เจอแล้ว! สาวโดนฉุดหน้าร้านชำที่แท้กิ๊กอุ้มดูแล หนุ่มไทใหญ่รับขู่ฆ่าผัวอ้างสงสารแฟนถูกทำร้าย (คลิป)

ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพขณะที่ชายหญิงคู่หนึ่ง กำลังยืนทะเลาะกันอยู่หน้าร้านซักผ้า ย่านหลังวัดบ้านท่อ ต.สันผีเสื้อ อ.เมืองเชียงใหม่ จากนั้นชายที่ปรากฏอยู่ในคลิปวงจรปิด ได้อุ้มหญิงสาวขึ้นรถจักรยานยนต์แล้วขับออกไป ซึ่งหญิงรายดังกล่าวทีสามีแล้วและมีลูก 2 คน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หนุ่มติดพันสาวรุ่นพี่ส่งรูปหยามก่อนบุกฉุดถึงบ้าน ผัวเผยรู้จัก 3 เดือนแฉคลิปเสียงขู่ฆ่า (คลิป)

ล่าสุด วันที่ 4 พ.ย. 63 เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่มายังร้านขายของชำที่เกิดเหตุ นางส้ม สาวชาวไทใหญ่ อายุ 37 ปีภรรยาของนายวิรัตน์ อายุ 45 ปี กลับมาที่ร้านขายของชำ โดยตำรวจชุดสืบสวนได้ติดตามตัวของนายอ่องยุ่น และนางสาวส้มได้ในพื้นที่ อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ก่อนนำตัวทั้งสองมาสอบสวน และได้ปล่อยตัวไป

นางสาวส้ม เผยว่า นายอ่องยุ่นไม่ได้ฉุดหรือทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ตอนนี้ทางตำรวจก็ได้มีการเรียกตัวไปสอบสวนแล้วบางส่วนด้วย ตนก็ไม่ได้ติดใจที่จะดำเนินคดีกับใคร

เนื่องจากระหว่างที่ถูกนำตัวไปนั้น นานอ่องยุ่นก็ดูแลตัวเองอย่างดี หาข้าวหาน้ำให้กิน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะเป็นเรื่องภายในครอบครัว ที่จะมีการตัดสินใจว่าจะเอาอย่างไรต่อไป

นางส่วยอิ่น อายุ 60 ปี แม่ของน.ส.ส้ม เล่าว่า ตนติดตามหาลูกสาว ได้เข้าไปจุดธูปเทียนบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระพุทธรูปภายในร้านของนายวิรัตน์ ลูกเขย ที่ร้านขายข้าวสารและขายผลไม้ ซึ่งเป็นร้านที่เกิดเหตุ เพื่อขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยเหลือให้ลูกสาวได้ปลอดภัย ตอนแรกที่ยังไม่สามารถติดต่อลูกสาวได้ ตนเป็นห่วงลูกสาวเป็นอย่างมาก อยากจะให้ชายชาวไทยใหญ่ที่ลักพาตัวลูกสาวตนไปนั้นนำลูกสาวมาส่งคืน และหากมีอะไรก็ให้มาเคลียร์พูดคุยกันดี ๆ

นายอ่องยุ่น ผู้ก่อเหตุ เปิดใจว่า ตนรู้จักกับนางสาวส้มทางเฟซบุ๊ก และตกหลุมรักตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน แม้รู้ว่านางสาวส้มมีสามีอยู่แล้ว แต่ตนเองก็ยอมคบหากันมานานกว่า 8 เดือนแล้ว โดยที่ฝ่ายหญิงกับตนจะแอบโทรศัพท์และส่งข้อความคุยกันทุกคืน ฝ่ายหญิงมักบ่นให้ฟังว่าอยู่กับสามีไม่มีความสุข เพราะสามีชอบทำร้ายร่างกาย แต่ที่ทนอยู่ เพราะสงสารแม่และลูก

ก่อนเกิดเหตุเป็นช่วงลอยกระทงได้นัดกับนางสาวส้มว่าจะไปลอยกระทงด้วยกัน แต่ถึงเวลากลับไม่มาตามนัด และติดต่อไม่ได้ ตนเองพยายามโทรศัพท์หาก็ทะเลาะกัน ก่อนนางสาวส้มจะบอกเลิก เพราะสามีจับได้ ตนจึงตัดสินใจมาหาที่ร้าน เพื่อตกลงปัญหากันแต่พอมาถึงก็คุยกันไม่รู้เรื่อง และทะเลาะกันเสียงดัง จนชาวบ้านข้างเคียงได้ยิน จึงชวนนางสาวส้มไปหาที่เงียบ ๆ คุยกัน ตนยืนยันว่าไม่ได้ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

ทัง้นี้ ตนยอมรับว่าได้ส่งข้อความไปข่มขู่สามีนางสาวส้มจริง เพราะสามีเขาชอบตบตีทำร้ายร่างกาย ตนไม่อยากให้ผู้หญิงเจ็บ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ตนก็ขอเจ็บแทนดีกว่า

ดา้นนายวิรัตน์ อายุ 45 ปี สามีของนางสาวส้ม เปิดใจว่า ตั้งแต่เกิดเหตุ ภรรยาของตนถูกอุ้มไปจากร้านค้า ไม่มีวี่แววที่จะติดต่อกลับมาเลย ไม่บอกล่วงหน้า เพราะภรรยาของตนยังไม่ได้นำมือถือติดตัวไปด้วย ซึ่งตนและคนรู้จักก็พยายามที่จะโทรหาชายคนที่มาอุ้มภรรยาของตนไป แต่ก็ไม่มีการรับสาย อีกทั้งยังมีการบล็อกเบอร์อีกด้วย

ซึ่งตนก็อยากจะฝากถึงชายที่มาอุ้มภรรยาของตนไป รวมถึงภรรยาของตน ให้ไปพูดคุยกันที่ สภ.ช้างเผือก เมืองเชียงใหม่ ว่าจะเอาอย่างไร ถ้าภรรยาของตนจะไปอยู่กับชายคนนั้น ตนก็โอเค แต่ขอให้มาพูดคุยต่อหน้ากัน