ลูกเลี้ยงวัย 16 ผวาหนัก! พ่อเลี้ยงเจาะฝาบ้านถ้ำมอง ขโมยกางเกงใน

10 พ.ย. 63

แม่-ลูกสาววัย 16 ขวัญผวา หลังผัวใหม่แม่ พฤติกรรมไม่น่าไว้วางใจ แอบเจาะฝาบ้านหลายจุด โดยเฉพาะห้องนอนลูกสาว ที่สำคัญแอบขโมยกางเกงในลูกสาวไปทำมิดีมิร้าย ขณะที่พ่อเลี้ยงยื่นคำขาดจะให้เลิกรา ต้องได้เงิน 5 หมื่นพร้อมรถอีแต๋น

กรณีความวุ่นวายที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของนางสังคาร อายุ 50 ปี ชาว อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ที่ถูกนายไพรี อายุ 57 ปีสามีใหม่ของตัวเองมีพฤติกรรมโรคจิต แอบเจาะฝาบ้านหลายจุด โดยเฉพาะที่ห้องนอนของลูกสาว วัย 16 ปี เชื่อว่าน่าจะทำเพื่อแอบถ้ำมองตอนลูกสาวขณะเปลี่ยนเสื้อผ้า นอกจากนี้ยังขโมยกางเกงในของลูกสาวไปทำมิดีมิร้ายต่าง ๆ นานา หลังพบหลักฐานกางเกงในลูกสาวไปอยู่ในรถและกระเป๋าของสามี สร้างความหวาดผวาให้กับลูกสาวและตัวเอง เพราะอยู่บ้านหลังเดียวกัน จนต้องเข้าเรื่องแจ้งความที่ สภ.สตึก

โดยหลังเรื่องถึงตำรวจนายไพรี ยืนยันจะไม่หนีไปไหน แต่ถ้าจะให้ไป ทางนางสังคารจะต้องจ่ายเงินให้จำนวน 50,000 บาท พร้อมรถอีแต๋น เพราะตั้งแต่อยู่กินกันมากว่า 4 ปีได้ช่วยทำงาน แต่ไม่เคยได้อะไร แต่หากไม่จ่ายจะไม่ยอมออกจากบ้าน สร้างความหวาดกลัวให้กับครอบครัวนี้มากยิ่งขึ้น โดยที่ยังหาทางออกไม่ได้

เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 63 นางจันทร์เพ็ญ คดีเวียง อายุ 48 ปี ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายภรรยาได้เคยมาแจ้งว่าสามีขโมยกางเกงในลูกมาแล้ว 2 ครั้ง ตอนแรกขโมยของลูกที่อยู่ด้วยกัน ครั้งที่ 2 ขโมยกางเกงในลูกสาวอีกคนที่มาเยี่ยมบ้านแม่ ตนพยายามเป็นตัวกลางในการเจรจาให้เลิกรากันไป แต่ก็ไม่เป็นผล เคยแนะนำให้ลูกสาวไปอยู่บ้านญาติ แต่ทำได้ไม่นานลูกสาวจำเป็นต้องกลับมาหาแม่ เพราะเป็นห่วงแม่ ทราบว่าฝ่ายสามีเคยถูกจับกุมคดีอาวุธปืน ถูกจำคุก 4 เดือนมาแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ล่าสุดทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ ทราบเรื่องแล้วเตรียมเข้าไปคุ้มครองเด็ก ส่วนกรณีที่นายไพรี ไม่ยอมออกจากบ้านจะประสานฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขต่อไป โดยจะต้องเร่งดำเนินการเป็นการเร่งด่วน เพราะเด็กอาจอยู่ในภาวะอันตราย

ขณะที่ นายไพรี ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ แต่ปฏิเสธว่าไม่เคยขโมยกางเกงในใคร และไม่เคยเจาะฝาบ้าน จากที่เป็นข่าวไป ตนมีความรู้สึกว่าได้รับความเสียหาย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากว่า 4 ปี ตนทำงานมาโดยตลอด ทั้งทำนาเลี้ยงวัว ภรรยาเคยไล่ตนออกจากบ้านแล้วหลายครั้ง แต่ไม่ยอมให้เงินตนก็ไปไม่ได้ มาถึงตอนนี้แล้วจะต้องพูดคุยกันเรื่อง "ค่าเสียหาย" หากต้องการให้ตนออกจากบ้านจะต้องจ่ายเงินให้จำนวน 50,000 บาท เพราะทำงานมาโดยตลอดไม่เคยได้ค่าแรง พร้อมจะเอารถอีแต๋นของตัวเองกลับไปด้วย การกล่าวหาดังกล่าวของภรรยาเป็นการพูดข้างเดียว

ด้านนางสังคาร ยืนยันว่าเรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องจริง ไม่มีความจำเป็นที่จะโกหก ถ้าสามีมาเรียกค่าเสียหาย ตนไม่รู้จะทำอย่างไร ทั้งไม่มีเงินและกลัวว่าสามีจะมาทำร้าย จึงอยากจะขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือโดยด่วน

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ