ครอบครัวบุกโรงพักประท้วงตร.วิสามัญ 'บังบัส' รองผู้การฯ แจงคดีแยก 4 สำนวน

5 พ.ย. 63

ครอบครัว "บังบัส" เหยื่อวิสามัญฆาตกรรม รวมตัวถือป้ายประท้วงบุก สภ.ร่อนพิบูลย์ ทวงถามความยุติธรรม ด้านรอง ผบก.รุดแจงแยกดำเนินคดี 4 สำนวน ซึ่งมีความชัดเจนตอบข้อสงสัยฝ่ายผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด

เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 5 พ.ย. 63 ที่หน้า สภ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ครอบครัวและเพื่อนบ้านของนายเจริญศักดิ์ รัชพูมาด หรือ "บังบัส" อายุ 31 ปี ที่เสียชีวิตจากการถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยชุดกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ภายในสวนยางพารา เมื่อ 4 วันก่อน (1 พ.ย. 63) ได้รวมตัวกันถือแผ่นป้ายประท้วงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้กับนายเจริญศักดิ์ ที่ถูกวิสามัญฯ เพราะเห็นว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ยิงสนั่นป่า! วิสามัญ “บังบัส” ญาติโวยเหยียบหัวศพไร้ปืนสู้ ชุดจับแจงสกัดก่อนหยิบปืน
- วิสามัญฯพ่อค้ายา 'บังบัส' คาสวนยาง ชาวบ้านฮือล้อมตร. โวยชูมือ 2 ข้างแล้วยังยิง

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เชิญกลุ่มครอบครัว ญาติ และเพื่อนบ้านของนายเจริญศักดิ์ เข้าไปร่วมพูดคุยรับฟังข้อสงสัยภายในห้องประชุมของโรงพัก โดยมี พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช มาเจรจารับฟังข้อเรียกร้อง

น.ส.เมนี่ รัชพูมาด น้องสาวผู้ตาย กล่าวว่า มาเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้พี่ชายที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรม แต่เห็นว่าเป็นการเจตนาฆ่า เนื่องจากเจ้าหน้าที่จงใจที่จะใช้ปืนยิงจากข้างหลังทะลุด้านหน้า ขณะที่นายเจริญศักดิ์มีเพียงมีดพร้าเล่มเล็กอยู่ในมือเท่านั้น และยังจงใจที่จะถ่วงเวลาให้เสียชีวิต ขัดขวางความพยายามในการเข้าช่วยเหลือนายเจริญศักดิ์ขณะที่ยังนอนบาดเจ็บ รวมทั้งมีการเหยียบศีรษะผู้ตายโดยตั้งใจ ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้โดยง่ายแต่กลับไม่ทำ เหตุการณ์ทั้งหมดมีประจักษ์พยานยืนยันพร้อมที่จะให้การกับเจ้าหน้าที่

พ.ต.อ.สุขเกษม ชี้แจงว่า ได้มีการตั้งสำนวนในคดีนี้ 4 สำนวนด้วยกัน คือ 1. สำนวนไต่สวนการชันสูตรพลิกศพ 2. สำนวนการวิสามัญฆาตกรรม 3. สำนวนที่ตำรวจต้องหาว่าฆ่าคนตายโดยเจตนาซึ่งมีบิดาของผู้เสียชีวิตเป็นผู้ร้องทุกข์ และ 4. สำนวนการสอบสวนของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทั้งหมดมีความชัดเจนพร้อมที่จะตอบข้อสงสัยของฝ่ายผู้เสียชีวิตได้ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม กรณีฝ่ายผู้ตายยืนยันว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่เกินกว่าเหตุนั้น สามารถนำพยานหลักฐานที่มีทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อนำเข้าบรรจุในสำนวนได้ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วความกระจ่างในการชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานจะจบที่ชั้นศาลเป็นที่สุด แต่ในขั้นตอนของพนักงานสอบสวนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา

 

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ