ม็อบเหลืองแจงล้อมรถธนาธร มุมกล้องทำภาพดูรุนแรง ด้ามธงแทงแค่ผลักหลังกัน (คลิป)

11 พ.ย. 63

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 11 พ.ย.63 บริเวณริมถนนอ้อมค่าย หน้าโรงแรมราวดี หมู่ 5 ต.ปากพูน อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช มีกลุ่มผู้ปกป้องสถาบันสวมเสื้อเหลือง จากจ.กระบี่ และจ.นครศรีธรรมราช จำนวนมาก รวมตัวถือธงชาติไทย แสดงความจงรักภักดีและปกป้องสถาบัน โดยได้ส่งเสียงขับไล่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำคณะก้าวหน้า ซึ่งเดินทางลงพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช มาที่โรงแรมดังกล่าว เพื่อช่วยผู้สมัครนายกอบจ.นครศรีธรรมราช หาเสียง และยังมีกำหนดเดินทางไปช่วยผู้สมัครนายกอบจ.สังกัดคณะก้าวหน้าหาเสียงหลายจังหวัดในภาคใต้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
“ธนาธร” ทัวร์ลงเจอโห่กลางตลาด ชายฉกรรจ์ไล่พ้นประเทศ “ช่อ” เชื่อคนเกลียดแค่ 1%

โดยมีกำลังตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช จำนวนนับสิบนาย ทั้งในและนอกเครื่องแบบมาเฝ้ารักษาความสงบเรียบร้อยตลอดเวลา พร้อมทั้งมีการตะโกนขับไล่นายธนาธร "ออกไป ๆ ๆ ไม่เอา ๆ ๆ" โดยมีการถือป้ายข้อความโจมตีนายธนาธรหลายข้อความด้วยกัน พร้อมทั้งมีการใช้เครื่องขยายเสียงโจมตีตลอดเวลา

683773

ต่อมาเวลา 10.30 น. ขบวนรถของนายธนาธรเดินทางถึงโรงแรม แล้วขับรถฝ่ากลุ่มมวลชนนับร้อย ที่ปักหลักชุมนุมหน้าโรงแรม แล้วนายธนาธรและผู้ติดตามรีบเดินเข้าห้องประชุม และห้ามสื่อมวลชน คนไม่เกี่ยวข้องเข้า ขณะที่กลุ่มมวลชนยังคงปักหลักหน้าโรงแรม พร้อมปราศรัยโจมตีนายธนาธรอย่างต่อเนื่อง

ต่อมาคณะผู้ติดตามนายธนาธร ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเชิญตัวแทนกลุ่มมวลชนจำนวน 5 คน เข้าภายในห้องประชุม แต่ทางกลุ่มมวลชนยื่นข้อเสนอ ขอให้ตัวแทนเข้าพูดคุยในห้องประชุม จำนวน 20 คน แต่ทางคณะผู้ติดตามนายธนาธรยืนยันว่า ให้ตัวแทนกลุ่มมวลชนจำนวน 5 คนเท่านั้น สุดท้ายไม่สามารถตกลงกันได้ ขณะที่ตัวแทนกลุ่มมวลชนคนหนึ่งยื่นเสนอขอให้นายธนาธรออกมาพบหน้ากับกลุ่มมวลชนที่หน้าโรงแรม แต่ไม่สามารถตกลงกันได้อีก

326202

กระทั่งเวลา 11.30 น. การประชุมแล้วเสร็จ นายธนาธรรีบเดินออกจากห้องประชุม มีผู้ติดตาม 5-6 คน เดินประกบเพื่อดูแลความปลอดภัย แล้วเดินตรงไปยังลานจอดรถด้านหลังโรงแรม แล้วขึ้นรถคันหนึ่งแต่ไม่แน่ชัดว่าคันไหน เพื่อขับออกจากโรงแรม

367015

อย่างไรก็ตาม โรงแรมที่เกิดเหตุมีทางเข้าออกทางเดียว รถคณะของนายธนาธรจึงต้องขับฝ่าวงล้อมกลุ่มมวลชนที่ปักหลักด้านหน้า ขณะที่กลุ่มมวลชนยังคงปักหลักและปราศรัยโจมตีนายธนาธรอย่างต่อเนื่อง มีรถยนต์กระบะคันหนึ่งติดฟิล์มมืดดำทึบ คนขับไม่ยอมลดกระจกลงมา ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมไม่พอใจ พยายามทุบกระจกรถตะโกนให้รถคันดังกล่าวลดกระจกลง เพื่อดูว่านายธนาธรนั่งอยู่ในรถหรือไม่ แต่คนขับไม่ยอมลดกระจก พยายามขับฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุม ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมพยายามขวางอยู่นานหลายนาที

188574

ในที่สุดรถคันดังกล่าว ก็ฝ่ากลุ่มผู้ชุมนุมออกไปได้ โดยมีการใช้ธงติวิ่งไล่ทุบกระจกรถตามหลัง จนรถคันดังกล่าวแล่นหายไปโดยยังไม่ทราบว่านายธนาธรนั่งไปกับรถคันดังกล่าวหรือไม่ ขณะที่กำลังตำรวจสภ.เมืองนครศรีธรรมราช ทั้งในและนอกเครื่องแบบพยายามเข้าห้ามปรามกลุ่มมวลชนไม่ให้มีการทำร้ายรถคันดังกล่าว

818723

ในเวลา 13.00 น. ตามรายงานที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตนครศรีธรรมราช และที่บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา เขตเทศบาลทุ่งสง ทางคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ได้ประกาศห้ามใช้พื้นที่เด็ดขาด พร้อมกับปิดประตูมหาวิทยาลัยฯ อ้างไม่ต้องการให้เกิดความวุ่นวาย

693273

ส่วนที่บริเวณหอนาฬิกาเขตเทศบาลเมืองทุ่งสง เป็นอีกจุดหนึ่งที่นายธนาธรและคณะมีกำหนดลงพื้นที่ แต่ปรากฏว่ามีกลุ่มมวลชนเสื้อเหลือง จำนวน 100 คน รวมตัวปักหลักจัดกิจกรรมปกป้องเทิดทูนสถาบัน ประกาศจุดยืนแสดงเจตนารมณ์ ท่ามกลางการดูแลความสงบของตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบของ สภ.ทุ่งสง

กระทั่งล่าสุดเวลา 15.30 น. นายธนาธรและคณะไม่ได้เดินทางมาตามกำหนดการที่แจ้งไว้ก่อนหน้านี้ ขณะที่กลุ่มมวลชนมีการส่งเสียโห่ร้อง และเปล่งเสียงทรงพระเจริญ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความสงบโดยไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย

983518

ขณะที่ก่อนหน้านี้นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ได้ลงพื้นที่ช่วยผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้ง ชิงเก้าอี้ตำแหน่งนายก อบจ.ระนอง และสมาชิก อบจ.ระนอง แต่ถูกประชาชน พร้อมกับแม่ค้าในตลาดยืนชูป้ายพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 ขอให้นายธนาธรหยุดจาบจ้วงสถาบัน

392349

ส่วนอีกเหตุการณ์นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าคณะก้าวหน้า ลงพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ช่วยนายธัชชัย เมตโต ซึ่งลงสมัครนายก อบจ.สมุทรปราการ ในพื้นที่ อ.บางพลี ปรากฎว่ามีกลุ่มชายฉกรรจ์ 3-4 คน เดินถือพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมกับ ตะโกนว่า “ร้องเพลงชาติไทยเป็นหรือเปล่า สมุทรปราการไม่เอา สถาบันทำอะไรให้ครับ ถ้าคุณไม่รักประเทศไทย อย่าอยู่บนแผ่นดินไทย” โดยผู้ชายกลุ่มนี้ เดินประกบไปกับคณะหาเสียงของนายธนาธร ไปตลอดทาง แต่คณะของนายธนาธรก็ไม่ได้พูดตอบโต้อะไร เดินหาเสียง ทักทายชาวบ้านไปตามทาง

530342

ทั้งนี้นายอานนท์ มีศรี ประธานชมรมคนดีนครศรีฯ แห่งชาติ ในฐานะแกนนำ เปิดเผยในรายการทุบโต๊ะข่าวดังต่อไปนี้ 

พิธีกร : คุณอานนท์ ตอนเช้าได้อยู่ตรงโรงแรมด้วยหรือเปล่าครับ
นายอานนท์ : ครับอยู่ครับ อยู่ตั้งแต่ 08.30 น.

พิธีกร : เหตุการณ์มันเกิดอะไรขึ้นครับ
นายอานนท์ : ต้องเรียนทุกท่านแบบนี้ ขอบคุณคุณพุทธ ขอบคุณทุกท่านที่ให้โอกาสชี้แจง คือเบื้องต้นจริง ๆ เหตุการณ์วันนี้ มีการเผยแพร่ผ่านทางโซเชียลฯ ว่าคุณธนาธร จะเดินทางมาที่ จ.นครศรีธรรมราช ทีแรกไม่ได้ระบุจุดที่โรงแรมแห่งนี้ ตอนแรกเขาจะเดินทางมาที่ร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง ผมไม่ขอเอ่ยชื่อนะครับ ทีนี้ต้องย้อนกลับว่า เหตุการณ์ก่อนหน้านี้ในประเทศมันเกิดอะไรขึ้น แล้วทุกคนก็เชื่อได้ว่าคุณธนาธรอยู่เบื้องหลัง ในการโยงใยเรื่องของการล้มล้าง คิดแบบนี้ เป็นแบบนี้ แต่ทีนี่กลุ่มเรา เหตุการณ์เราไม่ได้เกี่ยวข้องการเมืองนะครับ

พิธีกร : แต่ประเด็นวันนี้ ทำไมถึงปรากฏภาพล้อมรถอะไรกันเกิดขึ้น จนสังคมตั้งคำถามว่า กลุ่มปกป้องสถาบันรุนแรงเกินไปหรือไม่
นายอานนท์ : ครับมันเป็นอย่างนี้นะครับ ก่อนหน้าเราก็ปราศรัยกันตามปกติ เป็นเรื่องปกติของการปราศรัย เพื่อที่จะได้รับคำตอบจากคุณธนาธร แล้วเราก็ได้ส่งแกนนำบางส่วนบางตอนที่เราปราศรัย เราส่งแกนนำเข้าไปเจรจากับคุณธนาธร ว่าให้ออกมาพบกับกลุ่มผู้ชุมนุมนะครับ

พิธีกร : แสดงว่าตอนเช้า มีคนเข้าไปคุยกับคุณธนาธรในโรงแรม อย่างนั้นเหรอครับ
นายอานนท์ : ใช่ครับ ตอนที่คุณธนาธรเข้าในห้องพักครับ ก่อนที่จะเข้าไปในห้องประชุม แกนนำบอกว่าได้ส่งตัวแทนเข้าไปเจรจาแล้วนะครับ ทางคุณธนาธรรับปากแล้วนะครับ รับปากว่าจะออกมาพบกับผู้ชุมนุม แล้วก็มาเจรจากัน มาคุยกัน มาตอบข้อซักถามกัน

พิธีกร : จะเจรจาอะไรกับคุณธนาธรครับ
นายอานนท์ : แค่จะถามว่าคุณมา จ.นครศรีธรรมราช มาเพื่ออะไร

พิธีกร : เขามาช่วยผู้สมัครหาเสียง
นายอานนท์ : อันนี้ส่วนหนึ่งนะครับ ส่วนที่สอง เราจะตั้งคำถามว่า การที่คุณอยู่เบื้องหลังในเรื่องที่จะล้มล้างสถาบันมันจริงหรือไม่ ถ้าไม่จริงอย่างไร เราให้โอกาสที่จะพูดคุยกันครับ

พิธีกร : แต่เมื่อรถออกมาจากโรงแรม มันเกิดภาพแบบนี้ได้อย่างไรครับ
นายอานนท์ : ตอนรถออกนะครับ ในเมื่อคุณธนาธรไม่ยอมทำตามสัญญา แต่ภาพบางภาพคือคนมันมาจำนวนเยอะนะครับ ไม่ได้เป็นการทุบตี ไม่ได้เป็นการทิ่มแทงอะไรอย่างไร ต้องยอมรับว่าการถ่ายภาพบางภาพ บางคนเขาก็ถือธง แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นธงครับ เป็นการที่จะกั้นดูว่า รถคันนี้ใช่คุณธนาธรออกมาหรือเปล่า แค่นั้นเองครับ ไม่มีการทุบตีครับ ไม่มีครับ

พิธีกร : แต่มันมีภาพด้ามธง เหมือนกระทุ้งเข้าไปในรถ อันนี้คืออะไรครับ
นายอานนท์ : คืออย่างนี้ครับ คุณพุทธนึกภาพออกไหมครับ เวลาคนถือเนี่ย คงไม่มีใครวางธงแล้วมาจับรถ แค่ธงมันติดอยู่ในมือ แล้วทำการผลัก ด้ามธงก็ติดอยู่ด้วย ภาพที่มองเห็นก็จะเป็นการทิ่ม จริง ๆ ไม่มีครับ ไม่มี

พิธีกร : เหมือนคนจับธง แล้วข้างหลังผลัก ด้ามธงก็เลยไปกระแทกเข้ากับรถอย่างนั้นหรือเปล่าครับ
นายอานนท์ : เพราะคนจำนวนเยอะ เราก็ไม่ได้ระวังว่าใครเป็นใคร บางคนก็ยัดกันเข้ามา

พิธีกร : มีการสั่งให้ลดกระจกรถลงช่วยด้วย เพื่ออะไรครับ
นายอานนท์ : แค่อยากเห็นว่าคุณธนาธรอยู่ในรถ แค่อยากคุยกับเขาครับ แต่ไม่ได้คุกคาม

พิธีกร : พฤติกรรมที่เห็น เขาจะกล้าลงมาเหรอครับ หรือถ้าคุณอานนท์เป็นคุณธนาธร จะลงมาคุยเหรอกับอารมณ์คนแบบนี้
นายอานนท์ : ถ้าย้อนกลับตามที่ตกลงกันไว้ เราบอกว่าเราชุมนุมแบบสันติ ไม่มีความรุนแรง เราไม่แตะต้องเรื่องการเมืองของผู้สมัคร เราขอเพียงอย่างเดียวแค่ตั้งคำถามแค่นั้นครับ

พิธีกร : หลังจากนี้ทางพรรคเขาจะดำเนินคดีกับปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น จะทำอย่างไรต่อครับ
นายอานนท์ : ก็แล้วแต่ครับ อันนี้ก็เป็นสิทธิ์ เราก็ต้องมองย้อนกลับว่า พฤติกรรมที่เกิดขึ้นตอนนี้ ต้องถามกลับทุกฝ่ายว่าในเมื่อต่างฝ่ายต่างคิดกันแบบนี้ ต่างฝ่ายก็คิดพึ่งทางกฎหมายได้เหมือนกัน

พิธีกร : เมื่ออ้างคำว่าสถาบัน แล้วพฤติกรรมที่แสดงออกแบบนี้ จะไปกระทบกระเทือนกับสถาบันที่คนไทยนับถือ เราจะอธิบายอย่างไรครับ
นายอานนท์ : คือตอนนี้ต้องบอกแบบนี้ ต้องถามคำถามกลับว่า ใครที่สร้างความรุนแรง ใครที่สร้างปรากฏการณ์ ใครที่สร้างสัญลักษณ์ให้เกิดการหมิ่นต่อสถาบัน ต้องถามกลับตรงนี้

พิธีกร : ภาพที่เห็นทั้งหมดถือว่ารุนแรงหรือไม่ครับ
นายอานนท์ : ผมถือว่าไม่รุนแรงนะครับ แต่สถานการณ์บางเรื่องบางราว เมื่อมันเป็นไม่ได้ ถ้าออกมาคุยตั้งแต่แรก ผมคิดว่าปรากฏการณ์แบบนี้ไม่เกิดขึ้นนะครับ

945626

ส่วนขณะที่รถยนต์ออกมาจากโรงแรม นายธนาธรไม่ทำตามสัญญาที่จะพูดคุย ตนยืนยันว่ากลุ่มคนเสื้อเหลืองไม่ได้มีการใช้ด้ามธงทุบตี หรือทิ่มแทงรถแต่อย่างใด แต่อาจมีคนที่ยืนด้านหลังผลักกันทำให้ภาพคล้ายกับใช้ด้ามธงทุบตี การที่ถือธงก็เป็นการกันรถเท่านั้น

นอกจากนี้การตะโกนบอกให้ลดกระจก เพราะอยากเห็นว่านายธนาธรอยู่ในรถหรือไม่ พวกตนอยากคุย ไม่ได้คุกคาม แต่หากจะถูกดำเนินคดีก็เป็นสิทธิ์ของเขา การกระทำของกลุ่มคนเสื้อเหลืองจะกระทบสถาบันหรือไม่ ตนอยากให้มองว่าใครทำความรุนแรง แล้วใครก่อให้เกิดสัญลักษณ์ในการโจมตีสถาบัน ส่วนตัวมองว่าเหตุที่เกิดขึ้นไม่รุนแรงแต่อย่างใด

น.ส.พรรณิการ์ วานิช เลขาธิการคณะก้าวหน้า กล่าวยืนยันว่า รถที่ออกมาไม่ใช่รถของนายธนาธร แล้วนายธนาธรก็ไม่ได้อยู่บนรถ แต่เป็นรถของทีมงานคณะก้าวหน้า ดังนั้นจึงตกลงกันว่าจะดำเนินการแจ้งความ เพราะการกระทำดังกล่าวละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน เป็นการคุกคามคนที่ออกจากโรงแรม คณะก้าวหน้าจะใช้กฎหมายเข้ามาจัดการ

318701433737

ล่าสุดนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก "Thanathorn Juangroongruangkit" ระบุว่า "คนที่ชูป้ายไล่ล่าผมและคณะก้าวหน้าในตอนนี้ ลองถามตัวเองให้ดีว่าคุณกำลังตกหลุมพรางเดิม ๆ อยู่หรือไม่? หลุมพรางที่ว่านั้นคืออะไร? ก็คือการสร้างฝันร้ายขึ้นมา ให้พวกเรากลัวและไม่กล้าลืมตาตื่นขึ้นมามองหาอนาคตและความเป็นไปได้ใหม่ ๆ"

844867

นายธนาธร ยังระบุว่า "แล้วคุณลองคิดดูดี ๆ ว่าใครยังได้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้อยู่? และเขาคือคนเดียวกับคนที่สร้างฝันร้ายมาหลอกหลอนพวกคุณหรือไม่? สิ่งที่เป็นภัยต่อพวกเรามากที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่เราจะเจอเมื่อลืมตาตื่นขึ้นมา แต่คือฝันร้ายที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อหลอกหลอนเราไม่จบไม่สิ้น"

ทนายเกิดผล แก้วเกิด นักกฎหมาย กล่าวถึงกรณีที่มีคนไปประท้วงขับไล่ล้อมรถนายธนาธร ว่า กรณีชายฉกรรจ์ เดินตาม ตะโกนต่อว่า แต่ไม่ได้ด่าหยาบคาย หรือใส่ร้ายป้ายสี แค่ตะโกนเสียงดังแล้วเดินตาม จะเข้าข่ายความผิดแค่ก่อความเดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ เป็นความิดลหุโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน

383289

กรณีล้อมรถ เป็นความตั้งใจให้ธนาธรหยุดรถ ตะโกนด่า เข้าข่ายความผิด
1.ทำให้เดือดร้อนรำคาญในที่สาธารณะ เป็นความิดลหุโทษ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน
2.กักขังหน่วงเหนี่ยว ปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี
3.ดูหมิ่นซึ่งหน้า ด่าหยาบ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน
4.หมิ่นประมาท ตะโกนว่า ขายชาติ ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 เดือน

147779

กรณีคนที่กระโดดขึ้นนั่งหน้ากระโปรงรถ ต้องดูว่าทำให้รถเสียหายหรือไม่ ถ้าเสียหายมีรอยขีดข่วน นอกจาก 4 ข้อหา ที่โดนเหมือนกับผู้ปิดล้อมรถคนอื่น ๆ แล้ว จะโดนข้อหาเพิ่ม คือ ทำให้เสียทรัพย์ มีโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี

กรณีคนที่เอาไม้กระแทกใส่รถ เป็นพฤติกรรมตั้งใจทำลายทรัพย์สิน เพื่อให้หยุดรถ แต่ไม่ใช่ทำร้ายร่างกาย ดังนั้น นอกจาก 4 ข้อหา ที่โดนเหมือนกับผู้ปิดล้อมรถคนอื่น ๆ แล้ว จะโดนข้อหาเพิ่ม คือ ทำให้เสียทรัพย์ มีโทษปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 3 ปี

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส