พี่น้องฉุนโดนแจกกล้วยรุมทืบสองล้อสลบเหมือด แฉเป็นคนมีสี ญาติมั่นใจโดนยั่วก่อน (คลิป)

จากกรณี เพจเฟซบุ๊ก "เกาะติดสถานการณ์ และอุบัติเหตุ" โพสต์ข้อความว่า รถ mazda จอดมีปากเสียงกับรถมอเตอร์ไซค์และได้ทำร้ายร่างกายชกต่อยกัน โดยเจ้าของโพสต์เข้าไปห้ามคนขับคันแรก แต่มีรถเชฟโรเลตคันหลังที่ตามมาซึ่งเป็นเพื่อนของรถคันหน้าได้ลงเข้าไปทำร้ายร่างกายซ้ำอีก เจ้าของโพสต์ห้ามไม่ได้ พอดีมีตำรวจ สน.บางรัก ที่มาแข่งวิ่งในเมืองทองธานี ได้เข้ามาช่วยห้ามอีกคนเอาไว้แต่ห้ามไม่อยู่ สุดท้ายผู้บาดเจ็บโดน 2 คนรุมจนต้องพาส่งโรงพยาบาล ศีรษะมีบาดแผลฉกรรจ์

เหตุการณ์ดังกล่าวทราบชื่อผู้ก่อเหตุ ชายเสื้อส้มชื่อ นายแชมป์ อาชีพ เป็นตำรวจ ป.ป.ส. ส่วนชายเสื้อสีฟ้าชื่อ นายตุ่น อาชีพ ค้าขาย และผู้บาดเจ็บชื่อ นายนพลักษณ์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะด้านขวาแตก

วันที่ 31 ต.ค. 63 ทีมข่าวได้เดินทางไปยังพื้นที่เกิดเหตุ ตรงบริเวณหน้าปากทางเข้าหมู่บ้าน ย่านคลองประปา นายอาร์ม (นามสมมติ) อายุ 46 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนไปทำธุรบริเวณแถวนั้นพอดี จังหวะนั้นรถติด มีเจ้าของรถมาสด้า สีขาวได้เถียงกับคนขี่รถจักรยานยนต์ จากนั้นเจ้าของมาสด้าชายเสื้อสีส้ม ได้ลงมาจากรถพูดคุยกันไม่ถึง 10 วินาที เจ้าของรถมาสด้าได้ต่อยเจ้าของรถจักรยานยนต์ทันที โดยเจ้าของรถจักรยานยนต์ไม่สู้ หลบอย่างเดียว

ตนจึงลงไปช่วย ได้ล็อกตัวเจ้าของรถมาสด้า ขณะนั้นเจ้าของรถจักรยานยนต์ได้ยืนอยู่ในอาการมึนงง กระทั่งมีรถเชฟโรเลต สีขาวได้จอดรถ วิ่งเข้ามาทำร้ายร่างกายเจ้าของรถจักรยานยนต์อีกครั้ง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางรักเข้ามาห้ามปราม แต่สุดท้ายแล้วไม่สามารถด้านแรงของคนก่อเหตุได้ เจ้าของรถยนต์ทั้ง 2 คนได้รุมต่อยกับเจ้าของรถจักรยานยนต์ตั้งแต่คอสะพานไปจนถึงร้านขายของชำ ก่อนที่เจ้าของรถจักรยานยนต์จะล้มลงหัวฟาดกับพื้นและมีเลือดไหลออกมา โดยไม่ทราบว่ารอยแผลดังกล่าวเป็นรอยแผลจากวัตถุใด เพราะหากหัวล้มฟาดพื้นรอยแตกจะต้องเป็นแนวขีด แต่รอยที่เจ้าของรถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บนั้นเป็นรูเจาะลึกลงไป และช่วงเวลาดังกล่าว ไม่เห็นว่าเจ้าของรถยนต์ทั้ง 2 คนมีอาวุธหรือไม่ เพราะชุลมุนวุ่นวาย จากนั้นเจ้าของรถจักรยานยนต์สลบทันที ส่วนเจ้าของรถยนต์ทั้ง 2 คนวิ่งขึ้นรถและขับเข้าไปในหมู่บ้าน

ตนจึงเข้าไปช่วยเหลือเจ้าของรถจักรยานยนต์ สักพักก็ฟื้นขึ้นมา จึงรีบโทรแจ้งรถโรงพยาบาล ส่วนเจ้าของรถจักรยานยนต์บอกว่าเจ็บ ซึ่งไม่มีสติ เท่าที่ตนสังเกตดูทั้งคู่อยู่ในอาการที่มึนเมา เพราะขณะที่เข้าไปช่วยเหลือนั้นมีกลิ่นแอลกอฮอล์ พฤติกรรมของชายทั้งสองคนนั้นตนมองว่าเป็นพฤติกรรมที่รุนแรง หากมีการปาดหน้ากันเกิดขึ้นหรือมีการด่าทอ ก็ควรใจเย็นและขับรถต่อไป ไม่ใช่มาช่วยกันทำร้ายร่างกายซ้ำอีก หลังจากเกิดเหตุการณ์แล้วมีชาวบ้านได้มากระซิบบอกว่าชายคนที่เป็นเจ้าของรถมาสด้า สีขาว เป็นข้าราชการตำรวจ แต่ตนไม่ทราบว่าเป็นตำรวจหรือทหารหรือไม่

ด้านนายเอก (นามสมมติ) น้าของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ตนทราบข่าวจากชาวบ้านว่าหลานชายทั้ง 2 คนมีเรื่องกับผู้บาดเจ็บ โดยชาวบ้านเล่าให้ฟังว่าทั้งหลานชายของตนและผู้บาดเจ็บต่างฝ่ายต่างเมา แล้วขับรถปาดหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างแจกของลับให้กัน จากนั้นเกิดความโมโหจึงได้ชกต่อยทะเลาะวิวาท ตนคาดว่าแชมป์ น่าจะมาส่งตุ่น กลับบ้านแต่เกิดเหตุก่อน

หลังจากเกิดเหตุตนยังไม่ได้คุยกับหลานชายทั้ง 2 คนพยายามติดต่อไปแล้ว แต่ทั้งคู่ปิดเครื่อง ขณะเดียวกันตนก็ยุ่งเรื่องทำบุญตักบาตร เพราะเป็นวันพระ หากตนเจอหลานชายจะสอบถามเรื่องราวว่าเป็นมาอย่างไร สาเหตุเกิดจากอะไร ยอมรับว่าตอนนี้ตนโมโหที่ติดต่อไม่ได้ ทั้งนี้ ลักษณะนิสัยของแชมป์ ไม่เคยมีเรื่องกับใคร หากไม่สุดจริง แม้แต่ 3-4 เดือนที่ผ่านมา แชมป์และภรรยาที่ท้องถูกรถเมล์ปาดหน้าไปปาดหน้ามา แชมป์ได้ขึ้นไปถามคนขับรถเมล์ จากนั้นได้ด่าทอเรื่องก็จบ ซึ่งหากไม่ให้ของลับกันก็คงไม่เกิดเรื่อง หลานชายของตนไม่เคยมีเรื่องกับใคร

อย่างไรก็ตาม หากติดต่อหลานชายทั้งสองได้จะพาไปขอโทษผู้บาดเจ็บ และจะสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งสองฝ่าย