หนุ่มคลั่งแฟนสาวไม่ยอมคืนดี จุดไฟเผาบ้านประชด เคราะห์ดีไม่ลุกลาม เพื่อนบ้านผวาชอบกินเหล้า-เสพยา ทะเลาะกันประจำ วอนตร.พาตัวไปบำบัดก่อน
จากกรณีเมื่อเวลา 00.10 น วันที่ 12 พ.ย.2563 สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ ภายในซอยเอกชัย 76 แยก 2 แขวงและเขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงรุดตรวจสอบพร้อมประสานรถน้ำดับเพลิง จากสถานีดับเพลิงบางขุนเทียน และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง พบที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้นพบกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาจากชั้นที่ 1 เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและอาสาสมัครฯ จึงพังประตูและใช้น้ำฉีดสกัดเพลิงไว้บริเวณดังกล่าว โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบลง เบื้องต้นพบที่นอนและตู้เสื้อผ้าถูกเพลิงเผาวอดเสียหาย พบเจ้าของบ้าน ชื่อนายคุณากร แซ่อึ๊ง อายุ 27 ปี
ล่าสุดทีมข่าวได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตึพบว่า ประตูหน้าบ้านเปิดทิ้งไว้ ชั้น 1 ข้าวของกระจัดกระจาย ผนังบ้านมีเขม่าควันไฟ และฝาหล่นลงมา สอบถามนางสาวชม (นามสมมติ) อายุ 49 ปี ชาวบ้าน เล่าว่า ก่อนหน้าจะเกิดเหตุนายคุณากรเจ้าของบ้านได้มีปากเสียงกับแฟนสาว ขอร้องไม่ให้แฟนสาวออกไปจากนอกบ้าน เนื่องจากแฟนสาวพึ่งกลับมาคบหากันได้ 2 อาทิตย์ หลังจากที่เลิกลากันไป พอแฟนสาวจะออกไป นายคุณากรได้ขู่ว่า "ถ้าออกไปจะเผาบ้านนะ" ซึ่งแฟนสาวของนายคุณากรก็ไม่ฟังจึงออกจากบ้านไป กระทั่งต่อมาทำให้นายคุณากรเกิดอาการโมโห จึงโยนจักรยานออกจากนอกบ้าน พร้อมกับตะโกนบอกว่า "เผาแล้วโว้ย" โดยได้เผาเสื้อผ้าของแฟนสาว ก่อนที่ชาวบ้านระแวกใกล้เคียงจะโทรศัพท์แจ้งตำรวจ ซึ่งขณะที่ไฟไหม้นั้นมีเพียงควัน ไม่ได้รุนแรง บ้านใกล้เรือนเคียงไม่ได้รับความเสียหาย
นางสาวชม เล่าอีกว่า ปกติแล้วนายคุณากรจะอาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง แฟนสาวจะมาหาเป็นครั้งคราว ส่วนพ่อแม่ครอบครัวญาติพี่น้องตนไม่ทราบว่าไปอาศัยอยู่ที่ไหน ช่วง 2-3 ปีเห็นเพียงนายคุณากรเท่านั้น สำหรับพฤติกรรมของนี้นายคุณากรและแฟนสาวนั้น เสพยาเสพติดและทะเลาะกันทุกวัน โดยไม่ทราบเรื่องที่ทะเลาะกัน และนายคุณากรเหมือนคนสติไม่ดี ชอบดื่มเหล้า โวยวาย คุยคนเดียวซึ่งไม่มีพฤติกรรมที่รุนแรงถึงขั้นทำร้ายร่างกาย
ทุกวันนี้ยอมรับว่าชาวบ้านในละแวกนี้หวาดกลัว และหลังจากเผาบ้านตัวเองแล้วต่อไปนี้จะมีพฤติกรรมที่รุนแรงกว่านี้หรือไม่ นอกจากนี้กลัวว่าจะมีจี้หรือปล้น ซึ่งตนอยากให้ตำรวจจับกุมตัวนายคุณากรไปบำบัดก่อน เพื่อความสบายใจของชาวบ้าน
ขณะที่ตำรวจสน.บางขุนเทียน แจ้งข้อหา ทำให้เกิดเพลิงใหม้ ทรัพย์สินเสียหาย นอกจากนี้ผู้ต้องหามีอาการทางประสาท เนื่องจากเสพยาเสพติดเกินขนาด ซึ่งเคยไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลบ้านสมเด็จฯ และในขณะนี้ ทางญาติและแฟนสาวยังไม่สามารถติดต่อได้
ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับนายคุณากรผู้ต้องหา เบื้องต้น ผู้ต้องหาเล่าว่า เขานั้นได้เลิกลากับแฟนสาวไปนานแล้ว แต่ยังไปมาหาสู่กับเขาอยู่ โดยคืนวานนี้เขามาหาและได้มีปากเสียงกัน ตนอยากให้แฟนสาวกลับมาอยู่ด้วย แต่แฟนสาวปฏิเสธเพราะไปมีแฟนใหม่แล้วตนจึงโมโหจึงได้เผาบ้านเพื่อหวังให้เขากลับมาหา ยอมรับว่าขณะนี้เครียดเพราะยังไม่มีใครมาเยี่ยม และไม่ทราบว่าแฟนสาวหรือครอบครัวอาศัยอยู่ที่ไหน
