ซุ่มยิงสาวใหญ่ดับกลางสวน ผัวเก่ากอดศพนึกว่าเป็นลม ญาติรับเลิกผัวแต่ไม่ขัดแย้ง (คลิป)

จากกรณีชาวบ้านพบศพคนถูกยิงที่บ้านเลขที่ 12/1 บ้านคลองคันเบ็ด หมู่ 2 ต.เขาแก้ว อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ทางตำรวจ สภ.ลานสกา จึงลงพื้นที่ตรวจสอบพบศพนางมัณฑนา อายุ 57 ปี เจ้าของบ้าน เสียชีวิตลักษณะคว่ำหน้าจมกองเลือดอยู่หลังบ้าน

สภาพศพสวมใส่ชุดนอนสีแดง มีบาดแผลถูกยิงด้วยกระสุนปืนขนาด 9 มม. เข้าที่หน้าอกซ้าย 1 นัด ไหล่ขวา 1 นัด หน้าท้อง 1 นัด และสะโพกซ้ายอีก 1 นัด สภาพศพเริ่มแข็งตัวแล้ว มีเลือดแห้งเกรอะกรัง คาดเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ 1 ปลอก แต่ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ 

ล่าสุดวันที่ 22 ต.ค.63 พ.ต.อ.รังสรรค์ สุขเกื้อ ผกก.กก.สส.ภ.จ.นครศรีธรรมราช ได้นำทีมชุดสืบสวนเดินหาหลักฐานบริเวณรอบ ๆ จุดเกิดเหตุเพิ่มเติม เนื่องจากหลังบ้านของผู้เสียชีวิตเป็นสวนผลไม้กว่า 3 ไร่ และหลังจากสวนก็เป็นหุบเหวที่มีคลองไหลผ่าน ซึ่งทางตำรวจให้ข้อมูลว่า ตอนนี้ยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน ขอเวลาให้ตำรวจได้ทำงานก่อน

โดยทีมข่าวสำรวจพื้นที่บริเวณจุดพบศพ พบว่าอยู่บริเวณหลังบ้าน เป็นทางเดินลาด ห่างจากบ้านประมาณ 5 เมตร ยังคงมีคราบเลือดแห้งเหลืออยู่เล็กน้อย ใกล้ ๆ กันเป็นบ้านญาติของผู้เสียชีวิต แต่ไม่มีใครอยู่บ้านในช่วงเกิดเหตุ

ทีมข่าวได้พูดคุยนายจุติพร หนูคง สามีของผู้เสียชีวิต ที่ยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ เปิดเผยว่า เมื่อวานตอนที่ตนมาเจอศพ ประมาณ 17.10 น. ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจาก อ.หัวไทร ขับรถเก๋งมาจอดหน้าบ้าน เพื่อมารับภรรยาไปงานศพ เมื่อมาถึงก็สังเกตเห็นภรรยานอนคว่ำอยู่กับพื้นที่ทางเดินหลังบ้าน นาทีนั้นตนคิดว่าภรรยาเป็นลม จึงรีบวิ่งเข้าไปช่วย แต่เมื่อเข้าไปก็พบว่าภรรยานอนจมกองเลือด และมีบาดแผลถูกยิงหลายจุด และตัวเริ่มแข็งแล้ว ตนก็รีบโทรแจ้งตำรวจทันที

นายจุติพร กล่าวต่อว่า หลังบ้านของตนนั้นเป็นสวนผลไม้เนื้อที่กว่า 3 ไร่ ถัดออกไปก็เป็นคลอง ตนยอมรับว่ามืดแปดด้านกับปมการสังหารในครั้งนี้ เพราะตนก็ออกห่างจากภรรยาไปเป็นปีแล้ว ไม่ถึงกับเลิกรา ก็ยังพูดคุยและพึ่งพากัน แต่ตนก็มีครอบครัวใหม่ ซึ่งก็ยังติดต่อพูดคุยสารทุกข์สุขดิบกัน แต่ตนก็ไม่เคยทำอะไรเกินเลย และไม่เคยมานอนค้างคืนที่บ้านกับผู้ตายนานแล้ว แค่แวะมาบางครั้งคราว และทางผู้ตายก็ไม่เคยเล่าอะไรให้ฟัง แต่ตนคิดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นคนที่ผู้ตายรู้จัก เพราะไม่มีร่องรอยการต่อสู้

ทั้งนี้ตนคิดว่าไม่ใช่การกระทบกระทั่งกันในครอบครัวใหม่ของตน เพราะพวกตนก็ถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ต่างคนต่างอยู่ไม่ได้มีปัญหาอะไร และตนยืนยันความบริสุทธิ์ว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ในขณะเกิดเหตุหลังจากเสียงปืน เพื่อนบ้านก็ออกมาดู แต่ก็ไม่เจอศพ ไม่เจอคนก่อเหตุ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายน็อต (นามสมมติ) เพื่อนบ้านผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้เวลาประมาณ 06.30 น. ขณะที่ตนนอนหลับอยู่ในห้อง ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด โดยยิงนัดแรก เว้นช่วงเล็กน้อย และรัวยิงอีกหลายนัด ซึ่งเมื่อเสียงปืนเงีบบลง ตนก็รีบวิ่งไปที่หลังบ้านของตัวเองเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่พบใคร และไม่มีรถเข้าออก จึงคิดว่าเป็นเสียงปืนที่คนยิงขึ้นฟ้า กระทั่งตกเย็นสามีของผู้ตายมาพบศพ

นายน็อต กล่าวต่อว่า ผู้ตายไม่เคยมาเล่าอะไรให้ฟัง ซึ่งเขาก็เป็นคนนิสัยดี ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร ยอมรับว่ารู้สึกตกใจที่ผู้ตายถูกฆาตกรรม อย่างไรก็ตาม หลังบ้านของผู้เสียชีวิตเป็นสวนผลไม้ และมีคลอง ซึ่งคาดว่าคนร้ายอาจจะใช้เป็นเส้นทางในการหลบหนีได้

ทีมข่าวได้ทดสอบไปยืนหลังบ้าน จุดที่นายน็อตอ้างว่าออกมาดู แต่ไม่เห็นศพของผู้ตาย พบว่า จุดที่นายน็อตยืนห่างจากจุดพบศพประมาณ 20 เมตร แต่ไม่สามารถเห็นจุดที่เจอศพได้ เนื่องจากบริเวณที่เจอศพเป็นพื้นลาดต่ำ เมื่อมองในระดับสายจากหลังบ้านของนายน็อต จึงไม่สามารถมองเห็นศพอย่างที่นายน็อตกล่าวอ้าง

พ.ต.อ.สมคิด ดำเกลี้ยง ผกก.สภ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช ให้ข้อมูลว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างการสืบสวน และหาหลักฐานเพิ่มเติม เบื้องต้นมุ่งไปทางประเด็นชู้สาว

ทีมข่าวลงพื้นที่วัดป่ายาง อ.พระพรหม จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของนางมัณฑนา หนูคง บรรยากาศเป็นไปอย่างโศกเศร้า โดยทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางพิทยา ทองเดช อายุ 53 ปี น้องสาวผู้เสียชีวิต ที่เดินทางมาจาก จ.พังงา เพื่อจัดงานศพให้พี่สาว

โดยนางพิทยา เปิดเผยว่า เมื่อคืนของวันที่ 20 ต.ค.63 เป็นคืนก่อนเกิดเหตุ ตนได้โทรศัพท์คุยกับพี่สาว ประมาณ 20 นาที ซึ่งจากการพูดคุยพี่สาวก็ไม่ได้ดูเครียดแต่อย่างใด พูดคุยแต่เรื่องทั่วไป กระทั่งรุ่งเช้าวันที่ 21 ต.ค.63 เวลา 07.00 น. ซึ่งเป็นวันเกิดเหตุ ตนก็ได้ส่งไลน์หาพี่สาว โดยปกติพี่สาวจะตอบทันที หรือไม่ก็เป็นฝ่ายทักมาก่อน แต่วันที่เกิดเหตุพี่สาวกลับไม่อ่านไม่ตอบไลน์ ตนก็ไม่ได้คิดสงสัยอะไร กระทั่งตกเย็นพี่สาวก็ยังไม่ตอบไลน์ สุดท้ายก็ทราบว่าพี่สาวถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

นางพิทยา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตนได้พูดคุยกับพี่สาวมาตลอด แต่เจ้าตัวก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร แต่ก็ยอมรับว่าพี่สาวเคยคิดฆ่าตัวตาย เนื่องจากมีปัญหาครอบครัว และเคยบอกว่า ถ้าวันนี้ไม่ตอบไลน์ แสดงว่าไม่มีชีวิตอยู่แล้ว พูดเหมือนจะฆ่าตัวตาย แต่ตนก็ปลอบมาตลอดจนผ่านมาเป็นปี พี่สาวก็ไม่ได้มีอาการเครียดที่จะฆ่าตัวตายแล้ว แต่ครั้งนี้ตนมั่นใจว่าไม่ใช่การฆ่าตัวตาย แต่มีคนมาฆ่าอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะผู้สูญเสีย รู้สึกเสียใจมาก ๆ ที่เสียพี่สาวไป ยอมรับว่าไม่รู้ถึงปมสาเหตุการตาย แต่อยากวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับคนร้ายให้ได้โดยเร็ว