จนท.ศุลกากรด่านสะเดา ไล่ล่ารถบรรทุก 6 ล้อซิ่งแหกด่าน หนีวนไปมากว่า 30 กม. จนต้องตัดสินใจยิงยางแตกไป 5 ล้อจนสิ้นฤทธิ์ ค้นเจอใบกระท่อมสดซุกใต้พื้นรถ 344 กก.
เมื่อวันที่ 4 พ.ย. 63 เกิดเหตุไล่ล่าระทึกจากด่านพรมแดนสะเดา ขณะที่โชเฟอร์รถบรรทุก 6 ล้อขับข้ามด่านพรมแดนมาจากประเทศมาเลเซีย โดยจอดรถไว้ฝั่งประเทศมาเลเซียก่อนเข้ามาที่จุดตรวจโควิด-19 และประทับตราหนังสือเดินทาง ก่อนเดินกลับไปที่รถแล้วขับข้ามด่านเข้ามา เจ้าหน้าที่ศุลกากรสังเกตท่าทางมีพิรุธ จึงส่งสัญญาณเพื่อขอตรวจค้น
ทว่าคนขับรถ 6 ล้อคันดังกล่าว ไม่ยอมให้ตรวจกลับเร่งเครื่องขับหลบหนีด้วยความเร็วสูง เลี้ยวมุ่งหน้าไปยัง ซ.7 ไทย-จังโหลน ทะลุถนนเลียบชายแดนสะเดา–ปาดังเบซาร์ โดยมีรถเจ้าหน้าที่ศุลกากรไล่ติดตามอย่างกระชั้นชิด เจ้าหน้าที่ศุลกากรได้ประสานกับตำรวจ สภ.สะเดา และ สภ.คลองแงะ เพื่อสกัดตามเส้นทางที่คาดว่ารถคันดังกล่าวจะหนีไป
ปรากฏว่ารถคันดังกล่าว ได้ขับวนไปวนมาเป็นระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตรเศษ แต่ยังไม่ยอมหยุดรถเจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจใช้อาวุธปืนยิงสกัดล้อรถด้านหน้าขวา และล้อหลังทั้ง 4 ล้อ แต่รถยังวิ่งไปต่อจนถึงบริเวณถนนท่าพรุวิทยา เขตเทศบาลเมืองสะเดา ก็สิ้นฤทธิ์ เจ้าหน้าที่สามารถรวบตัวคนขับไว้ได้ คือ นายสุริยะ ปีสายออ อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ซ.9 ต.สะเดา อ.สะเดา จ.สงขลา
จากการตรวจสอบรถพบเป็นรถบรรทุก 6 ล้อยี่ห้อฮีโน่ ติดตั้งรั้วเหล็ก หมายเลขทะเบียน 71-6806 สงขลา ที่บริเวณพื้นรถถูกดัดแปลงเป็นช่องเก็บของ โดยมีแผ่นเหล็กปิดทับไว้อีกที พร้อมกับกางเชือกตาข่ายเพื่อปิดบังอำพราง หากมองผ่าน ๆ จะเป็นเหมือนรถเปล่าไม่ได้บรรทุกอะไร แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโดยละเอียดพบว่า มีใบกระท่อมสดเป็นมัด ๆ ซุกซ่อนอยู่ จึงนำรถมาตรวจค้นที่ด่านศุลกากรอีกครั้ง ซึ่งจากการรื้อแผ่นเหล็กออกมาเจ้าหน้าที่พบใบกระท่อมสดทั้งหมด 1,773 มัด น้ำหนัก 344 กิโลกรัม
นายอาทิตย์ วิสุทธิสมาจาร นายด่านศุลกากรสะเดา เปิดเผยว่า กลุ่มผู้ลักลอบขนใบกระท่อมสดข้ามชาติยังคงหาวิธีการใหม่ ๆ มาตบตาเจ้าหน้าที่ เพื่อลักลอบขนใบกระท่อมผ่านด่าน ซึ่งจากรายงานพบว่ารถคันดังกล่าวมักจะเดินทางเข้าไปในประเทศมาเลเซียช่วงก่อนค่ำ และจะกลับเข้ามาในประเทศไทยช่วงเช้าของอีกวัน เฉลี่ยอาทิตย์ละครั้ง ซึ่งจะได้ทำการสอบสวนนายสุริยะอีกครั้งหนึ่ง ว่ามีใครร่วมขบวนการอีกบ้างหรือไม่ ก่อนที่จะควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สะเดา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
