เผยโฉม “ป้ามหาภัย” หนีบเงินซุกรักแร้ที่แท้ยังสาว เหยื่อจับโป๊ะใส่ชุดซ้ำสีผมไม่ผิดตัว (คลิป)

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “เพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ by Kim official” ได้โพสต์แฉพฤติกรรมของคุณป้ารักแร้เหนียว ตระเวนก่อเหตุทั่วพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล แม้จะก่อเหตุตั้งแต่ต้นปี 63 แต่ก็ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ หรือพบเบาะแสของคุณป้ารายดังกล่าว ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

ล่าสุดวันที่ 27 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับน.ส.เพชรผุสดี เจริญโรจนภูวดล อายุ 32 ปี ผู้จัดการร้านเบน คุกกี้ สาขาพารากอน เล่าว่า เหตุเกิดวันที่ 1 ต.ค.63 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น. ก่อนเกิดเหตุคุณป้ารายดังกล่าวได้เดินอยู่บริเวณหน้าร้าน ก่อนเลือกขนมคุกกี้ 2 ชิ้น พอจ่ายเงินได้เปลี่ยนใจซื้อคุกกี้เพียง 1 ชิ้น ซึ่งชิ้นละ 75 บาท โดยคุณป้าจ่ายเงินไม่ครบ จ่ายเพียง 65 บาท คุณป้าจึงขอจ่ายเป็นแบงก์พันแทน พนักงานร้านจึงทอนเงินให้ 925บาท แต่คุณป้าได้แจ้งกับพนักงานว่าให้เงินไม่ครบขาดอีก 500 บาท

ขณะเดียวกันพนักงานที่ร้านแอบเห็นว่าคุณป้าได้นำอะไรสักอย่างไปซุกบริเวณกระเป๋า แต่ไม่คิดว่าคุณป้าจะเอาเงินทอนไป พนักงานกลัวเกิดเหตุโวยวายก็เลยส่งเงินทอนให้ไปอีก 500 บาท จากนั้นเมื่อตนเช็กกล้องวงจร จึงพบว่าพนักงานทอนให้คุณป้าครบแล้ว แต่หลังจากเกิดเรื่อง พนักงานหน้าร้านคนดังกล่าวต้องชดใช้เงินที่ขาดหายไป 

อย่างไรก็ตาม ตนอย่างให้คุณป้าหยุดพฤติกรรมดังกล่าว เศรษฐกิจขณะนี้ก็ไม่ดี แต่คุณป้ายังมีมือ มีเท้า น่าจะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหาเงิน เพราะพนักงานร้านคนที่ถูกโกงนั้น ยังเรียนอยู่ และยังทำให้น้องลำบาก เพราะเงินที่โกงไปมากกว่าค่าแรงของน้อง ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินจำนวน 500 บาท แต่ก็มากสำหรับน้อง ๆ 

ทีมข่าวได้โทรศัพท์ไปสอบถามข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.ปทุมวัน เบื้องต้นทางร้านที่เสียหายยังไม่ได้เข้ามาแจ้งความ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ขออนุญาตให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบติดตามข้อมูลว่า คุณป้ารายดังกล่าวเคยก่อเหตุที่ไหนมาบ้าง มีพฤติกรรมเช่นไร และอาจจะต้องเชิญผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำ

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้รับแจ้งจากพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในย่านนนทบุรี บอกว่า ตนก็เป็นอีกรายหนึ่งที่ถูกโกงเงินทอนในลักษณะเดียวกัน ช่วงที่เกิดเรื่อง คือวันที่ 26 ต.ค.63 ช่วงเย็น คุณป้าเข้ามาซื้อไอศกรีมในราคา 69 บาท จ่ายด้วยแบงก์ 1,000 บาท จึงต้องทอน 931 บาท เมื่อรับเงินทอนไปคุณป้ากลับอ้างว่า "ทอนไม่ครบ ยังขาดอีก 500 บาท" จึงต้องส่งเงินให้อีก 500 บาท 

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้สอบถาม นางสมร สมจิตร อายุ 59 ปี เจ้าของร้านอาหารใกล้เคียงร้านที่เกิดเหตุ บอกว่า เป็นเรื่องที่แย่ ที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ เมื่อทราบว่าร้านอาหารบริเวณใกล้เคียงเจอเหตุการณ์ดังกล่าวก็กลัว เกรงว่าจะเจอกับตัวเองบ้าง แต่ตนไม่เคยเห็นคนในคลิปผ่านหน้าร้าน หรืออาจจะเดินผ่านไปแล้วตนไม่ได้สังเกต มองว่าไม่น่าจะใช่คนพื้นที่ เพราะถ้าเป็นคนในพื้นที่จะไม่กล้าทำ และสงสัยว่าทำไม ผู้ก่อเหตุต้องใส่ชุดที่เหมือนกันไปก่อเหตุตามที่ต่าง ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามีกล้องวงจรปิด

เมื่อตรวจสอบย้อนหลังพบว่า คุณป้ารายนี้ก่อเหตุตั้งแต่วันที่ 9 ม.ค.63 ที่ห้างฯ เซ็นทรัลลาดพร้าว สวมชุดกระโปรงลายดอกสีขาว เห็นหน้าชัดเจน ต่อมาวันที่ 10 ส.ค.63 จุดเกิดเหตุที่ตลาดมีนบุรี กรุงเทพฯ คุณป้าสวมชุดสีเหลือง และปิดบังใบหน้า

ในวันที่ 1 ก.ย.63 ป้ายังไปก่อเหตุที่ศูนย์การค้าพาราไดซ์ พาร์ค กรุงเทพฯ สวมชุดสีฟ้า สวมหมวกและหน้ากากอนามัย ปิดบังใบหน้า แต่คุณป้าก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม เพราะว่าในวันที่ 1 ต.ค.63 ยังไปก่อเหตุลักษณะเดิมที่ห้างพารากอน 

ส่วนวันที่ 19 ต.ค.63 คุณป้าย้ายไปก่อเหตุที่ บิ๊กซีศรีนครินทร์ จ.สมุทรปราการ สวมชุดกระโปรงลายลูกไม้ สีเหลือง สวมหมวกและหน้ากากอนามัย ปิดบังใบหน้า กระทั่งล่าสุดวันที่ 26 ต.ค.63 ที่ตลาดท่าน้ำนนท์ จ.นนทบุรี  

สำหรับใครที่พบเห็น และต้องการแจ้งเบาะแส สามารถจดจำข้อสังเกตของคุณป้ารายนี้ ดังต่อไปนี้ ยอมผมปลายสีทอง สวมกำไรข้อมือ และมักจะถือกระเป๋าคล้องแขนหลายใบ อายุประมาณ 25-45 ปี