แท็กซี่ผวาสาวคลั่งรัดคอกัดหู แม่อ้างลูกเครียดโควิดไร้เงินประกันปล่อยนอนคุก (คลิป)

21 ต.ค. 63

จากกรณี น.ส.กนกวรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี ชาว จ.ปทุมธานี เรียกรถแท็กซี่ของนายประสิทธิ์ โพธิ์แก้ว อายุ 52 ปี จากหน้าวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อให้ไปส่งที่อ.ลำลูกกา แต่ระหว่างที่รถแท็กซี่วิ่งมาถึงสะพานนนทบุรี-บางบัวทอง น.ส.กนกวรรณ เกิดคลุ้มคลั่ง

612756

โดยใช้สายสะพายกระเป๋ารัดคอนายประสิทธิ์ จนเกิดการต่อสู้ สุดท้ายรถเสียหลักพุ่งตกลงไปข้างทาง ด้าน น.ส.กนกวรรณ เปิดประตูรถกระโดดลงคลองแอบในพงหญ้า เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกขึ้นมาจากน้ำ ในสภาพคล้ายคนเมายา เมื่อนำส่ง รพ.บางบัวทอง ยังอาละวาดทำลายข้าวของ จึงต้องนำกลับมาควบคุมสติในห้องขัง

ล่าสุดวันที่ 21 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ได้ข้อมูลว่า น.ส.กนกวรรณ ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขัง

696695

นายประสิทธิ์ โพธิ์แก้ว อายุ 52 ปี คนขับแท็กซี่ เดินทางเข้ามาเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมกว่า 1 ชั่วโมง หลังจากสอบปากคำเสร็จ นายประสิทธิ์ ได้ออกมาพูดคุยกับทีมข่าว สังเกตว่าเจ้าตัวยังมีแผลขีดข่วนที่ลำคอ และมีรอยแดงจากการถูกกัดที่ใบหูซ้าย

767355

นายประสิทธิ์ เปิดเผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.00 น. ขณะที่ขับรถหาผู้โดยสารอยู่หน้าวัดสวนแก้ว ต.บางเลน อ.บางใหญ่ ก็มีตำรวจ 2 นาย โบกรถของตนให้กับ น.ส.กนกวรรณ โดยให้ตนขับไปส่งที่ย่านคลองสอง อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

757857

ขณะกำลังเดินทาง น.ส.กนกวรรณ ก็หลับไป กระทั่งตนขับถึงย่านบางบัวทอง เลี้ยวรถเข้าถนนผิดเส้น ทำให้ต้องไปกลับรถไกลถึง 2-3 กิโลเมตร ขณะเดียวกัน น.ส.กนกวรรณ ก็ตื่นขึ้นมาและเกิดอาการคลุ้มคลั่งและพูดว่า "มึงตายซะ" จากนั้นใช้สายกระเป๋ารัดคอตนจนหายใจไม่ออก อีกทั้งยังกัดหูตนอย่างแรง หลังจากนั้นรถของตนก็เสียหลักลงข้างทาง แต่ น.ส.กนกวรรณ ก็ยังคงรัดคอและไม่ปล่อย กระทั่งมีคนเข้ามาช่วย น.ส.กนกวรรณ จึงกระโดดหนีลงพงหญ้าไป

cg-1_1

นายประสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะที่คนพยายามพาตัว น.ส.กนกวรรณ ขึ้นมาจากคูน้ำข้างทาง เจ้าตัวก็มีอาการแปลก ๆ ด้วยการลงไปคลาน 4 ขา ทำท่าทางเหมือนจระเข้ และพูดว่า "ของกูเสื่อมแล้ว" หลังจากนั้นตำรวจพยายามความคุมตัวรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล แต่เมื่อถึงโรงพยาบาลกลับคลุ้มคลั่ง สุดท้ายตำรวจก็ต้องควบคุมตัวไปขังที่ สภ.บางบัวทอง

อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าตนไม่ได้พา น.ส.กนกวรรณ ขับวน แต่ตนหลงทางจริง ๆ ตนก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร ส่วนค่าเสียหายก็ให้ทางครอบครัว น.ส.กนกวรรณ ไปไกล่เกลี่ยกับอู่แท็กซี่ที่ตนเช่ามา ทราบว่าค่าเสียหายรถประมาณ 5 หมื่นบาท เนื่องจากเครื่องยนต์จมลงไปในคูน้ำข้างทาง

439286

ทีมข่าวได้พบกับนางอารมณ์ สมชนะ อายุ 65 ปี แม่ของน.ส.กนกวรรณ ที่มาเฝ้ารอไกล่เกลี่ยกับคนขับแท็กซี่เพื่อตกลงค่าเสียหาย และรอรับตัวลูกสาวกลับบ้าน โดย นางอารมณ์ เปิดเผยว่า ลูกสาวมีอาการเครียดรุนแรงมาหลายปี โดยที่ไม่ได้ไปหาหมอเพื่อรักษาอาการ เพราะที่ผ่านมาสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกเสียจากว่าจะมีเรื่องเครียดที่ทำให้เริ่มพูดไม่รู้เรื่อง แต่ไม่ทำร้ายใคร และจะค่อย ๆ สงบสติอารมณ์และหายเอง ซึ่งลูกสาวก็ไม่ยอมไปหาหมอ

205399

ทั้งนี้ตนยอมรับว่าช่วงนี้ลูกสาวค่อนข้างเครียดมาก ๆ เนื่องจากร้านนวดของลูกสาวขาดรายได้จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไม่มีเงินเลี้ยงดูลูกชายวัย 11 ปี และลูกสาววัย 2 ขวบ มีค่าใช้จ่ายสูงเพราะเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ซึ่งที่ผ่านมาเมื่อลูกสาวเครียดมากก็มักจะโทรมาระบายกับตน และตนก็ให้ลูกสาวกลับมาอยู่ด้วยกันทุกครั้ง

นางอารมณ์ ยังบอกอีกว่า ตนไม่รู้ว่าลูกสาวมีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดหรือไม่ เพราะไม่เคยเห็นและลูกสาวก็ไม่ได้อยู่กับตนตลอดเวลา วันนี้ตนมีโอกาสได้พูดคุยกับลูกสาวที่อยู่ในห้องขัง พบว่าลูกสาวเริ่มสงบสติอารมณ์ อาการดีขึ้น เริ่มพูดจารู้เรื่อง 

103272

อย่างไรก็ตาม ตนได้ยินว่าคนขับแท็กซี่อ้างว่าหลงทาง ตนก็ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่ ตอนนี้ยังรอเคลียร์ค่าเสียหายรถแท็กซี่ อาจจะเป็นเงินที่สูงถึง 5 หมื่นบาท ซึ่งตนก็ไม่รู้จะนำเงินจากไหนมาชดใช้ ซึ่งถ้าเคลียร์กันได้ตำรวจก็จะปล่อยตัวลูกสาวกลับบ้าน เพราะคนขับแท็กซี่ไม่ติดใจเอาความแล้ว

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส