หวิดวางมวย! หมอเหรียญทองนำคนเสื้อเหลืองป้องสถาบัน หนุ่มติดโบว์ขาวโผล่โดนล้อมวุ่น (คลิป)

เมื่อวันที่ 22 ต.ค.63 เวลา 16.30 น. ที่บริเวณป้ายทางเข้าศูนย์ราชการ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ กลุ่มประชาชนสวมเสื้อสีเหลืองในนามผู้พิทักษ์ราชัน รวมตัวแสดงพลังความจงรักภักดี โดยมีการชูพระบรมฉายาลักษณ์ ธงชาติ และป้ายข้อความต่าง ๆ 

จากนั้นเวลา 17.00 น. นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผอ.รพ.มงกุฎวัฒนะ เดินทางมาถึง พร้อมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ระบุว่า วันนี้เป็นการรวมพลังเพื่อแสดงออกของผู้ที่จงรักภักดี ไม่มีการจัดกำลัง ตนก็มาคนเดียว ไม่มีกิจกรรมใดเป็นพิเศษ เป็นการแสดงพลังอย่างเรียบง่าย ไม่มีการเคลื่อนพล เพื่อแสดงออกว่าทุกวันนี้คนจงรักภักดีเหลืออดกับการกระทำของผู้ที่จาบจ้วง

ส่วนเหตุการณ์ที่ ม.รามคำแหง ตนมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้น คนจงรักภักดีไม่พอใจก็โต้ตอบมีการใช้กำลังเล็กน้อย ตราบใดที่ยังจาบจ้วงสถาบัน คนจงรักภักดีก็ทนไม่ได้ มีการยกระดับไปเรื่อย ๆ และรุนแรงขึ้น

สิ่งที่จะแก้ ต้องเริ่มจากสังคมครอบครัว สถาบันการศึกษา อย่าให้มีอาจารย์ที่มีชุดความคิดแบบนี้ ปฏิรูปการเมือง อย่าให้มีนักการเมืองไม่ดีอยู่ในการเมือง ทั้งนี้เรื่องการเปิดประชุมสภา ตนไม่เห็นด้วย แต่คิดว่าลองดูได้อาจเป็นทางออกที่ดี โดยตนไม่เห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้จะไม่ดี หรือทำให้ประชาชนเดือดร้อน และการด่ารัฐบาลว่า เผด็จการ ตนก็ไม่เห็นว่ารัฐบาลจะใช้ความรุนแรงหรืออุ้มฆ่าใคร

วันนี้ไม่ได้มาปกป้องรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรี แต่มาเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยผู้ที่เคลื่อนไหวฝ่ายคณะราษฎรเป็นเด็กรุ่นลูกนั้น ตนคิดว่าครอบครัวหรือสถาบันการศึกษาต้องพูดกัน ส่วนตัวคงไม่ไปพูดคุย เพราะตนยอมรับว่าเป็นขวาจัด เนื่องจากหากไม่ขวาจัดจะปกป้องสถาบันไม่ได้ 

เวลา 17.15 น. ชายเสื้อเหลืองรายหนึ่งถือโทรศัพท์ มีขาตั้งกล้องยาว ติดริบบิ้นสีขาว กลุ่มผู้ชุมนุมเข้ามาพูดคุยและขับไล่ เพราะคิดว่าเป็นผู้ที่แฝงตัวเข้ามา แต่ชายรายดังกล่าวไม่ยอมออกไป กระทั่งมีเหตุชุมนุม จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาเชิญตัวออกไป

แต่ชายรายดังกล่าวยังไม่ยอม มีการนั่งลงกับพื้นขัดขืนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และจะขออยู่ต่อ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจอุ้มและนำขึ้นรถกระบะของ สน.ทุ่งสองห้อง ใช้เวลาเกือบ 10 นาที จึงสามารถนำตัวขึ้นรถได้

ทีมข่าวรายงานเพิ่มเติม ด้านหน้าอาคารสุขประพฤติ ถนนประชาชื่น ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา พร้อมด้วยสมาชิกวุฒิสภา และข้าราชการของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รวมตัวกันด้านหน้าอาคาร เพื่อกล่าวคำปฏิญาณ แสดงจุดยืนในการปกป้อง พิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ ก่อนร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงอยู่อย่างจงรักตายอย่างภักดี พร้อมทั้งเปล่งเสียง ทรงพระเจิญ และโบกธงชาติ และธงพระมหากษัตริย์

ศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร กล่าวว่า คงเป็นที่ทราบกันดีว่าในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ได้ประจักษ์ไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับ ตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครองตั้งแต่ พ.ศ.2475 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาไทย พ.ศ.2560 ได้บัญญัติไว้มาตรา 2 กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมาตรา 3 กล่าวว่า อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ทรงใช้อำนาจนั้น คืออำนาจนิติบัญญัติผ่านทางรัฐสภา ซึ่งรัฐสภาในที่นี้ก็ต้องรวมถึงวุฒิสภา วุฒิสภาเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภา ถือเป็นส่วนหนึ่งของอำนาจอธิปไตย โดยพระมหากษัตริย์ทรงใช้ผ่านองค์กรวุฒิสภาด้วย

ดังนั้นแล้วในวันนี้เกิดความเข้าใจสับสนกันบ้าง จึงอยากแสดงเจตนารมณ์แสดงให้เห็นชัด ให้สมาชิกวุฒิสภา ประชาชน และสื่อมวลชนทำความเข้าใจว่า การปฏิบัติหน้าที่ของวุฒิสภานั้น จะต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ได้บัญญัติไว้ทั้งในมาตรา 2 และมาตรา 3 ตนเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้จะได้เป็นเครื่องเตือนใจของสมาชิกวุฒิสภา ว่าท่านทำหน้าที่ที่สำคัญยิ่งในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามประเด็นข้อเรียกร้องที่ผู้ชุมนุมต้องการให้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลาออก ภายใน 3 วัน ประธานวุฒิสภาไม่ขอตอบเรื่องนี้ เพราะวันนี้ถือเป็นวันดีดี แต่บอกว่าจะมีการแถลงข่าวอีกครั้ง ในวันที่ 26 ต.ค.63 ที่จะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ

นายธนาวิทย์ ฤทธิศรี อายุ 66 ปี ผู้มาร่วมชุมนุม เปิดเผยว่า การที่นัดการชุมนุมครั้งนี้ เนื่องจากว่าพวกเราควรจะแสดงพลังว่า เราควรปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ แสดงความจงรักภักดี และแสดงความจงรักภักดีต่อราชวงศ์จักรี วันนี้จึงมีการนัดรวมตัวกัน เพื่อเป็นจุดเหลืองให้แสดงบนพื้นที่แผนที่ประเทศไทย ว่ายังมีคนกลุ่มหนึ่งที่ยังคงศรัทธาที่จะสามารถนำพาประเทศให้พ้นภัยพิบัติอันตรายต่าง ๆ ได้

ขณะที่จังหวัดเพชรบุรี ประชาชนคนรักสถาบัน ประกาศเจตนารมณ์ด้วยแถลงการณ์ กรณีกลุ่มบุคคลบ่อนทำลายจาบจ้วงสถาบัน ถือเป็นการเหยียบย่ำหัวใจของผู้ที่รักและเทิดทูน

เช่นเดียวกับ ที่ว่าการอำเภอเมืองสตูล รวมพลังคนสตูลร่วมปกป้องและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ที่เป็นศูนย์รวมจิตใจที่นำพาประเทศชาติไปสู่ความมั่นคงปลอดภัยเจริญก้าวหน้าให้ดำรงอยู่จนถึงพวกเราคนไทยในทุกวันนี้

นอกจากนี้ทั่วประเทศไทย ยังกลุ่มประชาชนอีกหลายจังหวัด ได้ออกมาแสดงความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกัน ได้แก่ เชียงใหม่ นครราชสีมา โคราช หนองคาย สงขลา สุราษฎร์ธานี พังงา และปัตตานี