วันที่ 9 ต.ค. 63 ปฏิบัติการตามล่า "ไอ้งาสั้น" เจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 13 จำนวน 50 นาย ได้กระจายกำลังลาดตระเวนในพื้นที่ ต.ป่ายุบใน อ.วังจันทร์ จ.ระยอง เน้นไปที่การเเกะรอย เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาไอ้งาสั้นได้เดินย้ายจากเขาไม้นวล ไปอยู่ที่สวนปาล์ม ตีนเขาสิงโต อยู่ในพื้นที่ตำบลป่ายุบใน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเดิมที่พบเมื่อวาน ประมาณ 4-5 กิโลเมตร
โดยช้างตัวดังกล่าวมีความฉลาดเป็นอย่างมาก สามารถรับรู้สิ่งเเปลกปลอมที่อยู่ในป่า ได้เดินอ้อมหลบหลังกล้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถมองเห็นภาพช้างได้ จนต้องใช้วิธีตามหาโดยการเเกะรอย
ซึ่งอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ คือมีฝนตกลงมาต่อเนื่องตั้งเเต่ช่วงเช้า การเดินทางเข้าพื้นที่ค่อนข้างยากลำบาก รถติดหล่มไป 1 คัน อีกทั้งอุปกรณ์ที่เจ้าหน้าที่เตรียมไว้ คือ โดรนตรวจจับความร้อน ก็ไม่สามารถขึ้นบินได้เพราะติดฝน ขณะนี้อยู่ระหว่างรอเเพทย์มาทำการประเมิน ว่าจะสามารถยิงยาซึมได้หรือไม่
จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ที่พบเจ้างาสั้น นายวิฑูรย์ คุรุนันท์ เจ้าหน้าที่ชุดระวังช้างป่า กรมอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤไน เปิดเผยว่าเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เวลาประมาณ 06.00 น. ระหว่างที่กำลังลาดตระเวนเเกะรอยช้าง ได้รับเเจ้งจากชาวบ้านว่าพบเห็นช้างอยู่ในสวนปาล์ม ตีนเขาสิงโต ตนจึงรีบเดินทางมาตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นไอ้งาสั้น กำลังกินผลปาล์มอย่างสบายใจ มีการสะบัดหู
ซึ่งเเสดงว่าช้างยังอารมณ์ดี เเต่ทันทีที่ช้างเห็นเจ้าหน้าที่ ก็มีการส่งเสียงขู่ เป็นการเตือนว่าอย่ามาใกล้ ตอนนี้จึงต้องเฝ้าอยู่ห่าง ๆ เเล้วรอสัตวเเพทย์มาทำการประเมิน เพราะหากเข้าไปใกล้ช้างก็พร้อมพุ่งใส่ได้ตลอดเวลา เนื่องจากตอนนี้ช้างทราบเเล้วว่ามีคนกำลังเฝ้าอยู่
ในขณะเดียวกันได้รับการสนับสนุนจาก คณะภูมิสารสนเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา ร่วมกับบริษัท สตาร์ทอัพ นำโดรนมาช่วยปฏิบัติภารกิจ จำนวน 3 ลำ ในการบินทำเเผนที่ เเละบินหาพิกัดช้าง โดยสัญญาณระบบ GPS จากโดรน สามารถจับความร้อนไอ้งาสั้นได้ ว่าพิกัดอยู่กลางสวนปาล์ม ตีนเขาสิงโต ห่างจากจุดที่พบเมื่อวาน 4-5 กิโลเมตร โดยเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถยิงยาซึมได้ เนื่องจากจุดที่ช้างอยู่เป็นตีนภูเขา
ปฏิบัติการล่าช้างป่า เวลา 17.30 น. ทีมสัตวเเพทย์เเละสัตวบาลของกรมอุทยานเเห่งชาติสัตว์ป่าเเละพันธุ์พืช สามารถยิงยาซึมได้สำเร็จ โดยหลังจากถูกยิงยาซึม 4 เข็ม เจ้างาสั้นก็อยู่ในอาการนิ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียม ระหว่างที่กำลังติดปลอดคอ ได้ใช้ไม้ค้ำเพื่อกันไม่ให้ช้างล้ม
ในส่วนของการเคลื่อนย้าย เมื่อเวลา 18.30 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำรถแบ็กโฮ เเละรถบรรทุกสิบล้อ 1 คัน เข้าไปในพื้นที่ สำหรับวิธีเคลื่อนย้าย จะนำรถแบ็กโฮขุดทำทางให้รถบรรทุกสิบล้อ จากนั้นใช้เชือกขนาด 36 มิลลิเมตร ความยาว 50 เมตร มัดขาทั้ง 4 ขา ลากจูงช้างขึ้นรถบรรทุก
โดยมีเจ้าหน้าที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 13 เจ้าหน้าที่หน่วยอาสาช้างป่าที่ 1 เขาชะเมา ผู้นำท้องถิ่น เเละอาสาสมัครในพื้นที่กว่า 100 คน มาร่วมเคลื่อนย้าย สำหรับอุปสรรคคือสภาพพื้นที่ชื้นแฉะ ทางเป็นโคลน เนื่องจากฝนตกลงมาตลอดทั้งวัน
ล่าสุดเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำเจ้างาสั้นออกจากพื้นที่ได้ เนื่องจากรถบรรทุกสิบล้อที่เตรียมมา ขนาดเล็กกว่าตัวช้าง เจ้าหน้าที่เกรงว่าช้างจะตาย เนื่องจากถูกยิงยาซึมกว่า 4 ชั่วโมงเเล้ว จึงจำเป็นต้องปล่อยไปก่อน เเต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถติดปลอกคอได้สำเร็จ หลังจากนี้ จะทำให้การตามหาตัวง่ายขึ้น เจ้าหน้าที่ได้ให้ยาแก้เพื่อให้ช้างตื่น พร้อมทั้งรีบกันคนออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย
