กรณี พ.ต.อ.เอกอนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 25 ต.หนองหว้า พบรถเก๋งวีออส สีขาว ทะเบียน กง 7128 นครนายก จมน้ำฝายบ้านทุ่งหลวง ภายในรถพบผู้เสียชีวิตเป็นชายหญิง จำนวน 2 คน
จากการตรวจสอบสภาพรถพบ มีศพผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย อยู่บริเวณด้านหลังเบาะคนขับ ได้แก่ รศ.ดร.เอนก อายุ 81 ปี อดีตรองคณบดี สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ หรือนิด้า และนางจารวีย์ อายุ 76 ปี ทั้งคู่เป็นสามีภรรยากัน
ล่าสุดวันที่ 31 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุบริเวณ ฝายน้ำล้นบ้านฝั่งหลอง หมู่ 25 ต.หนองหว้า อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณจุดเกิดเหตุ เป็นพื้นปูนถนนที่ต่างระดับกันความสูงประมาณ 2 เมตร อีกทั้งบริเวณฝายน้ำล้นดังกล่าว จากการสำรวจพบว่ามีขนาดความลึกของระดับน้ำสูงประมาณ 4 เมตร ซึ่งหากผู้ไม่ชำนาญเส้นทาง ขับผ่านมาบริเวณนี้ อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายจากพื้นที่มีระดับความสูงต่ำไม่เท่ากัน
นายสมศักดิ์ แปรพันธ์ ชาวบ้านที่พบรถจมน้ำเป็นคนแรก เล่าว่า เมื่อวานนี้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านมาแล้วเห็นว่าปลาขึ้นเป็นจำนวนมาก ก่อนจะกลับบ้านที่อยู่ห่างจากฝายน้ำล้นจุดเกิดเหตุไม่เกิน 500 เมตร เพื่อไปเอาตาข่ายมาวางจับปลา
แต่ในขณะกำลังวางตาข่าย เท้าของตนได้เหยียบวัตถุบางอย่างเหมือนรถจมอยู่ในน้ำ ก่อนจะใช้มือคลำดูจนพบล้อรถ อีกทั้งยังได้กลิ่นเหม็นเน่า จนกระทั่งแน่ใจว่ามีรถจมน้ำ จึงได้โทรศัพท์ไปแจ้งหน่วยกู้ภัยจุดเขาฉกรรจ์ เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่สํานักงานพิสูจน์หลักฐานตํารวจ (สพฐ.ตร.) เข้าตรวจสอบไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด จึงสันนิษฐานว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองน่าจะขับขี่มาบริเวณนี้โดยที่ไม่ชำนาญเส้นทาง จึงทำให้พลัดตกฝายน้ำล้น เพราะถนนเป็นพื้นต่างระดับกันความสูงประมาณ 2 เมตร เนื่องจากตัวตำแหน่งเกียร์รถอยู่ที่เกียร์ดี มีการดึงเบรกมือ ลักษณะเหมือนคนตกใจ
อีกทั้งขณะที่รถพุ่งลงน้ำ น้ำหนักของรถจะลงไปที่ตัวเครื่องยนต์ด้านหน้ารถ ก่อนทำให้ท้ายรถโผล่อยู่เหนือน้ำ ซึ่งขณะนั้นด้วยความตกใจ ผู้เสียชีวิตทั้งสองพยายามเอาชีวิตรอด จึงต้องหนีขึ้นมาบริเวณเบาะด้านหลังรถ และพยายามจะพังประตูรถออกมา แต่ก็ไม่ทันการทำให้ขาดอากาศหายใจเสียชีวิตในที่สุด ส่วนรายละเอียดการเสียชีวิตที่แน่ชัด ต้องปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ขณะนี้อยู่ในความดูแลของแพทย์นิติเวช
หลังจากนั้นทีมข่าวเดินทางไปที่ สำนักปฏิบัติธรรมพุทธพัฒนา อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นสถานปฏิบัติธรรมที่คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะเดินทางมา ก่อนเกิดเหตุสลดดังกล่าว
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ พระอาจารย์ธรรมจักร ธีรวังโส เจ้าสำนักปฎิบัติธรรม พุทธพัฒนา เปิดเผยว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เป็นผู้ที่มีจิตใจดี ชอบช่วยเหลือพระพุทธศาสนา และเป็นผู้ที่ต้องการจะเข้ามาช่วยพัฒนาสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยเดินทางเข้ามาที่สำนักปฎิบัติธรรมบ้างแล้ว แต่ไม่บ่อยหนัก เนื่องจากมีความศรัทธาในตัวขององค์หลวงพ่อดี เจ้าสำนักปฏิบัติธรรม
ก่อนเกิดเหตุวันที่ 17 - 18 ต.ค.63 ทางสำนักปฏิบัติธรรม มีการจัดงานทอดกฐิน ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งสองคน ได้นัดหมายกับทางสถานปฎิบัติธรรมว่า จะเดินทางมาร่วมงานทอดกฐิน และช่วยในเรื่องของการส่งเสริพระพุทธศาสนา แต่ในวันนั้นก็ได้คอยอยู่นาน แต่ก็ไม่เห็นว่าทั้งคู่จะเดินทางมาถึงเสียที
จึงได้มีการโทรศัพท์พยายามติดต่อ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งวันที่ 30 ต.ค.63 มีชาวบ้านได้มาบอกให้อาตมาทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งสองได้ประสบอุบัติเหตุรถพุ่งจนฝายน้ำล้นบ้านฝั่งหลอง จนเสียชีวิตพร้อมกัน อาตมาก็รู้สึกหดหู่ใจกับการจากไปอย่างกะทันหันของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน
ส่วนกรณีวัตถุมงคลต่าง ๆ ที่อยู่ภายในรถของผู้เสียชีวิต ทางอาตมายืนยันว่าไม่ได้เป็นของสถานปฏิบัติธรรม เนื่องจากสถานปฏิบัติธรรม ไม่ได้มีการจัดทำเหรียญเพื่อสร้างใด ๆ ทั้งสิ้น ซึ่งก็ไม่ทราบรายละเอียดว่า วัตถุมงคลต่าง ๆ ที่อยู่ภายในรถของผู้เสียชีวิตได้มาจากที่ไหน
พ.ต.อ.อนันต์ หูแก้ว ผกก.สภ.เขาฉกรรจ์ ระบุว่า จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ทราบว่ารถดังกล่าวเป็นของ น.ส.เนตรดาว ซึ่งปัจจุบันอาศัยอยู่กับสามีในประเทศสหรัฐอเมริกา เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลว่า รถคันนี้ได้ให้ รศ.ดร.เอนก และนางจารวีย์ ซึ่งเป็นพ่อแม่ของสามีน.ส.เนตรดาว เอาไว้ใช้อยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ
อีกทั้งจากการสอบถามลูกชายของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ยืนยันว่า พ่อแม่ได้เดินทางออกจากบ้านพักในกรุงเทพฯ เพื่อเดินทางไปร่วมงานบุญกฐิน ตั้งแต่วันที่ 18 - 20 ต.ค.63 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย ทางครอบครัวจึงเดินทางไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สน.ห้วยขวาง กระทั่งช่วงเย็นที่วันที่ 30 ต.ค.63 มีชาวบ้านออกไปหาปลา บริเวณฝายทุ่งหลวง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว และพบรถคันดังกล่าวจมน้ำ มีผู้เสียชีวิต 2 คนติดอยู่ภายในรถจึงทราบเรื่อง
เบื่องต้นเจ้าหน้าที่มุ่งประเด็นอุบัติเหตุ เนื่องจากมีข้อมูลสอดคล้องว่า ผู้เสียชีวิตทั้ง 2 กำลังจะเดินทางไปร่วมงานบุญกฐิน ประกอบกับไม่ชำนาญเส้นทางในบริเวณจุดเกิดเหตุ จนทำให้เกิดอุบัติเหตุครั้งนี้ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการเรียกญาติผู้เสียชีวิตมาสอบสวนอีกครั้ง เพื่อรับศพกลับทำพิธีกรรมทำสนามต่อไป
