"โจอี้ บาซู" คาใจ ตร.จับสาวขี้ยาดันปล่อย ตร.ฉะมั่ว - รปภ.ยัวะ ใส่ร้ายติดยา (คลิป)

29 มี.ค. 61
จากกรณีที่อดีตนักร้องดัง "โจอี้ บาซู" หรือ นายศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังถูกปล่อยตัวในคดีเสพสารเสพติด อ้างว่าตนเองเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยงานราชการตำรวจและถูกจับนั้น
นายศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต หรือ โจอี้ บาซู ใน "รายการต่างคนต่างคิด"
ล่าสุด วันนี้ (28 มี.ค.) นายศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต หรือ โจอี้ บาซู เปิดเผยใน "รายการต่างคนต่างคิด" ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์อมรินทร์ ทีวี ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 18.50 น. โดยเปิดเผยว่า 2-3 เดือนก่อนที่ตนจะโดนจับกุมในคดีเสพ ตนได้เข้าไปพูดคุยกับตำรวจนอกเครื่องแบบนายหนึ่ง ซึ่งได้ขอให้ตนช่วยจับกุมกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนกระทั่งมีการจับกุมได้สำเร็จ ส่วนในวันที่ตนถูกจับกุม ยอมรับว่าเสพจริงเนื่องจากความเครียด โดยเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งเป็นคนนำติดตัวมาที่ห้องของตนภายในคอนโดชั้น 5 ด้วย แต่มีปริมาณน้อยมาก เมื่อตำรวจมาถึง ยังบอกให้ตนโทรไปหาพวกที่อยู่ชั้น 8 โดยบอกตนว่า พวกนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จนกระทั่งกลุ่มที่อยู่ชั้น 8 ถูกจับกุมตัวด้วย แต่ตำรวจกลับไม่พูดถึงคนกลุ่มนี้ผ่านสื่อเลย
นายศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต หรือ โจอี้ บาซู ใน "รายการต่างคนต่างคิด"
หลังจากนี้ก็พร้อมยอมรับว่าผิด พร้อมกับเข้าใจยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นได้ เช่น การโดนแบนจากวงการบันเทิง แต่ทั้งนี้ก็รู้สึกคาใจว่า ผู้หญิงที่ถูกจับกุมตัวด้วยในวันนี้ หายไปไหน ทั้งนี้ โจอี้ถึงกับร่ำไห้ในรายการขณะกล่าวถึงกรณีที่ลูกสาวหาเงินมาประกันตัวให้ ซึ่งขณะอยู่ในสถานบำบัด ตนคิดว่าจะไม่มีใครมาประกันตัวด้วยซ้ำ โดยหลังจากนี้ได้สัญญากับลูกสาวแล้วว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีก นอกจากนี้ หลังจากจบรายการต่างคนต่างคิด นายโจอี้เปิดเผยเพิ่มเติมด้วยว่า ตนเสพยาจริง ไม่จำเป็นต้องโกหก แต่ที่ตนเสพไปเพื่อช่วยคน เพราะถึงแม้ว่ายาเสพติดมันไม่ดี แต่หลังจากการเสพแล้วมันจะไปช่วยกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัวตลอดเวลา ดังนั้นหากจะไปทำงานหรือช่วยเหลือใครก็ตาม จะทำให้ไม่หลับ และทำงานนั้นในระยะเวลานานได้ แต่ก็ยอมรับว่ามีข้อเสียมากกว่า
นายศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต หรือ โจอี้ บาซู ให้สัมภาษณ์หลังจบ "รายการต่างคนต่างคิด"
ทั้งนี้ ที่ทำไปเพราะมีการขอความร่วมมือจากทางการให้ช่วยเหลือในการให้ข้อมูลต่าง ๆ แต่การตัดสินใจเสพ เป็นการตัดสินใจส่วนตัว ไม่เกี่ยวกับราชการ โดยโจอี้บอกด้วยว่า กระบวนการสืบสวนสอบสวนส่วนใหญ่ หากไม่เสพ ก็จะไม่มีวันเข้าไปถึงใครที่ต้องการข้อมูลแน่นอน สำหรับการที่ตำรวจออกมายืนยันว่าตนไม่ใช่สายของตำรวจ โจอี้บอกว่า จริง ๆ ตนเป็นอะไรก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเรียกว่าเป็นสายก็ได้ ซึ่งตนยืนยันว่าตนช่วยเหลืองานราชการจริง
พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผู้กำกับการ สน.โชคชัย
อย่างไรก็ตาม ที่สถานีตำรวจนครบาลโชคชัย พ.ต.อ.สุพล ค้ำชู ผู้กำกับการ สน.โชคชัย ชี้แจงถึงกรณีที่ นายโจอี้ บาซู อ้างว่าทำงานเป็นสายให้กับหน่วยงานราชการนั้น ไม่เป็นความจริง ส่วนจะทำงานให้หน่วยราชการอื่นหรือไม่นั้น จากที่ตรวจสอบก็ไม่พบข้อมูลปรากฏชื่อของอดีตนักร้องดังคนนี้ และตนเองก็ไม่เคยรู้จัก โจอี้ บาซู เป็นการส่วนตัวมาก่อน ดังนั้นโจอี้ บาซู ไม่ใช่สายตำรวจอย่างแน่นอน และไม่เคยให้ไปล่อซื้อยาเสพติด โจอี้ บาซู อยากพูดอะไรก็ให้พูดไป เพราะไม่ใช่ความจริง ตำรวจหาเบาะแสได้เอง
นายศุรเฎฒฌ์ กรณ์งูเหลือมโชต หรือ โจอี้ บาซู ขณะถูกเข้าจับกุม
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ.สุพล ชี้แจงด้วยว่า วันที่เข้าไปจับกุม โจอี้ บาซู ที่คอนโด ย่านซอยนาคนิวาส ชุดสืบสวนได้เบาะแสว่า มีการเสพยาเสพติดในคอนโดดังกล่าว เมื่อเข้าไปจับกุม จึงพบว่าผู้เสพ คือ โจอี้ บาซู ส่วนคนเสพยาที่อยู่ชั้น 8 ตามที่นาย โจอี้ กล่าวอ้าง ตนขอไม่ให้รายละเอียด แต่ยืนยันว่าจับกุมทั้งหมดทุกคนที่เสพยาในวันนั้น รวมถึงได้จับกุมผู้อื่นที่เสพยา ในคอนโดประมาณ 5 ราย ส่วนรายละเอียด ผู้ต้องหาเป็นใคร จะเป็นผู้ชาย หรือผู้หญิง ตนเองขอไม่ให้รายละเอียดส่วนนี้
นายสมัย ยอดบัว พนักงานรักษาความปลอดภัยคอนโดฯ
ด้าน นายสมัย ยอดบัว พนักงานรักษาความปลอดภัยคอนโด ที่โจอี้ บาซู อาศัยอยู่ เปิดเผยถึงกรณีที่ถูก โจอี้ บาซู กล่าวหาว่าตนเองเสพยาว่า ตนยินดีที่จะให้ตรวจร่างกายหาสารเสพติด แต่ยอมรับว่าในอดีตเคยมีประวัติเสพยา 1 ครั้ง แต่เลิกเสพมาแล้ว 5-6 ปี ซึ่งตอนนี้ตนเข็ดกับการเสพยา จึงไม่คิดกลับไปยุ่งเกี่ยวอีก นายสมัยถึงกรณีการยืมเงินว่า แม้โจอี้จะไม่ได้ยืมเงินตนไปจริง แต่ไปยืมเงินกับลูกน้องของตนที่ชื่อ 'มะ' ประมาณ 1,000 บาท และไม่ได้มีการเซ็นสัญญากู้ยืมเงินกัน จึงไม่มีหลักฐาน อย่างไรก็ตาม ก่อนที่โจอี้จะถูกจับ ตนไม่เห็นเหตุการณ์ว่า โจอี้มีการโทรศัพท์หาผู้หญิงอีกคนหรือไม่ ทราบเพียงว่าตอนที่โดนจับไป ก็มีผู้หญิงคนอีกคนเดินตามขึ้นรถไป แต่ไม่ได้ใส่กุญแจมือ ซึ่งตนไม่มั่นใจว่า โดนข้อหาเดียวกันหรือไม่ ส่วนกรณีที่มีการควบคุมตัวไปขณะนั้น ตนไม่ทราบว่ามีกี่คน เพราะเหตุการณ์อยู่ในช่วงเวลากลางคืนและค่อนข้างมืด

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ