พี่ชายโต้น้องถูกครูลวนลามไม่เคยมีใจ - แม่ยันลูกคนดี ไม่ทำบัดสีกับศิษย์ (คลิป)

จากกรณีนักเรียนสาวจากวิทยาลัยแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา เข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระนครศรีอยุธยา ดำเนินคดีคดีกับนายไมตรี (สงวนนามสกุล) อาจารย์วิทยาลัยแห่งหนึ่ง หลังพานักเรียนสาวขึ้นรถ โดยอ้างว่าจะช่วยแก้ผลการเรียนให้ ก่อนจะหลอกทำอนาจาร และพาเข้าโรงแรมม่านรูด วันนี้ (21 มี.ค.) ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่มายังวิทยาลัยแห่งหนึ่ง จากการสอบถาม พบว่า วันนี้วิทยาลัยอยู่ในระหว่างการปิดภาคเรียน จึงทำให้มีเพียงนักเรียนที่มาฝึกงาน และนักเรียนที่ลงวิชาเรียนภาคฤดูร้อนเท่านั้น

ด้าน น้องตูน (นามสมมติ) เปิดเผยว่า ตนเองเรียนอยู่ชั้นปี 2 จึงยังไม่ได้เรียนในวิชาทฤษฎีโครงสร้างช่างก่อสร้าง กับอาจารย์ไมตรี เพราะวิชานี้จะสอนในชั้นปี 4-5 ทั้งนี้ ตนก็รู้จักกับอาจารย์ไมตรี แต่ไม่สนิทกันมากนัก เท่าที่รู้จักมา ครูจะเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยดุ แต่ครูมักจะชอบซื้อขนม และผลไม้มาฝากเพื่อนครู และนักเรียนอยู่บ่อยๆ น้องตูน เล่าต่อว่า เวลาแก้เกรดหรือผลการเรียน ความยากง่ายในแต่ละวิชาก็ไม่เท่ากัน ซึ่งหากมีวิชาไหนที่ติดค้างอยู่ก็ต้องติดต่อขอแก้คะแนนกับอาจารย์ แล้วอาจารย์จะมอบชิ้นงานมาให้แก้ไข ส่วนใหญ่ตนก็ไม่เคยเห็นว่ามีการไปแก้เกรดภายนอกวิทยาลัย ซึ่งหากจะมีการแก้เกรดที่ภายนอกวิทยาลัยนั้น ก็จะเป็นการไปทำจิตสาธารณะแทน เช่น การสร้างบ้านให้คนยากไร้ ทาสีบ้าน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ตนไม่เคยเห็นว่า จะมีอาจารย์ท่านใด นัดแนะให้ไปแก้คะแนนที่ห้างสรรพสินค้าแบบที่เป็นข่าว นอกจากนี้ ตนไม่เชื่อว่าอาจารย์ไมตรีกับเด็กนักเรียนคนดังกล่าว จะมีการคบหากันจริง เพราะตนก็รู้จักกับรุ่นพี่คนดังกล่าว ซึ่งรุ่นพี่คนนี้นิสัยดี และเป็นคนที่ดีมาก ตนคาดว่า น่าจะมีแฟนแล้วด้วย ส่วนตัวไม่คิดว่า รุ่นพี่จะไปสนิทสนมกับครูท่านนี้เกินกว่าครูและลูกศิษย์ แต่พอทราบข่าว ตนก็รู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ในวิทยาลัย ตอนนี้ยอมรับว่า มองอาจารย์ไมตรีเปลี่ยนไปจากเดิม ส่วนเรื่องจะให้ครูลาออกหรือไม่ ตนไม่ขอออกความเห็น และให้เป็นการตัดสินใจของผู้เกี่ยวข้องดีกว่า

นายธำรงค์ สว่างเดือน รักษาการรองผู้อำนวยการวิทยาลัย ให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ทางผู้อำนวยการวิทยาลัยยังติดธุระอยู่ที่ต่างประเทศ จึงต้องรอให้ท่านผู้อำนวยการเป็นผู้จัดการแต่งตั้งคณะกรรมการจากภายนอก ในนามของอาชีวศึกษา จ.พระนครศรีอยุธยา ขึ้นมาสอบข้อเท็จจริง จากนั้น จึงจะรายงานผลการสอบสวนทั้ง พยานบุคคล และพยานแวดล้อม ไปยังกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งส่วนกลางจะพิจารณาว่า อาจารย์ไมตรี มีความผิดทางวินัยแบบร้ายแรง หรือ ไม่ร้ายแรงนั้น ถ้ากรณีที่มีความผิดไม่ร้ายแรงก็จะลงโทษว่ากล่าวตักเตือน ลดขั้นเงินเดือน และภาคทัณฑ์ แต่กรณีที่พิจารณาแล้วว่า เป็นความผิดร้ายแรง กรรมการจะพิจารณาโทษว่า ให้ออกจากราชการ หรือปลดออกจากราชการ ขณะนี้ ได้ให้อาจารย์หยุดดำเนินการสอนไปก่อน จนกว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วหาข้อสรุป นอกจากนี้ ตนเองก็ได้พยายามโทรศัพท์ติดต่อให้อาจารย์ไมตรี ไปพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้

ยายยิ้ม (นามสมมติ) แม่ของอาจารย์ไมตรี เปิดเผยว่า ตนไม่เชื่อว่าลูกชายไปกระทำเช่นนั้น เพราะลูกชายเป็นคนตั้งใจทำงาน กลับจากโรงเรียนก็กลับบ้านตรงเวลา ไม่เคยไปเข้าโรงแรมหรือไปยุ่งกับใคร เวลาว่างก็ทำสวน ยอมรับว่าตกใจที่ได้ยินข่าวแบบนี้ เพราะลูกชายเป็นคนนิสัยดี กตัญญู และดีกับตนมาก เวลาอยู่บ้านก็ซื้อของกินมาให้ตลอด

นายแย้ม (นามสมมติ) พี่ชายของนางสาวออย (นามสมมติ) ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุตนได้รับทราบเรื่องจากน้องสาวมาว่า อาจารย์ไมตรีพาเข้าโรงแรม ตนจึงบอกน้องว่า กลับบ้านก่อนเดี๋ยวค่อยคุยกัน ตนทราบมาคร่าวๆ ว่า น้องตนต้องการที่จะไปแก้เกรด จึงขึ้นรถไปกับอาจารย์ แต่อาจารย์พาเข้าโรงแรม น้องสาวตนจึงหลบหนีออกมา แล้วเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อวานนี้ (20 มี.ค.) ตนจึงพาน้องสาวไปพูดคุยกับรองผู้อำนวยการวิทยาลัย และบอกว่า เดี๋ยวจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนข้อเท็จจริง ขณะเดียวกัน ในห้องประชุมเมื่อวานนี้ อาจารย์ไมตรีก็พูดในทำนองว่า น้องสาวตนมีใจให้ด้วย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องจริง เพราะน้องสาวตนก็มีแฟนอยู่แล้ว และไม่ได้ชอบคนอายุแก่กว่า นอกจากนี้ อาจารย์ไมตรี ยังไม่มีท่าทีแสดงความรับผิดชอบ ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย สมัยก่อนที่ตนเรียนกับอาจารย์เมื่อปี พ.ศ. 2546-2551 อาจารย์ไมตรี ก็มีนิสัยชอบคุยเล่นกับเด็กสาวหน้าตาดี เวลาเรียนก็จะเข้าไปจับแขน จับไหล่เด็กนักเรียนผู้หญิงที่สนิทสนมด้วย แต่ไม่ทราบว่า มีเหตุการณ์ที่พานักเรียนเข้าโรงแรมด้วยหรือไม่ ที่ผ่านมา ครูก็เป็นคนที่สอนดี เพียงแต่ชอบถึงเนื้อถึงตัวกับเด็กผู้หญิง ส่วนการพาไปแก้เกรดนอกสถานที่นั้น ตนยอมรับว่ามีการพาไปข้างนอกจริง เพราะงานช่าง จะต้องออกนอกสถานที่อยู่บ่อยๆ บางครั้งอาจารย์ก็จะพาไปรับงานก่อสร้าง ซึ่งนักเรียนก็จะได้เงินพิเศษด้วย ส่วนสาเหตุที่น้องสาวตนไว้ใจอาจารย์คนนี้ ก็เป็นเพราะ น้องตนรวมถึงเพื่อนในห้อง เคยไปบ้านของอาจารย์ เพื่อช่วยอาจารย์ทำกับข้าว ตัดต้นไม้ อีกทั้งในวันเกิดเหตุ เป็นวันสุดท้ายที่ต้องส่งเกรด การที่ไปบ้านอาจารย์ ก็ไม่เคยเกิดเหตุการณ์อะไร ตนจึงคิดว่าน้องสาวไว้วางใจ จึงยอมนั่งรถไปด้วย ส่วนนิสัยใจคอของอาจารย์ไมตรี เป็นคนอัธยาศัยดี ชอบปลูกต้นไม้ และเป็นคนประหยัด รวมถึงมีครอบครัวแล้ว ตนก็ไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุเช่นนี้ ตอนนี้ตนก็ขอให้ดำเนินคดีเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย เพราะหลักฐานที่มี ก็ค่อนข้างชัดเจน ตนก็จะดำเนินการเอาเรื่องให้ถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม ตนไม่อยากเจอหน้าอาจารย์ไมตรีแล้ว ยอมรับว่า โมโหและผิดหวังในตัวอาจารย์มาก ที่ผ่านมา ตนมองอาจารย์เป็นคนดี และเก่งมาตลอด ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องจริง ที่มาเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของตน สำหรับความรู้สึกของน้องสาวตน คาดว่าก็ยังเครียดๆ อยู่