เมื่อวันที่ 22 ต.ค.63 เจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์ พร้อมกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บางปะอิน ชุดปราบปราม ได้เข้าช่วย น.ส.ฝน (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ที่อยู่ในห้องคนเดียวภายในบ้านแห่งหนึ่ง จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะแฟนไปทำงานแต่ถูกหนุ่มหื่นฉวยโอกาสงัดห้อง และใช้มีดปืนจี้คอ ก่อนลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่
จากนั้นผู้ก่อเหตุรีบหนีกลับไปที่บ้าน น.ส.ฝน จึงได้ขี่รถออกจากบ้านไปหาแฟนหนุ่ม และบอกว่าถูกคนข้างบ้านข่มขืน จากนั้นจึงแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจไปในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุได้
แฟนหนุ่มของน.ส.ฝน บอกว่า ตนก็ไม่อยู่บ้าน ไปทำงานด้านนอก พอมารู้ข่าวก็แค้นมาก เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนของตน ส่วนพ่อของน.ส.ฝน บอกว่า พอทราบข่าวก็เสียใจมาก และอยากให้ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายอย่างเต็มที่
ขณะที่แม่ของน.ส.ฝน ให้สัมภาษณ์ว่า ตนเสียใจจริง ๆ ไม่น่าเกิดเหตุนี้ขึ้น แต่โชคดีที่ลูกไม่เป็นอะไร หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และขอบคุณทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิพุทไธสวรรย์แ ละเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไปจับกุมนายหนึ่งมาได้
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางประอิน ระบุว่า หลังเกิดเหตุ น.ส.ฝน ได้ออกจากบ้านขี่รถไปหาแฟนหนุ่ม และเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าถูก นายหนึ่ง ไกลสมรส อายุ 28 คนข้างบ้านข่มขืน ก่อนแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเข้าไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบว่า ชายที่ข่มขืนนั้นอยู่ภายในบ้านติดกัน เจ้าหน้าที่จึงให้ญาติของผู้ก่อเหตุเข้าไปเกลี้ยกล่อมเจรจาให้มอบตัว แต่ก็ไม่เป็นผล ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและมูลนิธิพุทไธสวรรย์ จึงได้เกลี่ยกล่อมกับผู้ก่อเหตุ จนยอมมอบตัวในที่สุด พร้อมของกลางอาวุธ มีด-ปืน ก่อนเจ้าหน้าที่นำตัวมาที่ สภ.บางประอิน เพื่อทำการสอบสวน
แต่ทางผู้ต้องหากลับไม่ให้ข้อมูลใด ๆ ได้แต่นั่งเงียบเพียงอย่างเดียว จากการตรวจสอบประวัติของผู้ก่อเหตุพบว่า เมื่อ 5 ปีก่อน ได้ติดคุกในเรือนจำมาแล้ว 1 ครั้ง ก่อนออกจากคุกมาได้ 5 ปี และมาอาศัยอยู่กับภรรยา (มีลูกด้วยกันทั้งหมด 3 คน) บริเวณใกล้เคียงกับบ้านที่ก่อเหตุ หมู่ 4 ต.คุ้งลาน อ.บางปะอินจ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนอาวุธมีดและปืนที่ใช้จี้ข่มขืนนั้น ปืนดังกล่าวที่ใช้เป็นปืนบีบีกัน ส่วนมีดนั้นเป็นของจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการตรวจร่างกายผู้ก่อเหตุ เนื่องจากมีลักษณะเหมือนเมายา หลังจากนั้นจึงส่งตัวดำเนินคดีตามกฎหมายจำนวน 3 ข้อหา ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นฯ บุกรุกเคหสถานโดยมีอาวุธ พรากผู้เยาว์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางจิตาภา (นามสมมติ) อายุ 55 ปี แม่สามีผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ตนมาทราบข่าว ช่วงเวลา 12.00 น. ลูกชายโทรมาบอกว่า นายหนึ่ง เพื่อนบ้าน บุกงัดห้องเข้าไปข่มขืนลูกสะใภ้ ขณะนี้ลูกสะใภ้นอนอยู่ห้อง ช่วงที่ตนเอง-ลูกชาย ออกไปทำงาน (ลูกสะใภ้รอหางาน)
โดยใช้อาวุธมีด-ปืน จี้คอข่มขู่ลูกสะใภ้ไม่ให้ร้อง ด้วยความกลัวว่าจะถูกฆ่าลูกสะใภ้จึงยอมนายหนึ่ง ก่อนนายหนึ่งจะเดินกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังเกิดเรื่องลูกสาวจึงขี่รถจักรยานยนต์ออกไปหาลูกชายที่ทำงาน เพื่อเล่าเรื่องราวให้ฟัง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาจับกุมตัวผู้ก่อเหตุ
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นตนก็รู้สึกโกรธแค้น แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเมายาเสพติดจึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบลงมือก่อเหตุดังกล่าว ทั้งนี้ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายเอาผิดผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้ทางน.ส.ฝน อยู่ในสภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น