"ครูปรีชา" เปิดใจหลังศาลอุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ยกคำร้องคดีหวย 30 ล้าน ยืนยันจะขอใช้สิทธิ์ยื่นฎีกาภายใน 30 วัน ไม่หนักใจที่จะถูก "หมวดจรูญ" ฟ้อง ลั่นคดียังไม่จบไม่ถือว่าเป็นจำเลย ไม่กระทบวิชาชีพครู
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 63 ความคืบหน้ากรณีศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดคู่กรณีคดีหวย 30 ล้าน ฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 7 ในคดีที่นายปรีชา ใคร่ครวญ หรือ "ครูปรีชา" เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล หรือ "หมวดจรูญ" ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์รับของโจร ซึ่งศาลชั้นต้นได้มีคำพิพากษายกฟ้องหมวดจรูญไปก่อนหน้านี้ ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะมีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ยกฟ้อง ร.ต.ท.จรูญ ซึ่งศาลได้ให้เหตุผลว่ามาจากการที่ได้พิจารณาพยานหลักฐานต่าง ๆ แล้วเชื่อได้ว่าครูปรีชา ไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์ จึงไม่ได้เป็นผู้เสียหาย จึงไม่มีสิทธิ์ที่จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับ ร.ต.ท.จรูญ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หวย 30 ล้านของ "หมวดจรูญ" ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนยกคำฟ้อง "ครูปรีชา"
- ครูปรีชา-หมวดจรูญ เผชิญหน้ารอฟังคำตัดสินของศาลอุทธรณ์ คดีหวย 30 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการฟังคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์ภาค 7 ครูปรีชา พร้อมทีมทนายความได้ลงมาจากห้องพิจารณาคดีเป็นชุดแรก ก่อนจะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนให้ความเคารพในคำพิพากษาของศาล แม้ว่าจะมีในบางประเด็นที่ตนไม่เห็นด้วยก็ตาม หลังจากนี้จะได้ปรึกษากับทีมทนายความเพื่อที่จะดำเนินการยื่นฎีกาต่อศาลอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการใช้สิทธิ์ตามกระบวนการทางกฎหมายที่ตนสามารถทำได้ การยื่นฎีกาเบื้องต้นจะต้องยื่นภายใน 30 วัน จากนั้นก็จะอยู่ที่ศาลเป็นผู้พิจารณาว่าจะรับฎีกาหรือไม่
ส่วนในประเด็นที่ว่าฝ่ายของหมวดจรูญจะยื่นฟ้องดำเนินคดีกับฝ่ายของครูปรีชานั้น นายปรีชา ยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกหนักใจ เพราะในตอนนี้คดียังไม่ได้สิ้นสุด ตนยังไม่ได้อยู่ในสถานะของการเป็นจำเลย และการที่จะถูกฝ่ายของ ร.ต.ท.จรูญฟ้องก็คงจะไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการประกอบวิชาชีพครูของตนแต่อย่างใด เพราะคดียังไม่สิ้นสุด
หลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนเสร็จเรียบร้อย ทางนายปรีชาพร้อมทีมทนายความ ได้รีบเดินทางกลับออกไปจากศาลทันที