ผจก.ร้านคุกกี้บนห้างดัง ออกมาแฉอีกราย หลังพนักงานในร้านถูกป้าจอมหนีบโกงเงินทอน เชื่อเป็นคนเดียวกันที่ออกหนีบเงินทอนในห้างดังหลายห้าง เพราะสวมใส่เสื้อผ้าลักษณะเดียวกัน และใช้ลูกไม้เดิม ๆ เหมือนกัน
จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้" โพสต์แฉพฤติกรรมของคุณป้ารายหนึ่งที่แต่งกายดีและมิดชิด สวมหมวกและหน้ากากอนามัย มีพฤติกรรมโกงเงินทอนซุกซ่อนไว้ใต้รักแร้ หลังจากที่มีการแชร์ออกไปนั้น ทำให้มีผู้ประกอบการหลายห้างดังทยอยออกมาเผยว่าถูกคุณป้ารายดังกล่าวหนีบเงินทอนไป และคาดว่าเป็นบุคคลคนเดียวกันที่ตระเวนก่อเหตุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ป้ารักแร้เหนียวโผล่อาละวาด เหยื่อติดกับลูกไม้เดิมเผลอยัดแบงก์ซุกแขนก่อนโวย
- กลับมาอีก! ป้าหมวกเหลืองโกงเงินทอนร้านค้า หยิบหนีบรักแร้ทำเนียน
- ป้าจอมหนีเปิดใจ! นร.จับโป๊ะป้ามหาภัยซุกแบงก์ใต้รักแร้โวยทอนไม่ครบ เทียบชัดคล้ายป้าหมุนตัวซุกกระเป๋า
ล่าสุด เมื่อวันที่ 26 ต.ค.63 น.ส.เพชรผุสดี เจริญโรจนภูวดล อายุ 32 ปี ผู้จัดการร้านเบน คุกกี้ (สาขาพารากอน) เปิดเผยกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 1 ต.ค. 63 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00น. คุณป้ารายดังกล่าวเดินอยู่หน้าร้าน จนปลอดคนจึงเดินเข้ามาในร้าน เลือกขนมคุกกี้ 2 ชิ้น พอจะจ่ายเงินได้เปลี่ยนใจซื้อคุกกี้เพียง 1 ชิ้น ซึ่งชิ้นละ75 บาท โดยคุณป้าจ่ายเงินไม่ครบ จ่ายเพียง 65 บาท คุณป้าจึงขอจ่ายเป็นแบงค์พันแทน พนักงานร้านทอนเงินให้925บาท แต่คุณป้าได้แจ้งกับพนักงานว่าให้เงินไม่ครบขาดไป 500 บาท
ขณะเดียวกันพนักงานที่ร้านแอบเห็นว่าคุณป้านำเอาอะไรสักอย่างไปซุกบริเวณกระเป๋า แต่ไม่คิดว่าคุณป้าจะเอาเงินทอนไป พนักงานกลัวเป็นเรื่องราวใหญ่โตเลยเอาเงินเพิ่มไปให้อีก 500 บาท พร้อมกับอาการมึนงง หลังจากนั้นรีบมาแจ้งตน จึงเช็กกล้องวงจรปปิดดู พบว่าพนักงานทอนให้คุณป้าครบแล้ว แต่ด้วยความที่บริเวณหน้าร้านนั้นติดเคาน์เตอร์ชิว จึงมองไม่เห็นว่าคุณป้านำเงินไปซ่อนไว้ตรงไหน แต่เห็นว่าเขาซ่อนไว้ หลังจากเกิดเรื่อง พนักงานหน้าร้านคนดังกล่าวต้องถูกชดใช้เงินคืนร้าน
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนไม่เคยเห็นคุณป้ารายดังกล่าวมาก่อน แต่จะเห็นในกรณีของเซ็นทรัลลาดพร้าว ซึ่งตอนแรกก็ไม่ทราบว่าเป็นบุคคลคนเดียวกัน แต่พอมาเทียบคลิปกล้องวงจรปิดแล้ว ถึงรู้ว่าเป็นคนเดียวกันเพราะบังเอิญชุดที่คุณป้าสวมใส่ตอนที่เกิดเหตุที่สาขาเซ็นทรัลลาดพร้าวกับสาขาของตนนั้น เหมือนกัน คือชุดลายดอก ต่างกันที่ไม่ได้ใส่หมวกและหน้ากากอนามัย นอกจากนี้ตนยังคิดว่าคุณป้าได้ตระเวนไปทั่วกลายเป็นอาชีพแล้ว เชื่อว่าทุกคลิปเป็นคุณป้าคนเดียวกัน ด้วยลักษณะเหมือนกัน เสื้อผ้าเหมือนกัน กระเป๋าที่ถือใบเดียวกันเนื่องจากคุณป้าจะสะพายกระเป๋า 2 ใบ กำไลสีเขียวที่ข้อมือขวา เป็นต้น
หลังจากเกิดเรื่องตนได้กำชับพนักงานในร้านให้มีสติในการทอนเงิน มั่นใจในการทอนเงิน เวลาที่ทอนเงินให้คลี่เงินนับต่อหน้าลูกค้า นอกจากนี้ร้านของตนยังเจอกลุ่มมิจฉาชีพอยู่บ่อยครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งนั้นตนแก้ไขปัญหาโดยวิธีการเปิดกล้องวงจรปิดให้ดู ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพก็จะยอมรับผิด แต่กรณีของคุณป้ารายดังกล่าว ต้นนั้นไม่ได้อยู่หน้าร้าน และคุณป้ารีบออกจากร้านไปก่อน
อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้คุณป้าหยุดพฤติกรรมดังกล่าว เศรษฐกิจขณะนี้ก็ไม่ดีแต่คุณป้ายังมีมือมีเท้าน่าจะตั้งหน้าตั้งตาทำมาหาเงิน เพราะพนักงานร้านคนที่ถูกโกงนั้น ยังเรียนอยู่ จำเป็นต้องใช้เงินเยอะ และยังทำให้น้องลำบาก เพราะเงินที่โกงไปก็มากกว่าค่าแรงของน้อง
