก็เป็นพยานในคดีของพัทยา คือมีการฟ้องซ้อนกันมาอย่างชัดเจนตั้งแต่ต้น เพราะว่าทางทนายได้ซักถามคดีพัทยาในสำนวนแรกกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ว่าทำไมไม่ฟ้องกลุ่มของตนในศาลจังหวัดพัทยา โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตอบว่า เหตุของตนนั้นเกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ จึงได้มีการฟ้องร้องที่กรุงเทพฯ โดยวันนี้จะได้รอก่อนว่าจะมีการวินิจฉัยกันแล้วหรือยัง จึงอยากให้รอคำวินิจฉัยของศาลฎีกา

ด้านนายอดิศร กล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้ของแกนนำและแนวร่วม นปช.ในวันนี้เพื่อตรวจพยานหลักฐาน แต่ด้วยพยานหลักฐานอัยการโจทย์ยังไม่พร้อม จึงขอนัดตรวจพยานหลักฐานอีกครั้งในวันที่ 8 ก.พ. 64 ทั้งนี้จำเลยทั้ง 5 คนยังยื่นยันว่าคดีความที่เกิดที่พัทยาพยานหลักฐานเป็นชุดเดียวกับคดีที่ศาลอาญารัชดาภิเษก ซึ่งแกนนำมีความมั่นใจว่า ตามหลักกฎหมายเป็นการฟ้องซ้ำจึงอยากให้รอคำพิพากษาของศาลฎีกาจนถึงที่สุด ก่อนที่จะมีการดำเนินการต่อไป ซึ่งการยื่นฟ้องครั้งนี้ถือเป็นการฟ้องซ้อนเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี ทั้งนี้จำเลยทั้ง 5 คนได้ยื่นฎีกาไว้ ทั้งนี้ ที่ผ่านมาศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยว่าเป็นการฟ้องซ้ำ แต่ศาลอุธรณ์กลับคำวินิจฉัยให้มีการสืบพยายน ซึ่งแกนนำมีความมั่นใจว่าศาลฎีกาจะให้ความยุติธรรม เนื่องจากการชุมนุมเมื่อปี 2552 จำเลยทั้ง 5 คนไม่ได้มาที่พัทยาเลยในคดีที่ 2 จะเป็นผู้สนับสนุนหรือผู้บงการมันก็ไกลกว่าเหตุมากเกินไปจะเป็นคดีกลั่นแกล้งหรือเปล่าไม่รู้ คดีเดียวจำเลยต้องรับโทษครั้งเดียวจะยกฟ้องก็ยกฟ้องครั้งเดียว หากพิจารณาที่ศาลพัทยาและศาลอาญารัชดาพวกตัวเองก็ต้องถูกประหารชีวิต 2 ครั้งแบบนั้นหรือ ตามหลักกฎหมาย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวการเมือง เป็นกระแส