ศึกชิงลูก! แม่เปิดใจขนชายฉกรรจ์อุ้มลูก อ้างกลัวเมียใหม่ทำร้าย ย่าลั่นอยากได้ต้องมีหมายศาล (คลิป)

6 พ.ย. 63

จากกรณี น.ส.นุสรา เข้ามาที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.อ่างทอง เพื่อรับลูกสาววัย 6 ขวบไปเลี้ยงดูที่ จ.สกลนคร เนื่องจากแยกทางกับพ่อของเด็กแล้ว ทำให้เกิดการยื้อแย่งกันที่หน้าโรงเรียนของเด็ก

925510

วันที่ 6 พ.ย. 63 นายละมัย (นามสมมติ) ปู่ของเด็ก เปิดเผยว่า ส่วนตัวที่อยากจะเอาหลานไว้เลี้ยงเอง เพราะตนเองก็รักหลาน ตนเองเลี้ยงหลานมาตั้งแต่หลานเกิด รวมถึงวันนี้ก็ 6 ปี ส่วนสะใภ้มาอยู่บ้านตนราว 8 ปี ในอดีตสะใภ้เคยทะเลาะกับภรรยาตน เรื่องไม่ทำความสะอาดบ้าน เคยย้ายออกจากบ้านตนไปราว 2-3 เดือน หลานก็อยู่กับตน หลังจากเหตุการณ์นั้น สะใภ้ก็มาขอโทษกลับมาอยู่ด้วยกันตามปกติ จนกระทั่งมามีเรื่องครั้งล่าสุด

853142

ส่วนตัวอยากเลี้ยงหลานไว้ เพราะตนกังวลเรื่องสิ่งแวดล้อม ห่วงสะใภ้หากไปมีสามีใหม่และกลัวว่าหลานตนเป็นผู้หญิง จะมีการละเมิดทางเพศหรือไม่ โดยเหตุการณ์ก่อนจะเกิดเรื่อง เริ่มจากวันที่ 9 ต.ค.63 สะใภ้เกิดทะเลาะกันกับลูกชายตน และมีปัญหาจะแยกทางกัน จนสุดท้าย 24 ต.ค. 63 สะใภ้ตัดสินใจย้ายออกจากบ้าน ส่วนตัวไม่ได้กีดกันแม่ลูก ยังคงสามารถติดต่อมาหากันได้ตามปกติ ตอนที่แยกทางกับลูกชายตน รถกระบะคันที่ขับมาวันนี้ รถจักรยานยนต์ ลูกสะใภ้ก็เอากลับบ้านไปด้วย ทั้งที่เป็นเหมือนทรัพย์สินร่วมกัน

988766

อย่างไรก็ตาม ปมที่ทะเลาะกันส่วนใหญ่ เป็นเรื่องการไม่ทำงานบ้านของสะใภ้ตลอด 8 ปี ส่วนเหตุวันนี้ ย่าเด็กเพิ่งไปบอกครูไว้ว่าห้ามให้แม่เด็กมารับตัวไป บอกครูตอนเช้า ตกสายก็มีสายเรียกเข้าจากครูว่าแม่เด็กไปที่โรงเรียน โดยแม่เด็กก็ไม่ได้บอกอะไรล่วงหน้าว่าจะไม่รับลูก แม่เด็กหลอกครูว่าจะมารับลูกไปเที่ยว 3 วัน

ตอนนั้นตนทราบข่าวก็รีบไปที่โรงเรียน และแม่เด็กพยายามเอาหนังสือจากอัยการเกี่ยวกับการจะมารับตัวเด็ก ซึ่งตอนนั้นตนก็พยายามบอกว่าไม่สามารถทำได้ ต้องรอให้มีคำสั่งจากศาลก่อน แม่เด็กไม่บอกก็อุ้มลูกออกจากโรงเรียน วิ่งมาที่วัดซึ่งอยู่ข้างโรงเรียน โดยตนก็สิ่งตามมา ทั้งวิ่งด้วยถ่ายรูปถ่ายคลิปด้วย หลังเกิดเรื่องตำรวจต้องมาเจรจาซึ่งหลานยืนยันจะไม่ไปกับแม่ บอกว่าจะอยู่กับย่า ส่วนตัวกังวลหากศาลสั่งให้หลานต้องไปอยู่ในความดูแลของแม่เด็ก

316620

นางติ๋ม (นามสมมติ) ย่าของเด็ก เปิดเผยว่า ตนเองเพิ่งสั่งครูที่โรงเรียนหลานไว้เมื่อเช้า ว่าหากแม่เด็กมารับ ขอไม่ให้ครูให้ตัวไป เนื่องจากตอนนี้เรื่องอยู่ระหว่างขั้นตอนของกฎหมาย ที่ผ่านมาตนเองก็ให้สะใภ้คุยกับหลานตลอด ตั้งแต่วันที่เขาย้ายออกจากบ้าน
จนกระทั่งสายวันนี้ ครูในโรงเรียนโทรมาแจ้งว่าแม่เด็กเดินทางมารับ ตอนนั้นตนเองกินข้าวอยู่ ตนทิ้งข้าวและออกจากร้านทันที

244711

ตอนที่คนไปถึงหลานก็นั่งอยู่กับสะใภ้ โดยสะใภ้กอดไว้แน่นอน หลานทำท่าเหมือนจะร้องไห้ และก็บอกว่าจะอยู่กับย่า อย่างไรก็ตาม หากสะใภ้มีคำสั่งศาลมา ตนเองก็ยินดีให้หลานไป ซึ่งจริง ๆ แล้วตนเองเคยคุยกับสะใภ้แล้ว ว่าจะขอเลี้ยงหลานให้โทรมาบอก ให้หลานโตก่อน หากตนเองไม่ได้เลี้ยงหลาน ตนคงตายแน่นอน เพราะตนเป็นห่วง กลัวจะมีปัญหาหากสะใภ้มีสามีใหม่

สมบัติที่ตนมีตนก็เคยบอกกับสะใภ้ว่าตนคงไม่มอบให้ใคร นอกจากให้หลาน ยอมรับว่าเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ปกติตนเองดูแลหลานมาตั้งแต่เกิด เพราะแม่เด็กก็ทำงานตลอด

920034

ด้าน น.ส.นุสรา แม่ของเด็ก เปิดเผยส่า ปัญหาที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเพียงปัญหาเรื่องลูก คือตนเองต้องการนำลูกสาวเพียงคนเดียวมาอยู่ด้วย นำลูกไปเลี้ยงที่บ้านเกิด แต่ปู่กับย่าซึ่งเป็นพ่อแม่สามีไม่ยอม บอกว่าให้ไปร้องต่อศาล ที่ผ่านมาเคยเจรจาคุยกัน คิดว่าว่าหากลูกเรียนจบอนุบาล 3 จะให้กลับไปอยู่กับตน แต่ปู่ย่าก็ระบุว่าต้องให้โตก่อน ป.1-ป.2 ส่วนเรื่องความกังวลว่าตนจะมีสามีใหม่ ตนเองตอบไม่ได้ แต่ตอนนี้ตนเองไม่มี อีกอย่างตนเองต้องรักลูกตนอยู่แล้ว ในทางกลับกัน หากสามีตนไปมีภรรยาใหม่ก็คงเช่นกัน

932288

ปัญหาครั้งนี้ที่ตนต้องแยกทางกับสามี เกิดจากสามีตนเองนอกใจ และสุดท้ายสามีได้หนีออกจากบ้านตัวเอง ตั้งแต่ 9 ต.ค. 63 และไม่กลับมา จนกระทั่งตนเองตัดสินใจย้ายออกจากบ้านสามีคือ 24 ต.ค.63 ตอนแรกจะเอาลูกมาด้วย แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถเอามาได้ ที่ผ่านมาตนเองได้คุยกับลูกตลอด โทรศัพท์ผ่านแม่สามี มีเพียงช่วงคืนลอยกระทงที่ตนติดต่อลูกไม่ได้เท่านั้น

ตนเองเคยคุยกับอดีตสามีว่าให้กลับไปอยู่กับลูก แต่สามีก็อ้างว่าขอตั้งตัวก่อน ซึ่งตนเองก็สงสารลูก หากต้องอยู่กับปู่ย่า คิดว่าการมาอยู่กับแม่จะดีกว่า แต่หากลูกอยู่กับพ่อของเขา ตนเองก็ไม่ได้ขัดอะไร ทั้งนี้ ยอมรับว่าตนเคยมีปัญหากับพ่อแม่สามี แต่เป็นเรื่องนานแล้วเรื่องการทำงานบ้าน

วันนี้ตนเองเข้าไปหาลูกสาวที่โรงเรียน ลูกสาวก็บอกตนว่าจะมาอยู่กับตน ตนเองที่ต้องทำแบบนี้เพราะคิดถึงลูก อยากเจอหน้าลูก หากลูกไปอยู่กับตนที่ จ.สกลนคร ตนเองก็จะมีเวลาอยู่กับลูก และที่ตนต้องทำแบบนี้เพราะการเจรจาคุยกันดี ๆ แล้วปู่ย่าไม่ยอม ส่วนเรื่องฟ้องศาลตนเองก็ไฝยังมืดแปดด้าน ยังคิดไม่ออก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส