เมื่อวันที่ 30 ต.ค. 63 ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการดูแลรักษาความปลอดภัยในงานพระราชทานปริญญาบัตร ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ในวันที่ 31 ต.ค. 63 ภายหลังมีการรณรงค์ไม่เข้ารับปริญญาและเตรียมจะจัด "บิ๊กเซอร์ไพร์ส" ว่า ถือเป็นการปฏิบัติตามพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านที่ปฏิบัติมาโดยตลอดตามวัฒนธรรมประเพณีที่มีมายาวนาน
"คงไม่จำเป็นต้องสั่งการให้เตรียมการอะไรเพิ่มเติม เพราะเป็นระเบียบปฏิบัติที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่อยู่แล้วตามกฎหมายทุกประการ เพียงแต่อย่าให้เกิดอันตรายกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด โดยเฉพาะการละเมิดสถาบัน ถือเป็นเรื่องที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่ง"
ในส่วนของนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เสนอให้รับฟังความคิดเห็นของกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ด้วยความเคาพเป็นการส่วนตัว นายอานันท์ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ที่ผ่านมาก็รับฟังข้อเสนอมาโดยตลอดทั้งทางสื่อโซเชียลและจากคำพูดที่ออกมา ขอให้เข้าใจซึ่งกันและกันด้วย โดยการเปิดรัฐสภาประชุมสมัยวิสามัญที่ผ่านมาก็รับฟังความคิดเห็นจากทางฝ่ายการเมืองถึงเรื่องความต้องการของกลุ่มผู้ชุมนุมอยู่แล้ว ถือว่าจบแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็เป็นการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาว่ามีเรื่องใดที่เป็นไปได้และเรื่องใดที่เป็นไปไม่ได้ ซึ่งต้องยึดหลักการกฎหมายและรัฐธรรมนูญที่ประกาศใช้อยู่ถึงปัจจุบัน ส่วนวันหน้าจะแก้ไขอย่างไรก็ค่อยว่ากันอีกครั้ง
เมื่อถามถึงกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ เสนอให้ทำการปฏิวัตินั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องไปถามคนพูด เราไม่เคยคิดเรื่องเหล่านี้ ต้องระมัดระวังสถานการณ์ไม่ให้บานปลายไปเรื่อยๆ ตนไม่ได้หมายความว่าจะมีการปฏิวัติหรือไม่มี เพราะว่าไม่มีใครอยากทำ และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีก็ตอบไปแล้วว่าไม่ทำปฏิวัติ
เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านตั้งข้อสังเกตว่าการตั้งคณะกรรมการสมานฉันท์แห่งชาติเป็นการยืดเวลาเวลา พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นี่คือกลไกลของรัฐสภาในการแก้ไขปัญหา เมื่อเราปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ต้องเคารพระบบรัฐสภา และเคารพคะแนนเสียงส่วนใหญ่ของคนทั้งประเทศ อยากให้ไปทบทวนตรงนี้ว่าควรเป็นอย่างไรต่อไป นอกจากนี้ยังมีอีก 2 พรรคฝ่ายค้านที่ไม่ได้การเข้าร่วม ตนถามว่า แล้วจะเข้าร่วมประชุมรัฐสภาทำไม
"ในเมื่อเป็นส.ส.ที่เป็นผู้แทนสะท้อนความคิดเห็นจากประชาชนทุกคนและทุกฝ่าย ไม่ใช่นำความคิดเห็นของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งมาเสนอกดดันและเร่งรัด ผมคิดว่าไม่ถูกต้อง นี่หรือประชาธิปไตยไทยเป็นอย่างนี้หรือ ตนคงพูดได้แค่นี้ ไม่มีความคิดเห็นใดเพิ่มเติม ต้องดูที่เจตนา" นายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า นายไผ่ ดาวดิน แกนนำราษฎร ประกาศปิดถนนมิตรภาพเพื่อชัตดาวน์ กทม. พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทำได้ก็ทำไป แต่อยากให้สังคมช่วยกันดูแลตรงนี้ คนที่ได้รับผลกระทบไม่ใช่ตนแต่เป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการจราจร และการส่งขนสินค้า ถ้าเป็นคนที่ดีก็ไม่ควรกระทำในพื้นที่ที่เป็นสาธารณะ เพราะทำให้เกิดปัญหา และทำให้เกิดความขัดแย้งต่อไปเรื่อยๆ ตนก็เข้าใจว่าการชุมนุมก็จะต้องทำเช่นนี้
ทุกคนต้องระมัดระวังซึ่งกันและกัน รวมถึงเจ้าหน้าที่ในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม จะมาบอกว่ากฎหมายไม่เป็นธรรมไม่ได้ หากไม่กระทำความผิดก็ไม่ถูกบังคับใช้ตามกฎหมาย ขอร้องว่าอย่าทำให้เหตุการณ์บานปลาย ไม่ส่งผลดีกับใครแม้แต่คนเดียว มีแต่ขายข่าวได้มากขึ้น แต่ประเทศชาติก็หักพังไปเรื่อยๆ ก็แล้วแต่จะคิดก็แล้วกัน
จากนั้น เวลา 16.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน "สวัสดีข้าวสาร" เพื่อเปิดตัวถนนข้าวสารโฉมใหม่ ส่งเสริมการท่องเที่ยวพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ตามนโยบายของรัฐบาล
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า "วันนี้รู้สึกตื้นตัน เวลาเจอบรรยากาศดี ๆ ผู้คนมีรอยยิ้ม ก็รู้สึกดี เราแบ่งแยกกันไม่ได้ แตกต่างความคิดได้ แต่เราต้องอยู่ร่วมกันได้ ประเทศไทยมีประวัติศาสตร์ที่ดีงาม ประวัติศาสตร์มีไว้เพื่อให้เรียนรู้ ส่วนที่ดีก็ทำ สิ่งที่ไม่ดีก็อย่าทำ สถาบันมีมานาน เป็นสิ่งที่เราต้องสืบสาน รักษา ต่อยอด ไม่ใช่ทำลายทุกอย่าง" ก่อนกล่าวทิ้งท้ายว่า "ขอให้ทุกคนช่วยกันเพิ่มรอยยิ้ม ยิ้มด้วยความจริงใจ"
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินชมร้านค้าในงาน เเละได้โชว์ทำผัดไทกุ้งสดด้วย มีประชาชนบางส่วนมายืนชูป้ายข้อความให้กำลังใจ พร้อมตะโกนว่า "ลุงตู่สู้ ๆ"
เวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และภริยา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรี ร่วมงานสืบสานประเพณีลอยกระทง พุทธศักราช 2563 "ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย" ที่คลองผดุงกรุงเกษม ข้างทำเนียบรัฐบาล ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นก่อนหน้าวันลอยกระทง เสาร์ที่ 31 ต.ค. 63 นายกฯ กล่าวว่า "อธิฐานให้ประเทศมีความสงบสุข แล้วจะให้อธิษฐานอะไรเพิ่ม"
