เมื่อวันที่ 12 พ.ย.63 ร.ต.อ.วิฑูรย์ เพ็งบุปผา รองสารวัตรสอบสวน สภ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถบรรทุกพ่วงชนรถยนต์กระบะ มีผู้ได้รับบาดเจ็บอาการสาหัสติดอยู่ในซากรถยนต์กระบะ บริเวณกลางสี่แยกการเคหะเมืองใหม่บางพลี ถนนเทพารักษ์ หลักกิโลเมตรที่ 23 ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถกระบะฟอร์ด สีน้ำเงิน ทะเบียน 7 กถ 3425 กรุงเทพฯ สภาพรถแถบขวาพังยับเยิน จอดขวางท้ายรถอยู่บนเกาะกลางถนน ภายในรถด้านคนขับพบผู้บาดเจ็บอาการสาหัส ทราบชื่อนายทศพร อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้อุปกรณ์เครื่องตัดถ่างงัดรถ ให้การช่วยเหลือนำออกจากตัวรถ ก่อนกู้ชีพ รพ.บางบ่อ เคลื่อนย้ายนำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 3 อินเตอร์
นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บเป็นหญิงทราบชื่อน.ส.วรรณิดา อายุ 28 ปี ซึ่งนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ สีแดง ทะเบียน 1 ขล 8335 กรุงเทพฯ จอดติดไฟแดงอยู่ถูกเฉี่ยวชน อาสาสมัครช่วยเหลือนำส่ง รพ.จุฬารัตน์ 5 โดยพบรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุกพ่วง จอดอยู่บนฟุตพาท กลางถนนมีนายกิจการ บุญสุข อายุ 47 ปี เป็นคนขับ ยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการสอบถามนายกิจการ เล่าว่า ตนขับรถบรรทุกออกมาจากนิคมอุตสาหกรรมบางพลี มุ่งหน้าออกถนนเทพรัตน์ (บางนา–ตราด) เพื่อไปส่งสินค้าที่จังหวัดนครสวรรค์ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุเป็นสัญญาณไฟเขียว ระหว่างนั้นมีรถกระบะวิ่งมาทางด้านซ้ายจากทางบางพลี ฝ่าสัญญาณไฟแดงออกมา ตัดหน้ากระชั้นชิด ตนเบรกรถไม่ทันจึงพุ่งชนอย่างจัง
เมื่อทีมข่าวตรวจสอบภาพวงจรปิดบริเวณสี่แยกการเคหะเมืองใหม่บางพลี ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ จับภาพนาทีชีวิตเอาไว้ได้อย่างชัดเจน จากภาพวงจรปิดจะเห็นว่ารถยนต์กระบะฟอร์ดสีน้ำเงิน ซึ่งขับขี่มาจากถนนเทพารักษ์ มุ่งหน้าบางบ่อ เมื่อมาถึงที่สี่แยกไฟแดง เป็นจังหวะสัญญาญไฟเขียว จึงทำให้ออกตัวจากสี่แยก
แต่เป็นจังหวะที้มีรถพ่วงคู่กรณี ที่ขับมาจากทางด้านนิคมบางพลีด้วยความเร็ว และไม่ได้เบรก พุ่งฝ่าไฟแดงชนเข้ากลางลำของรถกระบะ และกระเด็นไปเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์อีกคันจนทำให้มีผู้บาดเจ็บสาหัส โดยจากภาพวงจรปิดดังกล่าวกลายเป็นหลักฐานสำคัญในการดำเนินคดีกับคนขับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ อย่างไรก็ตาม ทางด้านตำรวจจะใช้หลักฐานจากภาพวงจรปิดดังกล่าว เพื่อดำเนินคดีกับคนขับรถบรรทุกพ่วง ในข้อหาขับรถโดยประมาท เป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส
ขณะที่ น.ส.เจนจิรา ยงรัมย์ แฟนสาวผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า อาการล่าสุดของแฟนหนุ่มยังสาหัส แพทย์ระบุว่ามีเลือดออกในสมอง และต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ส่วนกระดูขาที่หักนั้น แพทย์ได้ผ่าตัดแล้ว ยังระบุไม่ได้ว่าจะต้องรักษาตัวอีกนานเท่าไร ต้องประเมินวันต่อวัน ส่วนประเด็นที่คนขับรถพ่วงคู่กรณี ออกมาให้การว่า แฟนของตนเป็นคนขับฝ่าไฟแดงนั้น ตนรู้สึกเสียใจมากที่เขาพูดแบบนั้น มากล่าวหาว่าทางแฟนตนเป็นฝ่ายผิดได้อย่างไร