“เปิ้ล ไอริณ” ควงทนายเตรียมฟ้องคนดูหมิ่นกว่า 10 ราย ยันส่วนใหญ่มีตัวตน!

30 ต.ค. 63

มาอัพเดตเรื่องราววุ่นๆของนักแสดงสาวสายเซ็กซี่ “เปิ้ล ไอริณ” กันบ้าง ที่ก่อนหน้านี้เจ้าตัวถึงกับลงทุนควักเงินจ้างทนายเตรียมฟ้องเกรียนคีย์บอร์ด 7 รายที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์ล้ำเส้นเกินขอบเขตประมาณว่า “ดาราเหรอคนนี้ มีแต่เรื่องไม่ดี” หรือจะเป็นการเข้ามากล่าวหาว่าตนเป็นดาราชั้นต่ำ ขายตัว เป็นโสเภณี ซึ่งเจ้าตัวมองว่าเป็นการคอมเมนท์ในลักษณะอันธพาลเกินไป โดยวันนี้ 30 ตุลาคม 2563 “สาวเปิ้ล” พร้อมทนายความ “ธนภัทร ศรีปินตา” หรือ ทนายโม ก็ออกมาตั้งโต๊ะแถลงข่าวพร้อมกับบอกว่าตอนนี้ตัวเองได้รวบรวมหลักฐาน เกี่ยวกับข้อมูลของผู้ใช้โชเชียลเหล่านั้นได้เพิ่มเป็นมากกว่า 10 คนแล้ว ซึ่งทุกรายล้วนเข้าข่ายความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ซึ่งเป็นคดีอาญาเกี่ยวเนื่องคดีแพ่ง ทั้งสิ้น

s__36733048

 ซึ่งสาเหตุของการตัดสินใจดำเนินคดีในครั้งนี้ก็มาจากกรณีที่ "นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์" นักวิชาการและผู้ลี้ภัยทางการเมืองที่อาศัยอยู่ในประเทศญี่ปุ่น ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นเรื่องคนขายไก่ทอดลักษณะเชิงเหยียดอาชีพ ซึ่งด้วยความที่ตัวเองเคยมีอาชีพเป็นแม่ค้า เคยยืนทอดไก่มาก่อน จึงแชร์โพสต์นี้ออกไปพร้อมกับการตำหนิ เพราะมองว่านี่เป็นการโพสต์ซึ่งใช้ตรรกะที่ป่วยมากจนมีหลายคนเข้ามาคอมเมนท์ด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายสิบข้อความทั้งใต้โพสต์นั้น เช่น “อีเปิ้ล -ึงมันเป็นดาราขยะ wanna be อีควาย ชั่นต่ำแล้วยังเป็นสลิ่มอีก ไร้ค่า ไร้ราคาในวงการมากเว่อร์” , ที่บอกว่าเลิกเป็นดารา นี่เลิกเองหรือว่าไม่มีใครจ้างเพราะหน้าโป๊ะคะ” หรือจะเป็น “แค่ดาราเกรดล่างๆ แต่ก็เป็นดารานะเออ ชื่อเสียงก็มีแต่เน่าๆ” และจริงๆแล้วยังมีการไปตั้งกระทู้ด่าเธออีกต่างหากด้วย แต่ตนยังไม่คิดจะเอาเรื่องกับส่วนนี้

s__69787728

เบื้องต้นเจ้าตัวและทนายตั้งใจจะฟ้องในรูปแบบของการทยอยฟ้องไปทีละ 2-3 คน ซึ่ง 2 คนแรกที่เตรียมหลักฐานเพื่อจะส่งเรื่องถึงศาลคือ เจ้าของคอมเมนท์ “อ้อ ออกมาหาตังนี้เอง อีกะ-รี่ยาจก” และ “ขาย-ีไม่ออกแล้ว ต้องฟ้องร้องเอาเงินใช้ล่ะอีเปิ้ลลล” เพราะมองว่าเป็นถ้อยคำที่เหยียดเพศ ดูหมิ่นศักดิ์ศรีเกินไปและจากการตรวจสอบก็พบว่าทั้ง 2 คนที่เป็นเจ้าของ Facebook นี้มีตัวตนอยู่จริง คาดว่าอีกไม่เกิน 2 อาทิตย์เรื่องก็จะถึงศาลแน่นอน ส่วนคนอื่นๆที่จะฟ้องเป็นล็อตต่อไป ส่วนใหญ่ก็ล้วนมีชื่อตามทะเบียนราษฎร

 

ทั้งนี้คุณ “เปิ้ล ไอริณ” ก็ยืนยันด้วยเสียงอันสั่นเครือว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตามที่ศาลจะตัดสิน เพราะจากการเมนท์ของคนกลุ่มนี้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและหน้าที่การงานของตน ต่อให้หลายคนเข้ามาอ้อนวอน ขอโทษ อ้างเหตุผลต่างๆทั้งบอกว่าตัวเองเป็นแม่ลูกอ่อนเพื่อให้คุณเปิ้ลเห็นใจ ไม่ฟ้อง ตนก็ตอบกลับกับคนนี้ไปแค่ “หนึ่งล้านบาท” เพราะสุดท้ายแล้วหากจะไกล่เกลี่ยก็ต้องคุยกันในชั้นศาลเท่านั้นและนอกจากนี้ก็ยังมีบางคนที่พอเห็นคนจะฟ้องก็เข้ามาลบคอมเมนท์ แต่สาวเปิ้ลก็บอกเลยว่า “ไม่ทันแล้วเพราะตนได้แคปไว้หมดตั้งแต่แรก” ส่วนตัวแล้วมองว่าเหตุการณ์แบบนี้เข้าข่าย “มารไม่มี บารมีไม่เกิด ทุกอย่างไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญ”

s__69787725

ส่วนค่าเสียหาย ด้านของทนายก็บอกว่าปบ่อยให้เป็นดุลยพินิจของศาลฯอีกที ก่อนที่จะบอกว่า “คุณเปิ้ล” เป็นบุคคลสาธารณะสามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ก็จริงแต่สำหรับข้อความไหนที่เป็นการใส่ร้าย ส่วนนี้ก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ตัวเองอยากออกมาดำเนอนคดีกับคนกลุ่มนี้คือ เนื่องจากโพสต์ต้นเรื่องมีการพูดถึงประเด็นการเมืองและพาดพิงถึงสถาบันกษัตริย์ ตนยอมรับว่าเรื่องการเมืองจะไม่ขอยุ่ง แต่สถาบันกษัตริย์นี่ยอมไม่ได้จริงๆ เพราะต้นตระกูล “บุญนาค” ของตนได้รับพระราชทานนามสกุลนี้จากกษัตริย์รัชกาลที่ 6 และตลอดที่ผ่านมาตนและครอบครัวก็อาศัยอยู่บนทรัพย์สินของพระมหากษัตริย์ มีทุกอย่างได้เพราะกษัตริย์ ทำให้ในบ้านมีพระบรมฉายาลักษณ์ของกษัตริย์ทุกพระองค์ มองประเทศนี้เป็นเหมือนบ้าน จึงไม่สามารถอยู่เฉยแล้วไม่แสดงความคิดเห็นกับคนที่ด่าสถาบันกษัตริย์ได้จริงๆ

และยังบอกว่าคนกลุ่มนี้ต้องการประชาธิปไตย แต่การกระทำมันย้อนแย้ง เพราะการจะรัก เคารพใครสักคนหรืออะไรสักอย่างมันเกิดจากการสั่งสมจากประสบการชีวิตของแต่ละคน เพราะฉะนั้นทุกคนมีสิทธิ์ มีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้เหมือนกัน

s__36733050

ตอนนี้หลังจากที่ตนโพสต์ว่าจะฟ้อง ก็ไม่มีคอมเมนท์เชิงด่าแล้ว ซึ่งนี่อาจจะเป็นนิมิตรหมายที่ทุกคนจะรู้ว่า “ดาราไม่ใช่พรมเช็ดเท้า” หรือที่ระบายอารมณ์ เพราะทุกคนเกิดมาบนผืนแผ่นดินนี้ได้ล้วนมีเกียรติทั้งสิ้น ก่อนที่จะพูดถึงเจตนารมณ์หลังได้รับเงินจากการฟ้องว่าจะนำไปบริจาคที่ มูลนิธิที่ช่วยเหลือประเทศชาติ , มูลนิธิที่คิดค้นสร้างวัคซีนโควิด-19 และ มูลนิธิช่วยเหลือคนตาบอด ซึ่งหลังจากบริจาคแล้วตนพร้อมที่จะแสดงใบเสร็จต่อหน้าสื่อมวลชน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส