หนุ่มนอนเฝ้าคนป่วยโดนย่องปาดคอเจ็บกลางดึก ตำรวจคุมเจ้าหนี้สอบปมทวงเงิน 2 พัน (คลิป)

30 ต.ค. 63

เมื่อวันที่ 30 ต.ค.63 พ.ต.ท.เหล่าชาติ เหล่าสักสาม พนักงานสอบสวน สภ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกทำร้ายร่างกาย โดยใช้มีดปาดคอได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บริเวณหน้าบ้านห้วยยางดง ม.8 ต.โคกเครือ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ จึงรุดเข้าตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ

507783

ที่เกิดเหตุพบนายตะวัน แก้วสีหา อายุ 46 ปี นอนบาดเจ็บอยู่บนแคร่หน้าบ้าน สภาพเลือดท่วมตัว มีบาดแผลที่บริเวณคอลำคอถูกของมีคมบาดเป็นแผลฉกรรจ์ และพบเลือดนองอยู่เต็มพื้น เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันปฐมพยาบาล และเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลหนองกุงศรี แต่เนื่องจากอาการสาหัส จึงนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลกาฬสินธุ์

611330

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายตะวัน ผู้ได้บาดเจ็บได้มานอนเฝ้าตา อายุ 95 ปี ที่ไม่สบายที่บ้านหลังดังกล่าว กระทั่งช่วงเช้าเวลาประมาณ 06.00 น. นางแถว แก้วสีหา อายุ 70 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ ซึ่งพักอยู่บ้านอีกหลังที่อยู่ใกล้กันได้เดินมาพบลูกชายนอนจมกองเลือดอยู่บนแคร่ และมีบาดแผลที่ถูกปาดที่ลำคอ จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

cg-1

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่พบคราบเลือดอยู่ภายในห้องนอนชั้นล่างของผู้บาดเจ็บ และพัดลมล้มอยู่คาดว่ามีการต่อสู้กัน และยังพบมีดทำครัวเปื้อนเลือดตกอยู่ คาดว่าน่าจะเป็นอาวุธที่คนร้ายใช้ โดยคนร้ายอาศัยช่วงผู้บาดเจ็บนอนหลับแล้วใช้มีดปาดคอหวังฆ่าให้ตาย ซึ่งนายตะวันพยายามต่อสู้ และเดินออกมาขอความช่วยเหลือ แล้วล้มฟุบที่แคร่หน้าบ้าน

cg-2

คาดว่าคนร้ายน่าจะรู้จักกันกับผู้บาดเจ็บ และจากการสืบสวนพบว่าก่อนหน้านี้ผู้บาดเจ็บได้มีปากเสียง และทะเลาะกันกับชายคนหนึ่งในหมู่บ้าน เรื่องผู้บาดเจ็บยืมเงินจำนวน 2,000 บาท แต่ยังไม่ใช้หนี้คืน มีการทวงหนี้กันบ่อยครั้งจนทะเลาะกัน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทราบตัวคนร้ายแล้ว เนื่องจากผู้บาดเจ็บรู้สึกตัวและยืนยันตัวบุคคลได้แล้ว และได้นำตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบปากคำ 1 ราย ซึ่งยังคงปฏิเสธ แต่เบื้องต้นตรวจปัสสาวะพบสีม่วง และอยู่ระหว่างสอบสวนและรอสอบปากคำผู้บาดเจ็บเพิ่ม

844981

ด้านนางบัวผัน ภูบรรทัด อายุ 57 ปี น้าผู้ได้รับบาดเจ็บ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุหลานชายมานอนเฝ้าตาที่บ้านหลังนี้ จนรุ่งเช้าแม่มาพบว่าถูกทำร้ายปาดคอแล้ว ที่ผ่านมาหลานไม่เคยมีเรื่องกับใคร เป็นคนทำมาหากิน มีดื่มสุราบ้าง ซึ่งเท่าที่ทราบจากแม่หลานชายได้ไปยืมเงินคนในหมู่บ้านจำนวน 2,000 บาท ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบ จะต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส