วิสามัญฯพ่อค้ายา 'บังบัส' คาสวนยาง ชาวบ้านฮือล้อมตร. โวยชูมือ 2 ข้างแล้วยังยิง

2 พ.ย. 63

ตำรวจนครศรีฯ วิสามัญพ่อค้ายาคาสวนยาง ชาวบ้านฮือล้อมโวยทำเกินกว่าเหตุ ระบุผู้ต้องหามีแค่มีดพร้า และชูมือยอมแพ้แล้ว ยังยิง ผู้การฯ เตรียมตั้งกรรมการสอบ ให้ความเป็นธรรม ขณะชุดจับกุมยันเป็นเหตุสุดวิสัย

จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 63 ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมผู้ค้ายาเสพติดเสียชีวิตในสวนยางพารา หมู่3 ต.หินตก อ.ร่อนพิบูลย์ จ.นครศรีธรรมราช ผู้เสียชีวิตคือ นายเจริญศักดิ์ หรือ "บังบัส" อายุ 31 ปี สภาพถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่ท้อง 1 นัด โดยชาวบ้านในพื้นที่จำนวนมากไม่พอใจเพราะเห็นว่าเจ้าหน้าที่กระทำรุนแรงเกินกว่าเหตุ เนื่องจากผู้ตายมีเพียงมีดพร้าขนาดเล็กในมือเท่านั้น ส่วนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมีนับ 10 นาย นอกจากนี้นายเจริญศักดิ์ ยังได้ชูมือทั้ง 2 ข้าง และยกมือไหว้ขอชีวิตแล้ว ชาวบ้านได้ล้อมเจ้าหน้าที่นานกว่า 2 ชั่วโมงท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด โดยที่ฝ่ายครอบครัวของนายเจริญศักดิ์ ยืนยันจะดำเนิคดีกับตำรวจที่ยิงนายเจริญศักดิ์ให้ถึงที่สุด

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 พ.ย. 63 น.ส.เมนี่ อายุ 26 ปีน้องสาวของนายเจริญศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้ติดต่อขอรับศพพี่ชายจาก รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ที่ส่งศพไปผ่าหัวกระสุน โดยจะทำพิธีฝังศพที่กุโบร์ไทรสุวรรณ อ.ร่อนพิบูลย์ ซึ่งหลังจากนั้นทางญาติจะเตรียมทำเรื่องขอความเป็นธรรมให้กับผู้เสียชีวิตจนถึงที่สุด เพราะมองว่าตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ผู้ตายไม่มีอาวุธต่อสู้มีเพียงมีดพร้าเล่มเล็ก ๆ เท่านั้น และชูมือยอมจำนนแล้ว แต่ตำรวจยังยิงจนตาย และยังมีการใช้เท้าเขี่ยศีรษะผู้ตาย ซึ่งถือว่าไม่ให้เกียรติในความเป็นมนุษย์

ทางด้าน พล.ต.ต.ธรรมนูญ ประยืนยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช (ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช) เปิดเผยว่า จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายเจริญศักดิ์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับถึง 3 คดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด คดียิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ และคดีอาวุธปืน โดยแหล่งข่าวระบุว่าก่อนหน้านี้นายเจริญศักดิ์เคยก่อเหตุขับรถแหกด่านและยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ อ.ร่อนพิบูลย์ และ อ.ชะอวด ขณะตำรวจเข้าจับกุม และครั้งหลังสุดที่ ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา ขณะเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปจับกุมยาเสพติดนายเจริญศักดิ์ ก็ยิงใส่ตำรวจเปิดทางหลบหนีออกมาได้

ขณะที่ตำรวจชุดจับกุมรายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะเข้าจับกุมนั้น นายเจริญศักดิ์พยายามจะวิ่งไปเอาปืนในรถ แต่ไม่ทัน จึงหยิบมีดพร้าและวิ่งหนีตำรวจ 5 นายที่วิ่งไล่ไปประมาณ 1 กิโลเมตร หากตำรวจคิดจะยิงจริง ๆ คงไม่วิ่งไล่ไปไกลถึงขนาดนั้น เพราะตำรวจเองก็ต้องการจับเป็นเพื่อนำตัวมาขยายผลถึงเครือข่ายที่มีอีกจำนวนมาก แต่ผู้เสียชีวิตไม่ยอมให้จับกุม และใช้อาวุธมีดพร้าฟันใส่ตำรวจอย่างไม่ยั้งถูกตำรวจได้รับบาดเจ็บไป 1 นาย ทำให้ตำรวจสุดวิสัยเลยยิงไปเพื่อป้องกันตัว และเมื่อญาติ ๆ ผู้เสียชีวิตมาล้อมกว่า 30 คนในขณะที่ตำรวจมีเพียง 5 นายจึงจำเป็นต้องกันสถานที่ไม่ให้ชาวบ้านหรือญาติเข้าไป เพราะเป็นการทำลายหลักฐาน ยืนยันว่าเป็นเหตุสุดวิสัย

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ