โควิดกรุงเทพ เชื่อมโยง สถานบันเทิงทองหล่อ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 659 ราย ลุ้นผลอีกกว่า 4,000 ราย
โควิดกรุงเทพ เชื่อมโยง สถานบันเทิงทองหล่อ พบผู้ติดเชื้อแล้ว 659 ราย ลุ้นผลอีกกว่า 4,000 ราย
ผงะ รถบรรทุกขนทรายจากสุราษฎร์ธานี มาส่งโรงงานแพล้นท์ปูนใจชุมพร ดัมพ์ทรายเจอศพชายปริศนาไหลออกมาด้วย ตร.เร่งสอบสวน ขณะที่คอหวยแห่ถ่ายเลขทะเบียน
เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 10 พ.ย.63 ร.ต.อ.ธนพัฒน์ รุ่งเรืองสาคร รอง สว.(สอบสวน)สภ.เมืองชุมพร ได้รับแจ้งพบศพฝังทรายอยู่ในรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ ซึ่งจอดอยู่หน้าสนามกอล์ฟค่าย เขตอุดมศักดิ์ มทบ.44 ริมถนนเพชรเกษมชุมพร-ระนอง หมู่ 2 ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท.สมภพ เชื้อทอง รอง ผกก.ป.สภ.เมืองชุมพร ตำรวจชุดสายตรวจ สายสืบ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยมูลนิธิชุมพร
ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกพ่วง 22 ล้อ สีเหลือง อีซูซุ ทะเบียนหน้า 70-4037 พิษณุโลก ทะเบียนพ่วง 70-4038 พิษณุโลก โดยมีคนขับทราบชื่อคือ นายสังข์เวียน ศรีสวย อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/2 หมู่ 11 ตำบลยางใหญ่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ยืนรอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในกระบะพ่วงหลังพบศพเพศชายอายุประมาณ 25-35 ปี รูปร่างผอมสูงประมาณ 165 ซ.ม. ใส่เสื้อเชิ้ตแขนยาวลายสก๊อตสีน้ำเงิน-ดำ นุ่งกางเกงขายาวสีดำ ไม่สวมรองเท้า ที่หน้าอกและไหล่ซ้ายมีลายสัก สภาพศพเพิ่งจะเริ่มแข็ง คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชั่วโมง ที่ใบหน้ามีแผลแตกและแผลถลอก ส่วนตามลำตัว ขาแขนไม่มีร่องรอยบาดแผล เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายไว้เป็นหลักฐาน ตรวจสอบภายในตัวไม่พบหลักฐานว่าเป็นใครมาจากไหน จึงส่งศพส่งไปผ่าชันสูตรที่โรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์
จากการสอบปากคำ นายสังข์เวียน ศรีสวย อายุ 39 ปี คนขับรถพ่วงคันดังกล่าวให้การว่า รถบรรทุกพ่วงคันที่ตนขับเจ้าของอยุ่ จ.พิษณุโลก ตนได้รับจ้างขับรถบรรทุกยางพารามาส่งที่โรงงานทางภาคใต้ ส่วนขากลับได้ติดต่อหาสินค้าวิ่งขึ้นเพื่อไม่ให้เสียเที่ยวต้องตีรถเปล่า จนติดต่อรับบรรทุกทรายมาจากท่าทรายเมรัย หมู่ 5 ตำบลสินปุน อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ในราคา 2,000 บาท เพื่อนำมาส่งให้กับโรงงานแพล้นท์ปูนคอนกรีตผสมเสร็จ ในพื้นที่ จ.ชุมพร
นายสังข์เวียนกล่าวต่อว่า ช่วงที่ตนขับรถเข้าไปที่บรรทุกทรายที่ท่าทรายดังกล่าว ได้มีรถแบกโฮตักทรายเทใส่ลงไปในตัวพ่วงทั้งตัวพ่วงหัวและพ่วงท้ายทุกอย่างก็เป็นปกติดี หลังจากนั้นช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.ตนได้ขับรถออกจากท่าทรายโดยไม่ได้แวะที่ใดเลย เพื่อนำไปส่งที่ โรงงานแพล้นปูนคอนกรีตผสมเสร็จแห่งหนึ่งที่อยู่ริมถนนเพชรเกษมชุมพร-ระนอง ตำบลวังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร เมื่อถึงโรงงานดังกล่าวตนได้ยกดัมพ์ตัวพ่วงหลังเพื่อเททรายลงมากองที่ลานทรายของโรงงาน ปรากฏว่าได้มีศพกลิ้งตกลงมากับกองทรายด้วย ทำให้ทุกคนที่ยืนดูอยู่ต่างตกตะลึงและผวาไปตามๆกัน จากนั้นเจ้าของโรงงานได้คนงานช่วยกันยกศพกลับเข้าไปไว้ในตัวพ่วงและรีบไล่ให้ตนขับรถออกไปจากโรงงานโดยเร็ว ด้วยความตกใจกลัวตนจึงรีบขับมาจอดที่ริมถนนหน้าสนานกอล์ฟค่ายเขตอุดมศักดิ์ ห่างจากโรงงานประมาณ 1 กิโลเมตรแล้วได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าสาเหตุครั้งนี้อาจจะเป็นอุบัติเหตุระว่างรถแบกโฮตักทรายใส่ในรถพ่วงแล้วมีคนงานอยู่ภายในรถแต่คนขับรถแบกโฮไม่เห็นทำให้ทรายทับจนตาย หรืออาจจะเป็นการฆาตรกรรมและอำพรางศพนำไปฝังกองทรายไว้แล้วรถแบกโฮตักใส่รถบรรทุกโดยไม่รู้ว่าเป็นศพ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องเดินทางไปสอบปากคำคนขับรถแบกโฮและทุกคนที่เกี่ยวข้องกับท่าทรายในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อสอบสวนปากคำและพยานบุคคลต่างๆว่าเป็นศพคนงานท่าทรายหรือไม่และเป็นใครมาจากไหน และรอผลการชั้นสูตรบาดแผลอย่างละเอียด
ความคืบหน้าล่าสุด ทาง ร.ต.อ.ธนพัฒน์ รุ่งเรือวสาคร รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองชุมพร เจ้าของคดี ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบชายผู้เสียชีวิตรายดังกล่าวว่า เป็นใคร และยังไม่สามารถระบุสาเหตุการเสียชีวิตในครั้งนี้ได้ โดยต้องรอผลจากทางแพทย์ ที่นำศพไปชันสูตรที่ รพ.นิติเวช อยู่คาดว่า จะรู้ผลในเร็วนี้
ในขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนของจังหวัด ได้ประสานไปยังตำรวจที่ จ.สงขลา ซึ่งเป็นจุดแรกที่รถบรรทุก นำสินค้าไปส่ง ว่าศพชายปริศนา เป็นคนในพื้นที่ จ.สงขลาหรือไม่ ซึ่งอาจจะเป็นไปได้ว่า ระหว่างที่รถลงสินค้า คนงานอาจจะทะเลาะกันถึงขั้นแก่ความตาย แล้วทิ้งศพไว้บนกระบะรถบรรทุก หลังจากนั้นคนขับได้ขับรถออกมาโดยไม่ได้ตรวจสอบบนรถ แล้วขับรถมาบรรทุกทรายที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยขับรถแบคโฮไม่เห็นว่าบรรทุกอะไรมา จึงได้ตักทรายใส่ทับถม จนเมื่อมาเททรายที่แพล้นปูนที่ จ.ชุมพร ศพจึงหลุดบงมาพร้อมกับทราย
แต่อีกประเด็นว่า ศพนั้นได้ถูกฆาตกรรมระหว่างพื้นที่ ที่รถไปขึ้นทรายก็เป็นไปได้ โดยคนขับรถตักอาจจะรู้หรือไม่รู้ ก็เป็นไปได้ ซึ่งทั้งหมดก็ต้องรอชุดสืบประสานตำรวจแต่ละท้องที่ช่วยติดตามสืบหาตัวบุคคลดังกล่าวว่าเป็นใครมาจากไหนและเสียชีวิตด้วยสาเหตุอะไรต่อไป