ชาวบ้านผวา! กุฏิพระชราอาถรรพ์ตายซ้ำศพ 3 เผยพิรุธศิษย์หอบย่ามตุงหนีเข้ากรุงเทพฯ (คลิป)

12 ต.ค. 63

จากกรณีการเสียชีวิตของ พระปัดสา นักลำ หรือ หลวงปู่ปัดสา อายุ 83 ปี พระลูกวัด วัดป่ากุดน้ำคำ บ้านกุดปลาดุก ต.กุดปลาดุก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ โดยนักประดาน้ำพบร่างจมอยู่กลางสระน้ำภายในวัด มีร่องรอยการถูกทำร้าย ซึ่งคาดว่าคนร้ายได้ใช้ไม้เท้าของหลวงปู่เป็นอาวุธ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

พระชราดับปริศนากลางบ่อน้ำ เจ้าอาวาสพุ่งเป้าชายขออาศัยก่อนล่องหน เปิดกล้องเจอโจ๋วนกุฏิก่อนเกิดเรื่อง 

595050

นักประดาน้ำได้ระดมกำลังลงค้นหาร่างของพระปัดสา ประมาณ 1 ชม. พบว่าร่างจมอยู่ห่างจากฝั่งราว 20 เมตร สภาพศพเบื้องต้นสวมสบง บริเวณศีรษะมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งจนมีรอยปูด ใบหน้ามีรอยถูกทำร้ายหลายจุด ในมือขวากำพระพุทธรูปองค์เล็กเศียรหัก คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 8 ชม.

854309

ทั้งนี้ ครูบาชัย เจ้าอาวาสวัดป่ากุดน้ำคำ และชาวบ้าน ต่างพุ่งเป้าสงสัยไปยังบุคคล 3 คน ว่าเป็นฆาตกร ได้แก่ 1.นายสมบัติ ผู้มาขออาศัยอยู่ที่วัด 2-3 วันก่อนที่หลวงปู่ปัดสาจะมรณภาพ ซึ่งได้หายตัวไปพร้อมกับการมรณภาพ 2.วัยรุ่นชาย และ 3.วัยรุ่นหญิง ซึ่งทั้งสองคนถูกกล้องวงจรปิดจับภาพได้ ขณะเดินไปมาอยู่ภายในวัด คืนวันที่ 5 ต.ค.63 เวลาประมาณ 20.00 น. บริเวณหน้ากุฏิเจ้าอาวาส

857750834830

ทีมข่าวทราบมาว่า นายสมบัติได้ออกจากวัดแล้วเดินเท้าไปหาชาวบ้านต่างหมู่บ้าน (หมู่บ้านป่าติ้ว ต.กุดปลาดุก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ) ในเวลา 03.00 น. แต่ชาวบ้านรายแรกไม่ยอมไปส่ง นายสมบัติจึงเดินเท้าไปหาชาวบ้านอีกรายให้พาไปส่งแทน

347361

ล่าสุดวันที่ 12 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ทราบมาว่าวัยรุ่นหญิงชายที่ปรากฏตัวในคลิปกล้องวงจรปิด เป็นชาวหมู่บ้านนาสีนวน อยู่ห่างจากวัดป่ากุดน้ำคำ ประมาณ 7.5 กิโลเมตร จึงเดินทางไปตรวจสอบ เมื่อเดินทางไปถึง ทีมข่าวได้พบกับ น.ส.อาพร ป้องกัน หรือ ปุ๋ย อายุ 18 ปี กับนายพูน หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า นายเบิ้ม อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นบุคคลในคลิปดังกล่าว

142035

ทั้งนี้จากการสอบถามทราบว่า น.ส.อาพร เคยเป็นคนติดยาเสพติด แต่ขณะนี้กลายเป็นคนสติไม่ดี เนื่องจากฤทธิ์สารเสพติด ส่วนนายเบิ้มเป็นคนติดสุราอย่างหนัก ซึ่งขณะที่ทีมข่าวเจอตัวก็ยังคงได้กลิ่นสุราติดตามตัว ดื่มทั้งวันทั้งคืน

ทีมข่าวได้พยายามเข้าไปพูดคุย และสอบถามน.ส.อาพร บอกเพียงว่า “จำไม่ได้” แต่ยอมรับว่าชอบไปเดินเล่นที่วัดป่าน้ำคำเป็นประจำในช่วงเวลากลางคืน โดยปกติแล้วจะเดินทางไปคนเดียว ไม่มีใครไปด้วย

321091

จากนั้น ทีมข่าวก็ได้พูดคุยกับ นายเบิ้ม บอกกับทีมข่าวว่า ตนเป็นแฟนหนุ่มของน.ส.อาพร ยอมรับว่าได้พาฝ่ายหญิงซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เดินทางไปที่วัดป่ากุดน้ำคำ ในคืนวันที่ 5 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของตนที่ได้เดินทางไปวัดป่ากุดน้ำคำ ตนและน.ส.อาพร เดินทางไปถึงที่วัด ในเวลาประมาณ 20.00 น. จากนั้นก็ได้เดินเล่นรอบวัด ประมาณ 30 นาที จนเจ้าอาวาสได้ออกมาปิดไฟไล่

895784

ทั้งนี้ตนและน.ส.อาพร ไม่มีเจตนาจะทำอะไรไม่ดี เพียงแต่ไปเดินเล่น ไม่ได้ขโมยของอะไร แต่ตนยอมรับว่าหยิบน้ำที่วางไว้มาดื่ม 1 ขวด ตนไม่ได้ติดยาเสพติด ตนดื่มแต่สุรา ตนไม่เคยทราบข่าวการมรณภาพของหลวงปู่ปัดสามาก่อน

817963

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปหานายหวัด (นามสมมติ) อายุ 67 ปี ผู้ที่พบกับนายสมบัติในเวลาประมาณ 03.00 น. ของเช้าวันที่ 10 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ที่บ้านพักห่างจากวัดป่ากุดน้ำคำ ประมาณ 2 กิโลเมตร

264027

นายหวัด (นามสมมติ) เล่าว่า ตนรู้จักนายสมบัติเมื่อประมาณ 2 ปีก่อน ขณะนั้นนายสมบัติอยู่ในสมณเพศ มาขอจำวัดอยู่ที่วัดบ้านป่าติ้ว มักจะมาขอข้าวตนกินในช่วงเย็น (เป็นพระแต่มาขอข้าวชาวบ้านกินตอนเย็น) แต่จำวัดได้เพียง 2-3 เดือน ก็ย้ายไปจำวัดที่อื่น ไม่มีใครทราบนิสัยที่แท้จริงของนายสมบัติ ไม่มีใครรู้ว่าพื้นเพเป็นคนที่ใด รู้แต่นายสมบัตินั้นมีลักษณะนิ่ง ๆ ตุ้งติ้งและอ้อนแอ้น

529164

ในเวลา 03.00 น. ของเช้าวันที่ 10 ต.ค.63 นายสมบัติที่สวมใส่เสื้อเชิ้ตลาย กางเกงขายาว (ไม่แน่ใจกางเกงผ้าหรือกางเกงวอร์ม) สะพายกระเป๋าคล้ายย่ามสีแดงของเต็มย่ามจนรูดซิบปิดไม่สนิท และถือย่ามสีขาวไว้ในมือ ได้เดินเท้าอ้อมมาหาตนที่หลังบ้าน ที่กำลังนอนบนแคร่หลังบ้าน และได้ปลุกตนแล้วยกมือไหว้ ขอให้ตนไปส่ง พูดว่า “ผ่านทางมาจากศรีสะเกษ จะกลับบ้าน ช่วยไปส่งหน่อย”

939224

ทั้งนี้ตนได้บอกกับนายสมบัติว่า “มาทำอะไรยามวิกาล กูเกือบจะทุบหัวมึงแล้ว” นายสมบัติขอร้องให้ตนไปส่ง 3-4 ครั้ง ที่อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ แต่ตนไม่ยอม เนื่องจากตนรู้สึกแปลกใจที่นายสมบัติมีท่าทีลุกลี้ลุกลนและตัวสั่น ตนจึงพูดว่า “จะหนีก็หนีไป ถ้าไม่หนี กูจะทุบมึง” โดยที่ตนใช้คำว่า “หนี” เพราะตนคิดว่านายสมบัติ น่าจะทำอะไรผิดมาหรือไม่ ตนไม่รู้ว่านายสมบัติเกี่ยวข้องกับการมรณภาพของหลวงปู่ปัดสาหรือไม่ แต่ตนคิดว่านายสมบัติมีพิรุธน่าสงสัย

493885

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายถวัลย์ บุญเรือง อายุ 63 ปี ชาวบ้าน เล่าประวัติกุฏิให้ฟังว่า ในช่วงแรกที่หลวงปู่สวามรณภาพ ชาวบ้านต่างไม่เชื่ออาถรรพ์ แต่ขณะนี้หลวงปู่ปัดสามรณภาพเป็นรูปที่ 3 ชาวบ้านต่างก็เริ่มเชื่อในอาถรรพ์กุฏิ โดยชาวบ้านได้พูดคุยกับเจ้าอาวาสแล้วเกี่ยวกับการรื้อกุฏิหลังดังกล่าวทิ้ง

842279959172

ปี 2556 หลวงปู่สวา อายุประมาณ 65 ปี ได้ประดิษฐ์และจุดบั้งไฟผิดพลาด ปักบั้งไฟที่พื้นดินเปียก บั้งไฟลอยขึ้นฟ้าจนควันคลุ้งปิดท้องฟ้า หลวงปู่สวาเงยหน้ามองบั้งไฟแต่มองไม่เห็น จากนั้นบั้งไฟก็ได้ตกลงมาที่กลางศีรษะ ตนรีบนำตัวหลวงปู่สวาส่งโรงพยาบาล แต่มรณภาพระหว่างทางไปโรงพยาบาล

182217

ปี 2560 หลวงปู่ลอย อายุประมาณ 57 ปี ร่างกายแข็งแรง แต่รุ่งเช้ากลับนอนไหลตายตัวแข็ง สภาพศพมือก่ายหน้าผาก

ปี 2563 หลวงปู่ปัดสา อายุ 83 ปี มรณภาพ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าถูกฆาตกรรมจนมรณภาพ หลวงปู่ปัดสาบวชตั้งแต่อายุ 60 ปี จำวัดมาหลายที่ แต่เพิ่งมาจำวัดที่วัดป่ากุดน้ำคำ 2-3 ปี โดยที่หลวงปู่ปัดสาก็ทราบประวัติของกุฏินี้ดี แต่หลวงปู่ปัดสาไม่สนใจ บอกกับชาวบ้านว่า “แก่แล้ว อยู่ไหนก็อยู่ได้”

980767

ทั้งนี้ หลวงปู่ปัดสาชอบสะสมพระเครื่อง มีมากมายหลายรุ่น ใครขอก็ไม่ให้ ลูกหลานและชาวบ้านขอก็ไม่ให้ ตนและชาวบ้านต่างเชื่อว่านายสมบัติน่าจะเป็นผู้ก่อเหตุ สาเหตุน่าจะมาจากต้องการพระเครื่องและของขลังของหลวงปู่ปัดสา สังเกตได้จากย่ามของหลวงปู่ที่ใส่พระเครื่องไว้หายไป

313879

นอกจากนี้ ตนและชาวบ้านยังคิดว่า อาจเป็นไปได้หรือไม่ว่า นายสมบัติอาจจะพยายามแย่งพระพุทธรูปในมือหลวงปู่ แต่หลวงปู่ไม่ยอมแล้วกำพระพุทธรูปไว้แน่นจนเศียรหัก พยายามเดินหนีนายสมบัติ จนถูกทำร้าย พลาดท่าจมน้ำ เพราะหลวงปู่ร่างกายไม่แข็งแรง เดินไม่ได้หากไม่มีไม้เท้า หลวงปู่จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องเดินไปที่สระน้ำ

211645

จากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปหานายสกล สีหา อายุ 64 ปี (นามสมมติ) อาศัยอยู่ห่างจากนายหวัด ประมาณ 4 กิโลเมตร ซึ่งเป็นชาวบ้านรายที่สองที่นายสมบัติไปขอให้ช่วยพาไปส่ง

นายสกล บอกกับทีมข่าวว่า ในเวลาประมาณ 06.00 น. ของวันที่ 10 ต.ค.63 ที่ผ่านมา ตนกำลังเกี่ยวหญ้าให้วัวกิน นายสมบัติได้เดินเข้ามาทักทายบอกกับตนว่า มาเยี่ยมนายหวัด (นามสมมติ) ได้ประมาณ 1 สัปดาห์แล้ว แต่นายหวัด ไม่ยอมไปส่งที่ท่ารถ จึงมาขอร้องตนให้ไปส่ง เพื่อจะเดินทางกลับ จ.ชัยภูมิ

ทั้งนี้ตนจึงขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งนายสมบัติที่แยกน้ำปลีก ใกล้กับ สภ.น้ำปลีก ห่างจากบ้านนายสกล ประมาณ 25 กิโลเมตร คาดว่าถึงแยกน้ำปลีก ประมาณ 06.40 น.

395277

ในระหว่างเดินทาง ตนได้พยายามสอบถามนายสมบัติว่า “ไปยังไง มายังไงที่อำนาจเจริญ” โดยนายสมบัติบอกกับตนว่า พี่เขยเสียชีวิต จึงต้องเดินทางกลับ จ.ชัยภูมิ อย่างเร่งด่วน เมื่อถึงจุดหมาย นายสมบัติก็รีบลงจากรถจักรยานยนต์ วิ่งไปขึ้นรถบัสที่เข้ามาจอดเทียบท่าพอดี ป้ายรถเขียนจุดหมายว่ากรุงเทพฯ ตนจึงได้ตะโกนถามไปว่า “จะไปชัยภูมิ ทำไปไปขึ้นคันนั้น” ซึ่งนายสมบัติตะโกนกลับมาว่า “ขึ้น ๆ ไปก่อน เดี๋ยวแวะลงต่อรถกลางทาง” จากนั้นตนก็ขับรถกลับบ้าน

นอกจากนี้ ตนไม่รู้นิสัยลึก ๆ ของนายสมบัติ แต่ที่รู้จักกัน เนื่องจากตนไปทำบุญบ่อยที่วัดบ้านป่าติ้วขณะที่นายสมบัติจำวัดอยู่ที่นั้นเมื่อ 2 ปีก่อน ตนไม่กล้าฟันธงว่านายสมบัติ เกี่ยวข้องกับการมรณภาพของหลวงปู่ปัดสา แต่ยอมรับว่านายสมบัติมีท่าทีแปลก ๆ 

441720

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ข้อมูลกับอมรินทร์ทีวีว่า นายสมบัติ มีชื่อนามสกุลจริงว่า นายสมบัติ สุธรรม อายุ 44 ปี เป็นคนพื้นเพ จ.ชัยภูมิ ที่อยู่ตามบัตรประจำตัวประชาชน เลขที่ 88 หมู่ 6 ต.กวางโจน อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ และเคยต้องคดีลักทรัพย์ที่ จ.ชัยภูมิ มาก่อน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส