เดือด! “ท็อป - ไทด์” ฉะม็อบอย่าแตะต้องสถาบัน บอกอย่าท้าทายพลังเงียบ (คลิป)

25 ต.ค. 63

จากกระแสโซเชียลฯ ที่มีการแชร์คลิปของ 2 หนุ่มคู่แฝดขวัญใจมหาชน "ท็อป-บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์" และ "ไทด์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์" ซึ่งเป็นคลิปที่ทั้งคู่ออกมาพูดว่า ส่วนตัวแล้วไม่ขอยุ่งเรื่องการเมือง แต่ขอต่อต้านกลุ่มคนที่ล้มล้างสถาบัน เมื่อคลิปนี้ถูกเผยแพร่ชาวเน็ตตั้งคำถามกลับ กลายเป็นประเด็นดราม่าบนโลกออนไลน์ 

235594

ล่าสุดวันที่ 25 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้มีโอกาสไปพูดคุยกับ เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ และบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ เจ้าตัวก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ไม่เคยต่อต้านกลุ่มนักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลเปลี่ยนแปลง หรือการขอให้นายกฯ ลาออกแต่อย่างใด เพียงแค่ไม่เห็นด้วยกับการจาบจ้วงสถาบัน และไม่ได้เพิ่งรู้สึกจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ แต่เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นนานแล้ว เพราะมองว่าอย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น สถาบันควรที่จะยืนหยัดคู่คนไทยตลอด

205037

พร้อมกันนี้ก็ยืนยันด้วยว่า ข้อเรียกร้องที่กลุ่มผู้ชุมนุมเขียนมานั้น บางข้อก็เป็นไปไม่ได้ และอย่าคิดท้าทายพลังเงียบของกลุ่มคนที่รักสถาบัน ตนเชื่อว่ายังมีคนอีกหลายสิบล้านคนที่พร้อมจะออกมาต่อสู้เช่นตน

ในขณะที่ “พี่ไทด์” บอกว่า ทุกคนบนผืนแผ่นดินนี้ล้วนสามารถคิดต่างได้ เพราะฉะนั้นไม่ควรไปเกลียด หรือคอมเมนต์ด้วยคำหยาบกับคนที่คิดต่าง ควรที่จะเคารพสิทธิ์ของกันและกัน พร้อมกับอยากให้ทุกคนคิดตามว่าที่เรามีประเทศไทยอยู่มาได้ทุกวันนี้ โดยไม่ตกเป็นเมืองขึ้นของประเทศอื่นเหมือนประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ใช่เพราะมหากษัตริย์หรืออย่างไร

ทั้งนี้ตนยอมรับว่าหลาย ๆ อย่างบนโลกมีวิวัฒนาการที่เปลี่ยนไปมาก การใช้ชีวิตของคนก็ต้องใช้ชีวิตแบบ new normal แต่สิ่งหนึ่งที่ควรจะยังคงอยู่ก็คือ ความกตัญญู รู้คุณแผ่นดินเกิด ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถึงจะเรียกว่าเป็นคนไทยที่แท้จริง

เมื่อถามว่า กลัวเรื่องผลกระทบที่จะตามมาหรือไม่ “พี่ท็อป” บอกว่า ไม่เคยคิดเรื่องนี้อยู่แล้ว เพราะงานของตน คือ หัวใจของประชาชน เป็นการออกไปช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับความเดือดร้อนมากกว่า ไม่จำเป็นที่จะต้องหางานละครเล่น เพราะฉะนั้นอย่าอันธพาลกับคนที่เห็นต่าง โดยเฉพาะกลุ่มเกรียนคีย์บอร์ดที่ตนยกให้เป็น “คนหน้าตัวเมีย” และคนกลุ่มนี้ไม่ต้องมาชอบ ไม่ต้องมาติดตามหรือร่วมบริจาคกับตน เพราะรู้สึกว่าถ้าคนกลุ่มนี้มาจะเป็นเสนียดแก่ชีวิตอย่างมาก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส