เปิดวงจรปิด! เมียแย่งปืนมือยิงเสี่ยแผงผักดับอ้างฉุนโดนไล่ออก เพื่อนแฉยืม 2 แสนขู่ให้ลูกปืน (คลิป)

22 ต.ค. 63

กรณีตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิตภายในตลาดศรีเมือง อาคาร 15 ล็อก A15 - A16 ที่เกิดเหตุเป็นบริเวณลานจอดรถ พบรถกระบะ ทะเบียน บม 2799 กาญจนบุรี เป็นรถกระบะติดแผงเหล็กแบบรถบรรทุกผัก

427251

ภายในรถที่เบาะนั่งคนขับพบศพนายยงยุทธ หนูนันท์ อายุ 38 ปี ลักษณะนั่งพิงเบาะ สวมเสื้อยืดสีเขียว กางเกงยีนขายาว รองเท้าผ้าใบ มีรอยถูกยิงด้วยกระสุนปืนที่จมูกด้านขวา 1 นัด ลำคอด้านซ้าย 1 นัด หน้าอกซ้าย 2 นัด และแขนซ้ายทะลุชายโครงซ้าย 1 นัด นอกจากนี้กระจกประตูรถด้านคนขับ มีรอยกระสุนปืนทะลุเป็นรู 1 นัด และประตูด้านซ้ายลดกระจกลง ส่วนคนก่อเหตุ ย้อนกลับมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบชื่อ นายบุญเสริม แดงม่วง อายุ 30 ปี

347958

ล่าสุดวันที่ 22 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางย้อนกลับไปที่ตลาดศรีเมือง จ.ราชบุรี ซึ่งเกิดเหตุบริเวณด้านหน้าอาคาร 15 พบว่าล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคลื่อนย้ายรถคันเกิดเหตุไปเก็บไว้ที่รถของกลาง สภ.เมืองราชบุรี และในที่เกิดเหตุไม่ได้มีคราบเลือดหรือกองเลือดตกอยู่ เนื่องจากส่วนใหญ่เกิดเหตุภายใน เลือดไม่ได้หล่นลงพื้น

122398

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ น.ส.ดวงกมล ศิริผล หรือ อ้อม อายุ 27 ปี แม่ค้าในตลาด ในฐานะคนอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า จังหวะก่อนที่จะได้ยินเสียงปืนรัวขึ้นต่อเนื่อง มีเสียงคล้ายคนทะเลาะกัน แต่จับใจความไม่ได้ จากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 4-5 นัด

หลังสิ้นเสียงดังกล่าว ตนได้ยินเสียงกลุ่มแม่ค้าช่วยกันตะโกนว่า มีคนถูกยิง จังหวะนั้นก็กลัว แอบมองจากแผงผักในตลาด พร้อมกับได้ยินเสียงกรีดร้องของแฟนคนตาย แต่ตอนนั้นไม่เห็นตัวของคนก่อเหตุ เพราะคาดว่าอาจจะหลบหนี แต่ภายหลังตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุ ก็เจอตัวนายเสริม คนก่อเหตุ โผล่มอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ส่วนสาเหตุเปิดฉากยิงนั้น ตนไม่ทราบ เพราะที่ผ่านมาทั้งคู่ก็ไม่ได้มีปากเสียงอะไรกันให้คนในตลาดได้เห็น

967373

จากนั้น ทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด เป็นมุมกล้องในตลาดศรีเมืองราชบุรี โดยจะเห็นพฤติกรรมของนางเสริม (เสื้อสีกรมท่า) เดินมาเทียบข้างรถ หลังจากที่รถกระบะถอยเข้ามาอยู่ในมุมจอ จากนั้นจะเห็นว่ามีการยกอาวุธปืนขึ้นมายิง และเป็นช่วงจังหวะเดียวกันกับที่แฟนของคนตาย (เสื้อขาว) กระโดดลงมาจากรถกระบะ แล้วพยายามแย่งอาวุธปืน

585120

ทีมข่าวได้คุยกับนายยอด (นามสมมติ) ลูกน้องคนสนิทของคนตาย ในฐานะเพื่อนของคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า คนตายมีนิสัยใจคอเป็นคนเข้มงวด ดุดัน และมักจะใช้คำพูดที่แรง และเป็นคนที่พกปืนไปไหนมาไหนติดตัวตลอด ส่วนคนก่อเหตุเป็นคนเงียบ ๆ ไม่ได้เกเรหรือก้าวร้าว เป็นคนขยันทำมาหากิน แต่ก็มีเก็บกดบ้างบางครั้ง แต่ก็ไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟัง

หลังจากที่เกิดเหตุแล้ว ตนก็ไม่คิดว่านายเสริมในฐานะลูกจ้าง จะลงมือก่อเหตุยิงนายยุทธ ในฐานะนายจ้างได้ เพราะที่ผ่านมาตนเคยเตือนเกี่ยวกับการใช้ความรุนแรงและการแก้แค้นว่า ไม่เหมาะสม ไม่สมควร แต่ก็ไม่คิดว่านายเสริม จะตัดสินใจก่อเหตุขึ้น

cg-1

ส่วนสาเหตุนั้น ตนในฐานะคนสนิทของทั้งสองฝ่าย เชื่อว่าเกิดจากความแค้นสะสม ที่นายยุทธ เคยข่มขู่และกดขี่นายเสริม คนก่อเหตุมาตลอด ทั้งเรื่องงาน และเรื่องชีวิตส่วนตัว โดยช่วงก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 14.00 น. นายยุทธ ได้เข้ามามีปากเสียงกับนายเสริมที่แผงผักในตลาด ลักษณะไม่พอใจ หวาดระแวงว่าแฟนสาวจะแอบไปคบหากับนายเสริม จึงได้มีปากเสียงกันขึ้น

จากนั้นนายยุทธ ได้ไล่นายเสริมออกจากงาน แต่นายเสริมไม่ยอม พร้อมกับมีการทวงเงินจำนวน 200,000 บาท ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวนายยุทธ ได้หยิบยืมจากนายเสริม โดยอ้างว่านำไปหมุนสำหรับธุรกิจ รวมถึงนำไปใช้จ่ายส่วนตัว แต่ภายหลังถูกไล่ออก จึงต้องการทวงเงินคืน แต่ด้วยนายยุทธ ไม่ยอมคืน และขู่นายเสริมว่า “ไม่มีเงินคืน มีแต่ลูกปืนเอาไหม” จึงทำให้เกิดเหตุยิงกันเกิดขึ้นครั้งนี้

362933

หลังจากที่ทั้งคู่มีปากเสียงกันภายในตลาด ต่างคนต่างแยกย้าย นายยุทธได้ขึ้นรถกระบะสีดำขับออกจากร้านไปพร้อมกับแฟน ซึ่งเป็นจังหวะที่พ่อของนายเสริม กำลังเข็นรถผักผ่านหน้ารถของนายยุทธ และนายยุทธทำทีว่า จะเร่งเครื่อง กำลังจะขับรถชนพ่อของนายเสริม ทำให้เจ้าตัวไม่พอใจ วิ่งออกไปพร้อมอาวุธปืนจ่อยิง 1 นัดฝั่งคนขับ จากนั้นได้วิ่งอ้อมมาด้านหลังรถ มายืนอยู่ฝั่งแฟนของคนตาย ยิงไปอีก 4 นัด ซึ่งเชื่อว่าตอนนั้นแฟนของคนตายมอบตัวลง จึงไม่ถูกยิงไปด้วย

926939

หากย้อนกลับไป ช่วงก่อนหน้านี้ประมาณ 2 เดือน นายเสริมกับนายยุทธเคยมีเรื่องขัดแย้งกันที่ จ.กาญจนบุรี (บ้านนายยุทธ) โดยนัดหมายให้ไปเจอกัน เพื่อเคลียร์ใจกันในประเด็นชู้สาว ซึ่งครั้งนั้นนายยุทธ บังคับให้นายเสริมรับสารภาพว่า เป็นชู้กับแฟนตัวเอง โดยใช้อาวุธปืนจ่อหัว ให้มีการรับสารภาพ แต่นายเสริมปฏิเสธ จึงถูกปืนจ่อศีรษะ 

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ภายหลังที่ นายบุญเสริม แดงม่วง อายุ 30 ปี เข้ามอบตัวกับตำรวจ ได้ถูกควบคุมตัวสอบปากคำ ซึ่งเจ้าตัวรับสารภาพ ตำรวจจึงได้บันทึกจับกุม และจะส่งตัวฟ้องศาลในวันที่ 23 ต.ค.63 สำหรับการก่อเหตุครั้งนี้ ได้แจ้งข้อกล่าวหา เจตนาฆ่าผู้อื่น, มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ไว้ในการครอบครองที่ไม่ได้รับอนุญาต

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส