กรณีมีคนร้องเรียนกับอมรินทร์ทีวีว่าถูกผู้จัดการคอนโดฯ ชักปืนขู่แสดงท่าทีคุกคามจนหวั่นว่าจะได้รับอันตราย โดยผู้จัดการคนดังกล่าวคือ ดาบตำรวจชูเกียรติ เจริญธง หรือ ดาบตั้ก อดีตตำรวจที่เคยถูกกล่าวหาว่าก่อเหตุทำร้ายร่างกายนักเรียนอาชีวะในคอนโด เมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 2563 ที่ผ่านมา
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อดีตตำรวจทืบ 2 โจ๋คาคอนโด แจงทำเพื่อปกป้องลูกบ้าน จ่าย 2 หมื่นเคลียร์ใจ (คลิป)
- สองชายกร่าง กระทืบ น.ศ.ที่คอนโด เข้าพบตำรวจ อ้างเข้าใจผิด เยียวยาให้ 2 หมื่น
ล่าสุด วันที่ 28 ต.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านใน อ.เมือง จ.นนทบุรี น.ส.ก้อย (นามสมมติ) อายุ 30 ปี ผู้เสียหายที่ร้องเรียน เปิดเผยว่า เมื่อก่อนตนได้อาศัยอยู่คอนโดฯเดียวกับดาบตั้ก โดยตนอาศัยอยู่ที่ชั้น 1 หน้าลานจอดรถ และน้องชายของตนก็เป็นเพื่อนกับเด็กอาชีวะ 2 คนที่เคยถูกดาบตั้กทำร้าย ทำให้เจ้าตัวเขม่นครอบครัวตนด้วย
กระทั่ง วันที่ 17 ก.ย. 63 เวลาประมาณ 03.00 น. ตนอยู่ห้องกับแม่และลูกน้อย ขณะที่ตนออกไปยืนที่หน้าห้อง ดาบตั้กก็เดินมาด้วยอาการมึนเมา และถามตนว่าทำไมถึงยังไม่เข้าบ้านไปนอน ตนก็บอกว่าลูกน้อยยังไม่นอน หลังจากนั้นดาบตั้กก็เดินไป ตนจึงรีบเข้าห้องไปโทรหาแฟน และเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แฟนฟัง แต่ขณะที่ตนกำลังคุยโทรศัพท์ ก็หันไปเห็นดาบตั๊กแอบฟังอยู่ที่ประตูกระจกหน้าห้อง ดาบตั้กก็ผลักประตูจนเปิดค้าง และยืนถือปืนพร้อมถามตนว่า "มึงโทรไปฟ้องใคร มึงมีปัญหาอะไรกับกูไหม" ซึ่งในตอนนั้นตนรู้สึกกลัวมาก และได้ถ่ายภาพนิ่งที่เขาพกปืนไว้ จากนั้น ดาบตั้กก็ท้าทายให้แม่ตนออกไปคุย แต่ฝั่งตนก็ไม่ตอบโต้ สุดท้ายดาบตั้กก็ยอมกลับไป หลังจากนั้นตนก็ไปแจ้งความทันที แต่สุดท้ายเรื่องก็เงียบ
ส่วนเหตุการณ์ต่อมาที่เป็นคลิปวิดีโอ เกิดขึ้นวันที่ 18 ก.ย. 63 เวลา 23.00 น. ขณะที่เพื่อนของน้องชายเดินไปสูบบุหรี่หน้าห้อง ทางดาบตั้กก็เดินมาด้วยความมึนเมา มาไล่ให้ไปสูบบุหรี่ในห้อง ขณะที่พูดก็เอามือจับเอวเหมือนจับปืนตลอดเวลา ฝั่งตนก็ไม่อยากมีปัญหาจึงได้กลับเข้าห้องไป สุดท้ายดาบตั๊กก็เดินไป แต่ก็ได้ชักปืนออกมาด้วย
หลังจากนั้นดาบตั้กก็เดินไปโวยวายหลังห้องของตน ตะโกนให้พ่อของตนออกไปพูดคุยปัญหาส่วนตัว ว่าพ่อตนใจดำไม่ให้ที่จอดรถเขา แต่ระหว่างคุยก็ชักปืนออกมาตลอด สุดท้ายตนและครอบครัวจึงตัดสินใจย้ายออกจากคอนโดฯ เพราะกลัวเรื่องความปลอดภัยและทนกับพฤติกรรมดาบตั้กไม่ได้ เพราะเขามักจะพูดเสมอว่า "กูเคยยิงคนตาย กูไม่ติดคุก" ทำให้ครอบครัวตนกลัวมาก อีกทั้งเขาก็มีพรรคพวก จึงทำให้ตนไม่อยากอยู่ที่นั่นอีก
นายคล้าย (นามสมมติ) อายุ 60 ปี พ่อของ น.ส.ก้อย เปิดเผยว่า สำหรับคลิปที่มีการถกเถียงนั้น เกิดขึ้นเวลา 23.00 น. ของวันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ยินโวยวายที่หลังบ้าน จึงได้โผล่หน้าไปดู ก็เจอดาบตั้กกำลังโวยวาย และเขาก็เรียกตนไปพูดคุยด้วย ตนก็เดินออกไปก็สังเกตว่าดาบตั้กกำลังยืนถือปืนอยู่ ซึ่งดาบตั้กได้พูดคุยเรื่องที่จอดรถ คือเจ้าตัวมีอาการไม่พอใจบอกว่าตนไม่มีน้ำใจ ไม่แบ่งที่จอดรถให้เขา ซึ่งตนพยายามโต้แย้งว่า ตนมีที่จอดรถ 2 ที่ ก็แบ่งที่จอดให้ดาบตั้กไปที่หนึ่งแล้ว ส่วนที่จอดอีกที่ตนจะเอาไว้จอดรถของตัวเอง แต่เขาก็ไม่ยอมและบอกว่าต้องการอยากได้ที่จอดทั้ง 2 ที่ ระหว่างพูดคุย ดาบตั้กก็เอาปืนออกมาถืออยู่ตลอด
นายคล้าย กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ตนเลือกที่จะย้ายออกจากคอนโดฯ เพราะกลัวว่าครอบครัวจะไม่ได้รับความปลอดภัย กลัวเขาจะมายิงครอบครัวตนอย่างที่เขาเคยยิงคนตายมาแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาตนรู้สึกอึดอัดใจมาตลอด ไม่มีความสุข และหวาดระแวง ตนคิดว่าเขาไม่ควรจะมารังแกตน ซึ่งตนก็อยากให้เขาได้รับรู้ว่าพฤติกรรมที่เขาข่มขู่คนอื่นเป็นสิ่งไม่ดี เพราะเขาข่มขู่ลูกบ้านคนอื่นด้วย เพียงแต่เขาไม่เอาเรื่อง
ด้านดาบตำรวจชูเกียรติ เจริญธง หรือ ดาบตั้ก ให้ข้อมูลว่า จากคลิปดังกล่าวที่เข้าไปตักเตือนเพราะห้องของ น.ส.ก้อย ไม่ยอมนอน และมักจะมีคนนอกเข้ามามั่วสุมที่ห้อง จึงต้องเดินไปตักเตือน และสาเหตุที่ต้องถือปืน เนื่องจากเหตุเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายน 63 ทางวัยรุ่นอาชีวะยังคงฝากความแค้นว่า "เดี๋ยวเจอกัน ไม่จบแค่นี้" และตนก็รู้ว่าลูกของนายคล้ายนั้นเป็นเพื่อนกับกลุ่มนักเรียนอาชีวะที่ตนเคยมีเรื่องด้วย ทำให้ตนต้องพกปืนป้องกันตัวและดูแลความเรียบร้อยของคอนโดฯ
