"เจมส์ เรืองศักดิ์" แพลนปีหน้าลูกคนที่ 2 มาแน่ ตั้งใจอยากได้ลูกสาว 

10 พ.ย. 63

มาต่อกันที่เรื่องราวของคุณพ่อลูกหนึ่งที่ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิม สำหรับ "หนุ่มเจมส์ เรืองศักดิ์" ที่พักหลังหลายคนจะเห็นว่าเจ้าตัวเริ่มรับงานละครน้อยลง พร้อมหันไปทุ่มเวลาเลี้ยงดูลูกสาวสุดน่ารัก อย่าง "น้องเมดา" วัย 1 ปี 7 เดือน ชนิดที่เรียกว่ายุงไม่ให้ไต่ไร่ไม่ตอมเลยทีเดียว ล่าสุดถึงขั้นที่เจ้าตัวส่งลูกสาวสุดที่รักให้เข้าเรียนโรงเรียนนานาชาติในช่วงเตรียมอนุบาลแล้ว

s__70688789
ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ทีวีได้มีโอกาสพูดคุยกับทาง " พี่เจมส์" เลยต้องสอบถามถึงเรื่องราวของลูกสาว "น้องเมดา" ตลอดจนเเพลนลูกคนที่ 2 ด้วย โดยทาง "พี่เจมส์" เล่าให้ฟังว่า ตอนนี้อยู่ในช่วงที่เขาเริ่มพัฒนาการในส่วนของการพูด เรียกว่าพูดได้ไวกว่าเกณฑ์ที่วางไว้ โดยการพูดของเขานั้นจะชอบถามเป็น 3 ภาษา นั้นคือ ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาใต้ ส่วนที่ไปที่มาของภาษาใต้นั้นเกิดจากที่ตนได้ไปสอนคำพูดประโยคหนึ่งกับทางเจ้าตัว เขาเองเลยสนใจและคอยถามภาษาใต้มาเรื่อยๆ ตลอดจนในส่วนที่บ้าน ตนกับทางคุณพ่อและคุณแม่ ก็จะสื่อสารด้วยกันภาษาใต้อยู่แล้ว ทาง "เมดา" เองก็เลยจดจำและสงสัยพร้อมเรียนรู้

s__70688791

เผยในส่วนของโรงเรียนนานาชาตินั้น เป็นคลาสที่เตรียมความพร้อมก่อนเข้าเรียนอนุบาล เรียกว่าสัปดาห์หนึ่งจะไปเรียนประมาณ 3 วัน วันละ 2 ชั่วโมงโดยที่ทางผู้ปกครองเองก็สามารถเข้าไปเรียนกับลูกได้ รับส่วนตัวแอบจองโรงเรียนดังกล่าวมาตั้งแต่น้องเมดาได้ 3 เดือน ทั้งนี้เป็นไปตามความตั้งใจของตนที่จะต้องการเป็นคุณพ่อที่ไม่มีข้ออ้าง แต่จะทุ่มเวลาให้กับลูกได้เสมอ

 

เมื่อถามถึงแพลนลูกคนที่ 2 ทาง "พี่เจมส์" เองก็ยอมรับว่าตอนนี้เข้าสู่กระบวนการปั๊มทายาทคนที่สองแล้ว ด้วยเหตุผลที่ทางภรรยา "ครูก้อย" เองก็จะมีอายุเข้าปีที่ 37 ในปีหน้า เลยทำให้ตนตัดสินใจจะต้องเร่งมีในช่วงนี้ เพราะจากที่คุยกับทางคุณหมอมาเขาแนะนำว่าก่อนอายุ 37 จะเป็นช่วงที่ดีที่สุด ลั่นตอนนี้ก็ต่างใ่ายต่างบำรุงร่างกายเพราะส่สนตัวอยากจะลองใช้วิธีธรรมชาติก่อนสัก2-3 เดือน หากไม่สำเร็จก็จะใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งได้มีการปรึกษากับทางคุณหมอเรียบร้อยเเล้ว คาดไม่เกินปีหน้าที่จะได้เห็นลูกคนที่สองแน่ ส่วนเรื่องเพศนั้นส่วนตัวตั้งใจอยากได้ลูกผู้หญิง เพราะจากลูกคนแรกมันทำให้ตนรู้สึกอ่อนลงเพราะลูกผู้หญิงทำให้เรารู้สึกอ่อนโยนเป็นอีกคนหนึ่งไปเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทางภรรยาเองก็อยากได้ลูกชาย ซึ่งสุดท้ายแล้วก็คงต้องรอลุ้นว่าจะเป็นเพศไหน

 

 

s__70688794

ลูกสาวเป็นอย่างไรบ้างตอนนี้?“ตอนนี้อันโดรเมดาก็อายุ1.7ขวบพอดีเลย เขาพูดเร็วมาก จะถามทั้งวัน อันนี้คืออะไรค่ะ อันนั้นคืออะไรค่ะ แล้วภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไรค่ะ ภาษาจีนใต้เรียกว่าอะไร ภาษาจีนเรียกว่าอะไร ทุกอย่างต้องตอบ3ครั้ง เขาจะค่อนข้างอยากรู้อยากเห็น ผมก็เป็นพ่อที่ต้องคอยตอบทุกเรื่อง”

เราตั้งใจปลูกฝังภาษาท้องถิ่นให้กับเขา?“ปกติพ่อแม่จะไม่คุยกันภาษาใต้ แต่พ่อจะคุยกับก๋ง กับย่าเป็นภาษาใต้ เขาก็คงจะได้ยินแล้วจำมา มันเริ่มมาจากครั้งแรก เราไปสอนเขาพูดรองเท้าเป็นภาษาใต้ ตั้งแต่นั้นมาทุกอย่างต้องถามให้มีภาษาใต้ด้วย เขาก็พูดแนวเลียนแบบเรา เขาก็พูดชัดนะ เขาจำเสียงเอา เขาแยกไม่ออกหรอกว่ามันคือภาษาอะไรบ้าง 1 คำศัพท์ก็จะมี 3 ภาษา ภาษากลางภาษาอังกฤษ ภาษาใต้ ตอนนี้ล่าสุดอยากจะรู้ภาษาจีนด้วย พ่อแม่ก็ทำการบ้านกันหนัก ผมชอบนะครับ ผมมีความสุขที่เราได้เห็นอะไรที่เป็นสิ่งใหม่ๆของลูกในทุกเรื่องเลย แม้จะเป็นเรื่องง่ายๆ แค่เขารู้จักหลอดดูด เขาเจอใบไม้ เจอก๊อกน้ำ มันเป็นศัพท์ใหม่ๆในชีวิตของคนๆนึง ผมมีความสุขกับการได้ตอบ คือตอบทั้งวันจริงๆนะ วันๆนึงเป็นร้อยๆคำศัพท์
ช่วงสงสัยของเด็กจะอยู่ในวัย2 ขวบกว่า แต่เมดาอาจจะถือว่าเขาพูดเร็วด้วยเขาก็เลยถาม”

น้องไปโรงเรียนแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?
“ตอนนี้ไปโรงเรียนแล้ว ก็เลือก harrow international school ให้เขา เป็นคลาสที่เรียกว่าไปเล่นมากกว่า ก่อนคลาสก่อนพรีเนิร์สเซอรี่ พรีของพรีอีกทีนึง เด็กๆจะเข้าไปพร้อมกับผู้ปกครอง ตอนแรกเราก็มีความคิดสองจิตสองใจอยู่นะว่ามันเร็วไปรึเปล่า เราอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก เขาก็บอกว่าเด็กในวัยนี้เหมาะที่จะอยู่กับพ่อแม่ แต่พอดูในความเป็นจริง กลับมาดูตัวเอง เราอยู่กับลูกแทบจะ24 ชั่วโมง เราแบ่งเวลาซัก2ชั่วโมงพาลูกไปเปลี่ยนสถานที่บ้าง ไปเจอของเล่นใหม่ๆ เจอเพื่อน เจอบรรยากาศใหม่ๆ ไปเจอภาษาอังกฤษ เลยคิดว่าโอเคกับแบบนี้ อาทิตย์นึงก็ไปเรียน3วันเอง”

s__70688792

เราไปส่งลูกเองทุกเช้า?
“เป็นความตั้งใจของผมที่มีตั้งแต่ก่อนมีลูกแล้วว่าเราอยากจะเป็นคุณพ่อที่ไม่มีข้ออ้างว่าพ่อที่ยุ่งกับหาเงิน ไว้มีเวลาค่อยพาไป ผมจะไม่เป็นแบบนั้น”

ความเป็นห่วง?
“เราเข้าไปเรียนด้วยเลยไม่ได้กังวลอะไร รวมไปถึงโรงเรียนที่เราเลือก เรารู้สึกว่ามันได้มาตรฐาน ตอบโจทย์เรา แต่ลึกๆก็แอบกังวลว่าเมื่อถึงวัน 2.6 ขวบ มันจะเป็นคลาสที่เมดาต้องเข้าเองคนเดียว แต่เชื่อว่าถึงเวลานั้นเขาจะปรับตัวได้แล้ว ตอนนี้เข้าห้องเรียนไปก็เดินเดี่ยวเลย ไม่ร้องงอแง ไม่สนใจพ่อแม่เลย เขาเริ่มปรับตัวได้แล้ว จากที่ก่อนหน้านี้เขาจะงอแงเพราะอยากจะดูดเต้าแม่ ขณะที่กำลังมีกิจกรรมนิทาน”

เห็นว่าจองโรงเรียนข้ามปีเลย?“ด้วยโรงเรียนนี้ไม่รับเด็กกลางเทอม เราไปดูสถานที่แล้วเราก็อยากให้เขาเรียนที่นี่จนถึง ม.6 เลย มีทางเดียวเท่านั้นเลยก็คือต้องเข้าตั้งแต่พนีเนิร์สเซอรี่ ต้องอย่างนั้นเลย เราก็ทำการบ้านกันตั้งแต่เขาอยู่ในท้อง ดูคร่าวๆ หาสถานที่ๆตอบโจทย์ พอเขาคลอดออกมาแล้ว3 เดือนเราไปถึงโรงเรียน ดูสถานที่ จองคิว จ่ายเงินเลยว่าเราเอาจริงนะ แพลนยาวๆเลย ก็คือฝากชีวิตลูกเราไว้กับที่นี้แล้ว”

แพลนลูกคนที่2 เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?
“เริ่มแล้วครับ ครูก้อยปีนี้ก็จะย่างเข้า 37 ปีแล้ว เริ่มมีลูกยากแล้ว ก็ต้องช่วงนี้เลย ตอนนี้อยู่ในช่วงบำรุงร่างกาย กระบวนการแรกตอนนี้คือจะลองมีธรรมชาติกันดูก่อน แต่ลึกๆก็อยากจะมีวิทยาศาสตร์แหละ เนื่องจากวัยมันรอไม่ได้แล้ว ธรรมชาติมันต้องรอแล้วก็ลุ้นไป แต่วิทยาศาสตร์จะเป๊ะเลยตามนั้น
คือก็อยากจะให้โอกาสตัวเองได้ลองธรรมชาติดูก่อน เพราะถึงจะวิทยาศาสตร์ยังไงเราก็ทำธรรมชาติอยู่แล้ว(หัวเราะ) ที่กังวลตอนนี้มีอย่างเดียวคือเมดายังไม่เลิกเต้า จะอยู่แต่กับเต้าแม่ทั้งวัน ไม่อยู่ไม่ได้ คือเต้าแม่นี่เป็นอะไรที่ขาดไม่ได้เลย”

s__70688793

ให้เวลากับวิธีธรรมชาตินานแค่ไหน?
“3 เดือน ถ้าไม่รู้เรื่องก็มุ่งสู่วิทยาศาสตร์เลย เพราะเราเหมือนต้องมาเริ่มต้นใหม่ เราไม่ได้มีไข่ มีเสปิร์มฝากไว้ เพราะเราใช้ไปหมดแล้ว ตอนที่ฟิสไว้เหลือตัวที่แข็งแรงตัวเดียวเลยก็คือเมดา เราเลยต้องเริ่มใหม่ ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงบำรุงร่างกาย และลองวิธีธรรมชาติไปด้วย”

อยากได้เพศไหน?
“วันนึงก็อยากได้ผู้ชาย อีกวันนึงก็อยากได้ผู้หญิง สลับไปสลับมา แต่ตอนนี้เอนไปทางผู้หญิงค่อนข้างมาก อยากได้หญิงล้วน เพราะว่าความเป็นพ่อ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เวลาอยู่กับเด็กผู้หญิงมันรู้สึกเป็นธรรมชาติ ทุกอย่างสดใส ทำให้จิตใจเราอ่อนโยน มีความสุข มันหายเหนื่อย แต่ในความเป็นแม่ก็อยากได้ลูกชาย เวลาแม่อายุเยอะจะได้มีลูกชายดูแล แต่ในความเป็นจริงแล้วมันไม่จริงหรอก พอแม่อายุมาก ลูกชายก็อยู่กับแฟน ก็เลยเอนมาทางผู้หญิงมากกว่า
หลักๆเราอยากให้เมดามีเพื่อน ถ้าเป็นผู้ชายก็อาจจะไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ในเชิงการเตรียมตัว เราเตรียมบ้าน เตรียมห้องสำหรับลูกสองคนไว้อยู่แล้ว ก็รอลุ้นปีหน้า ยังไงก็ต้องมีปีหน้า ถ้าครูก้อยเข้าสู่37 โอกาสที่จะพลาดมีสูงแล้วในทางวิทยาศาสตร์ ฉะนั้นปีหน้าต้องเผด็จศึก ต้องพิชิตให้ได้”

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส