เด็ก 4 ขวบถูกแก๊ง ป.6 ลากอนาจาร ยายโชว์ชุดเปื้อนเลือด โรงเรียนปัดยุ่งชี้ไร้หลักฐาน (คลิป)

27 ต.ค. 63

จากกรณีผู้ปกครองของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ร้องเรียนผ่านอมรินทร์ ทีวี ว่า หลานสาวถูกรุ่นพี่ ป.6 กระทำชำเรา ภายในห้องเรียนเมื่อช่วงเดือนส.ค.63 ที่ผ่านมา แต่คดีไม่มีความคืบหน้า โดยเหตุเกิดขึ้นในโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง

501762

ล่าสุดวันที่ 27 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ไปยังบ้านของเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่ถูกกระทำชำเรา โดยยายของเด็กได้นำกางเกงที่มีรอยเลือดแห้งกรังติดอยู่ให้ทีมข่าวดู ซึ่งเป็นเลือดของน้องส้ม (นามสมมติ) หลานสาวที่ถูกกระทำชำเรา โดยทางครอบครัวได้เก็บกางเกงตัวดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน ตั้งแต่ช่วงเดือนส.ค.63 ที่ผ่านมา และได้นำรูปที่น้องส้มวาดเพื่อเล่าเรื่องให้ทีมข่าวดู โดยเป็นรูปคน 3 คนที่น้องส้มระบุว่า เป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ได้แก่ พี่นักเรียนคนที่ก่อเหตุ พี่ตัวเล็กที่จับขา และพี่ตัวอ้วนที่ยืนเฝ้าหน้าประตู

494091

นางอ้อย (นามสมมติ) อายุ 60 ปี ยายของเด็ก เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดวันที่ 25 ส.ค.63 15.00 น. ตนไปรับน้องส้มกลับจากโรงเรียน หลานก็บอกว่ามีอาการเจ็บอวัยวะเพศและมีเลือดไหล ตนจึงให้แม่ของเด็กพาตัวไปอาบน้ำ เมื่อใส่กางเกงในก็พบว่ามีเลือดไหลออกจากอวัยวะเพศมากกว่าเดิม จึงพาน้องส้มไปหาหมอ ระบุว่า "มีแผลที่ฉีกขาดที่อวัยวะเพศ และช้ำภายในอวัยวะเพศ" ตนจึงโทรหาครูประจำชั้นเพื่อแจ้งเรื่องให้ทราบ กลุ่มครู 3 - 4 คน ก็เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลทันที แต่ก็ไม่ได้มีการดำเนินการอะไร

176976

หลังจากนั้นช่วงวันที่ 26 ส.ค.63 ทางโรงเรียนขอให้ไม่แจ้งความและไม่ให้ไปบอกหรือปรึกษาใคร แต่ตนทนไม่ได้ จึงได้เข้าแจ้งความในวันที่ 27 ส.ค.63 หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบไป พยายามถามหลานสาวแต่เขาก็ไม่พูด กระทั่งกลางเดือนก.ย.63 หลานสาวก็เริ่มวาดรูปและเล่าเหตุการณ์ว่า เกิดขึ้นช่วงพักเที่ยงของวันที่ 25 ส.ค.63 ถูกพี่นักเรียน ป.6 ดึงแขนขึ้นในห้องบนอาคารเรียนชั้น 3 ห้องสุดท้าย โดยมีพี่ตัวเล็กเป็นคนจับขา ส่วนพี่ตัวอ้วนเป็นคนยืนเฝ้าหน้าประตู

847350

กระทั่งวันที่ 25 ก.ย.63 ตัดสินใจไปปรึกษาทนายอาสา และได้คำแนะนำให้ไปร้องเรียนที่ศาลเยาวชน หลังจากนั้นวันที่ 30 ก.ย.63 ไปสอบปากคำกับสหวิชาชีพ โดยน้องส้มได้ชี้เด็กชาย 3 คน ระบุว่า พี่นักเรียนเป็นคนที่ก่อเหตุ, พี่ตัวเล็กที่จับขา และพี่ตัวอ้วนที่ยืนเฝ้าหน้าประตู ซึ่งหลานก็พูดขึ้นในชั้นอัยการว่า "เดี๋ยวจะไปบอกพี่นักเรียนว่า อย่าไปทำกับใคร เดี๋ยวเขาเจ็บ" ทำให้อัยการลงความเห็นว่าเป็นเรื่องจริง และให้ตำรวจดำเนินการ หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบมาตลอด รวมถึงทางโรงเรียนไม่บอกข้อมูลของเด็กนักเรียนที่น้องส้มชี้ตัว

794594

นางอ้อย กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเรื่องตนก็ไม่ให้ไปโรงเรียนอีกเลย เพราะน้องส้มยังมีอาการกลัว ตอนนอนก็จะมีอาการผวาและเรียกหาตนตลอดเวลา แม้ว่าแผลจะหายแล้วแต่จิตใจหลานก็ยังไม่เป็นปกติ ทุกครั้งที่หลานพูดถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกเสียใจ เพราะในตอนเกิดเหตุคงเป็นวินาทีที่หลานต้องการตนมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ตนก็ขอความเห็นใจและขอความเป็นธรรมทุกฝ่ายให้ช่วยเหลือเรื่องของตนด้วย เพราะจนถึงตอนนี้ก็ไม่มีใครยืนยันได้ว่าเด็กคนไหนเป็นคนก่อเหตุกับหลานสาว

676637

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.น้ำ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี แม่ของเด็ก เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ น้องส้มก็เปลี่ยนไปมาก ทำอะไรตามใจตัวเองและไม่ค่อยเชื่อฟัง จากที่เมื่อก่อนน้องเป็นเด็กที่ไม่ค่อยพูด ไม่กล้าแสดงออก แต่ก็ยังมีอาการหวาดกลัวอยู่มาก ไม่กล้าไปโรงเรียน เมื่อขี่รถผ่านโรงเรียนก็จะมีอาการหวาดกลัวและร้องไห้ทันที ทำให้ตนไม่กล้าจะให้ลูกกลับไปเรียน

ทั้งนี้ตนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ และไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับลูกสาว จึงอยากให้ทางโรงเรียนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาช่วยดูกันบ้าง ไม่ใช่ว่าจะปล่อยปละละเลย ส่วนเด็กที่ก่อเหตุนั้น ตนก็ไม่รู้เรื่องของเขาเลย

ทีมข่าวโทรศัพท์ไปประสานทาง ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ให้ข้อมูลว่า ยินดีที่จะช่วยเหลือกรณีเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ที่ถูกรุ่นพี่ ป.6 ล่วงละเมิดทางเพศ ซึ่งจะมีการพูดคุยเรื่องรายละเอียดในวันที่ 28 ต.ค.63 โดยเตรียมจะพาครอบครัวไปร้องกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ให้เข้าช่วยเหลือในคดี

269371

ด้านผู้บริหารโรงเรียน ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นจากผลแพทย์พบว่าที่อวัยวะเพศของน้องส้มมีเลือดออกจริง แต่ก็อยู่ระหว่างพิสูจน์ว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุ ทางโรงเรียนได้ตรวจกล้องวงจรปิดในช่วงพักเที่ยงของวันที่เกิดเหตุ (25 ส.ค.63)

540760

จากนั้นพบว่ากล้องสามารถจับภาพน้องส้มวิ่งอยู่ที่สนาม จึงจำเป็นต้องให้ตำรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในโรงเรียนหรือไม่ ซึ่งทางโรงเรียนได้มอบกล้องวงจรปิดให้ทางตำรวจ และจะปล่อยไปตามกระบวนการยุติธรรม

ทีมข่าวโทรศัพท์ไปสอบถาม ร.ต.อ.ชนุตร์ ปานทอง ร้อยเวรเจ้าของคดี ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งยังต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เนื่องจากไม่มีประจักษ์พยาน มีเพียงคำบอกเล่าของคนเป็นยายเท่านั้นว่า เด็กมีการชี้ตัวรุ่นพี่นักเรียน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส