เมื่อวันที่ 20 ต.ค.63 เวลา 13.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สภ.เมืองเชียงใหม่ มีคณาจารย์และนักศึกษา ม.เชียงใหม่ นำโดยนายสมชาย ปรีชาศิลปกุล อาจารย์นิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ และอาจารย์ของมหาวิทยาลัยคณะอื่น ๆ รวมตัวกันเดินทางมาที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบถามรายชื่อของนักศึกษาที่อยู่ในหมายจับจากการร่วมชุมนุมในคดีเดียวกับทนายอานนท์ นำภา และนายประสิทธิ์ ครุธาโรจน์ แกนนำนักศึกษา ม.เชียงใหม่ หลังจากการเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อวันที่ 17 ต.ค.63 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้คำตอบจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
นายสมชาย เปิดเผยว่า ที่เดินทางมาในวันนี้ ตนอยากจะทราบว่าจากการจัดกิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาในวันที่ 9 ส.ค.63 ที่ผ่านมา บริเวณลานประตูท่าแพ แกนนำที่ขึ้นไปปราศรัยถูกจับไปแล้ว 2 คน คือ ทนายอานนท์ และนายประสิทธิ์ ซึ่งเป็นนักศึกษา ม.เชียงใหม่ ตอนนั้นเข้าใจว่ามีนักศึกษาที่เป็นแกนนำ และขึ้นปราศัยถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับ จึงได้เดินทางมาสอบถามทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ
และวันนี้ก็จะมีการเข้ามาสอบถามความคืบหน้าว่า ได้ดำเนินเรื่องไปถึงไหนแล้ว จะแสดงรายชื่อของนักศึกษาที่มีหมายจับหรือแสดงหมายจับ เพราะถ้ามีเพิ่มตนก็พร้อมจะประกันตัวและต่อสู้ไปกับนักศึกษา เนื่องจากเป็นสิทธิ์ที่นักศึกษาแสดงออกได้อย่างเสรี ซึ่งตนเป็นห่วงในเรื่องนี้ เพราะว่าเป็นเรื่องที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่นักศึกษาใกล้ที่จะสอบ เกรงว่าจะได้รับผลกระทบทางการเรียน
นายสมชาย เผยต่ออีกว่า ตำรวจได้ส่งจดหมายตอบรับมายังตน โดยได้ส่งไปที่คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ซึ่งระหว่างนั้นตนพร้อมด้วยคณาจารย์และนักศึกษา ม.เชียงใหม่ กำลังอยู่ในระหว่างเดินทางไปเยี่ยมผู้ต้องหาทั้งสอง คือ ทนายอานนท์ และนายประสิทธิ์ ที่เรือนจำกลาง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งก็ได้มอบหมายให้นายกฤษณ์พชร โสมณวัตร อาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.เชียงใหม่ เป็นผู้รับหนังสือแทน
ด้านนายกฤษณ์พชร เปิดเผยรายละเอียดของหนังสือที่ตำรวจตอบกลับทางคณาจารย์ว่า ตามที่ได้ขอทราบว่ามีนักศึกษาของ ม.เชียงใหม่ ได้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีร่วมกับนายอานนท์ นำภา ว่ามีรายชื่อนักศึกษาท่านใดบ้างที่อยู่ในหมายจับในคดีดังกล่าว หรือว่ารายชื่อหมายจับเป็นความลับของสำนวนการสอบสวน ไม่สามารถเปิดเผยออกมาได้
อย่างไรก็ตาม หลังจากให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน นายสมชาย ได้พูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งจากการพูดคุยแล้วก็พบว่าไม่มีการชี้แจงอะไรนอกเหนือจากจดหมายที่ส่งไปที่มหาวิทยาลัย ทางคณาจารย์จึงเดินทางกลับไปประชุมวางแผนแนวทางการช่วยเหลือนักศึกษากันต่อไป
