รวบแก๊งโจ๋ล็อกคอเด็ก 16 ยิงไล่หลังเจ็บอ้างทวงหนี้ 2 พัน แม่เผยเคยบุกขู่ไม่รู้ลูกติดหนี้ (คลิป)

22 ต.ค. 63

กรณีเหตุชายวัยรุ่นถูกกลุ่มคู่อริยิงบาดเจ็บที่หน้าร้านหน้าร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง บนถนนมหาราช ต.ตลาด อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี ทราบชื่อผู้บาดเจ็บ นายจุฑาวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนออโตเมติก .45 เข้าที่ขาด้านขวา 1 นัด หลังเกิดเหตุได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่ง รพ.พระปกเกล้าจันทบุรี เพื่อให้แพทย์ทำการรักษา โดยขณะเกิดเหตุกล้องวงจรปิดในร้าน ได้บันทึกภาพไว้ได้อย่างชัดเจน

684827834492

ภาพจากกล้องวงจรปิดมุมที่ 1 มุมในร้าน จะเห็นนายจุฑาวัฒน์ ผู้บาดเจ็บ ใส่เสื้อสีส้มยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ จากนั้นนายเจ ผู้ก่อเหตุ (เสื้อดำแขนยาว สวมหมวกกันน็อก) ได้เข้ามาล็อกคอนายจุฑาวัฒน์ออกไปด้านอกร้าน และนายจุฑาวัฒน์พยายามจะเดินหนี แต่นายเบ็นท์ ผู้ก่อเหตุอีกราย (เสื้อแถบแดง) ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิงไล่ตามหลัง กระสุนโดนเข้าที่ขาขวาจนรับบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายได้หลบหนีไป

314946

ขณะที่ภาพวงจรปิดมุมที่ 2 บริเวณเคาน์เตอร์ ได้บันทึกภาพเหตุการณ์เดียวกันกับมุมที่ 1 วินาทีที่ 00.10 น. ในคลิปจะเห็นนายจุฑาวัฒน์ ผู้บาดเจ็บได้วิ่งหนีกลุ่มผู้ก่อเหตุ และเห็นนายเบ็นท์ คนสวมเสื้อแขนแถบสีแดง ยกแขนขึ้นมาใช้อาวุธปืนยิงตามหลังนายจุฑาวัฒน์

290541

ทั้งนี้ทีมข่าวยังได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ฝั่งตรงข้ามร้านค้าจุดเกิดเหตุ ซึ่งจะเห็นเหตุการณ์หลังเกิดเหตุแล้ว จะเห็นกลุ่มผู้ก่อเหตุ เดินกลับเข้ามาที่รถจักรยานยนต์ นายเบ็นท์ ได้พกอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุไว้ในกระเป๋าสะพายข้าง

684776

ล่าสุดวันที่ 22 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุหน้าร้านมินิมาร์ทแห่งหนึ่ง บนถนนมหาราช ต.ตลาด อ.เมืองจันทบุรี จ.จันทบุรี พบกับนางบัวลอย (นามสมมติ) เจ้าของร้าน ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.50 น. นายจุฑาวัฒน์ ผู้บาดเจ็บ สวมเสื้อกันหนาวสีน้ำตาลแขนยาว กำลังซื้อของอยู่ในร้านค้าของตน พร้อมกับเพื่อนสาวอีก 1 คน

cg

จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุมาด้วยกันทั้งหมด 4 คน โดยมีนายชัยวัฒน์ หรือเจ เข้าไปล็อกคอผู้เสียออกมา พร้อมกับพูดว่า "มึงทำน้องกู" และมีการรุมทำร้ายนายจุฑาวัฒน์ จากนั้นนายจุฑาวัฒน์ ได้วิ่งหลบหนีไปตามถนน เลยร้านของตนไปสองห้องแถว ก็ถูก 1 ในผู้ก่อเหตุ (นายชัยทัศน์ หรือ เบ็นท์) ใช้อาวุธปืนขนาด .45 ยิงเข้าที่ขาขวาของจุฑาวัฒน์ จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นผู้ก่อเหตุทั้ง 4 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนนายจุฑาวัฒน์ ก็ได้นั่งที่ข้างถนน จมกองเลือด ก่อนชาวบ้านในพื้นที่จะนำส่งโรงพยาบาล

นางบัวลอย เล่าต่อว่า ตนคุ้นหน้านายจุฑาวัฒน์บ้าง เนื่องจากเคยมาซื้อของที่ร้านตนบ่อยครั้ง ส่วนกลุ่มของผู้ก่อเหตุตนไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้นในร้าน

396934

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายัง สภ.เมืองจันทบุรี โดยช่วงบ่ายของวันนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสอบสวน 2 ผู้ต้องหา ได้แก่ นายชัยทัศน์ อบอาย หรือ เบ็นท์ อายุ 22 ปี ผู้ใช้อาวุธปืนยิงผู้บาดเจ็บ และนายชัยวัฒน์ พลวรรณ์ หรือ เจ อายุ 18 ปี โดยทั้งสองคนมีสีหน้าที่ปกติขณะสอบสวน

492927

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ 2 ผู้ต้องหา ขณะที่กำลังนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดจันทบุรี โดยผู้ต้องหารายแรก (เสื้อเทา) ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า ตนขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ได้ตั้งใจยิงนายจุฑาวัฒน์ ถึงขั้นเอาชีวิต ที่ตนทำไปเพราะอารมย์ชั่ววูบ และตนก็ยอมรับว่าตนกับผู้บาดเจ็บมีปัญหากันมาก่อนหน้านี้จริง ส่วนทางด้านผู้ต้องหาอีกราย (เสื้อเทาแถบแดง) พูดสั้น ๆ ว่า ตนขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

501017

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำตัวนายชัยทัศน์ อบอาย และนายชัยวัฒน์ พลวรรณ์ ไปฝากขังที่ศาลจังหวัดจันทบุรี พร้อมกับนำตัวอีก 2 ผู้ต้องหาไปที่ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดจันทบุรีต่อไป อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมนำตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดจันทบุรีต่อไป

707554

นางน้ำ (นามสมมติ) แม่ของนายจุฑาวัฒน์ ผู้บาดเจ็บ ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ทีวีว่า ตอนนี้อาการลูกชายดีขึ้นแล้ว และลูกชายก็ออกจากโรงพยาบาลแล้วด้วย ตนก็ได้สอบถามลูกชายถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เล่าให้ตนฟังว่า ไม่รู้เหมือนกันว่าปมเหตุที่เกิดขึ้นมาจากเรื่องอะไร

แต่เมื่อวันที่ 14 ต.ค.63 ที่ผ่านมา กลุ่มของผู้ก่อเหตุ ได้ถืออาวุธปืนกระบอกที่ใช้ก่อเหตุ ไปขู่ในที่ทำงานลูกชายแล้ว 1 ครั้ง กระทั่งมาเกิดเหตุในคืนวันที่ 21 ต.ค.63 โดยกลุ่มของผู้ก่อเหตุก็เป็นเพื่อนของเพื่อนกับลูกชายตน ตนก็ไม่คิดว่าเด็ก ๆ จะมาก่อเหตุรุนแรงกับลูกชายตนถึงขนาดนี้ หลังเกิดเหตุ ตนยอมรับว่าตนตกใจมาก กระทั่งตนมาทราบภายหลังว่าลูกชายตนถูกยิงแค่ที่ขาด้านขวา จึงโล่งใจขึ้นมาเล็กน้อย เพราะถือว่าห่างไกลจุดสำคัญ

647807

ส่วนที่ผู้ก่อเหตุ ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะปมเหตุมาจากลูกชายตนติดหนี้หนึ่งในผู้ก่อเหตุจำนวน 2,000 บาทนั้น เรื่องนี้ตนได้สอบถามลูกชายแล้ว ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และลูกชายก็ไม่เคยไปมีเรื่องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อนอีกด้วย สำหรับลูกชายตนเวลาอยู่ที่บ้าน ลูกชายจะมีนิสัยไม่ค่อยพูด แต่เวลาที่ลูกชายไปอยู่นอกบ้านกับกลุ่มเพื่อน ตนก็ไม่รู้ว่าลูกชายจะมีนิสัยเป็นอย่างไร

ทั้งนี้ตนก็ไม่โกรธผู้ก่อเหตุ แต่ตนกับรู้สึกสงสารเขา และตนก็อโหสิกรรมให้ผู้ก่อเหตุ ตนคิดว่าเขาคงไม่ได้ยิงปืนหวังเอาชีวิตลูกชายตน เพราะดูจากวิถีปืน เขาจ่อยิงลูกชายไปที่ด้านล่าง

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส