ยายหลั่งน้ำตา หลังรับเงิน 500 งวดแรกจากรัฐ ช่วยต่อชีวิตคนในบ้าน

9 ต.ค. 63

คุณยายวัย 65 ปี ชาว อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ถึงกับหลั่งน้ำตาคาซูเปอร์มาร์เก็ต หลังเอาบัตรคนจนไปรูดแล้วมีสิทธิ์ซื้อของใช้ได้ 500 บาท จากโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ผู้มีบัตรฯ) งวดแรก เผยทั้งตัวไม่มีเงินแม้บาทเดียวเงิน วันนี้ถือว่าต่อชีวิตไปได้อีก

จากกรณีคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ในคราวประชุมครั้งที่ 21/2563 ตามที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอซึ่งมีโครงการที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลัง 2 โครงการประกอบด้วย 1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และ 2.โครงการคนละครึ่ง เพื่อช่วยเหลือเยียวยาและลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่กลุ่มผู้มีบัตรฯ ประมาณ 14 ล้านคนในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้กลุ่มผู้มีบัตรฯ ไม่สามารถประกอบอาชีพได้ตามปกติมีรายได้ลดลง และไม่สามารถหารายได้จากแหล่งอื่นมาทดแทนได้

1602206303481

โดยโครงการจะเป็นการช่วยเหลือวงเงินค่าซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็นจากร้านธงฟ้าราคาประหยัดพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น จำนวน 500 บาทต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคมถึงเดือนธันวาคม 2563 เป็นวงเงินรวม 21,000 ล้านบาท ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น โดยวันนี้เป็นวันที่เงินงวดแรกจำนวน 500 บาท เข้าบัญชีผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศตามร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาถึงแม้จะมีฝนตกลงมาตลอดทั้งวันก็ตาม ส่วนใหญ่จะมาเลือกซื้อสินค้าจำเป็นในการดำรงชีพ เช่น ปลากระป๋อง น้ำมันพืช น้ำปลา บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยแต่ละคนต่างมีสีหน้าดีใจ โดยเฉพาะ นางสวอน ซ่อนกลิ่น อายุ 65 ปี อยู่เลขที่ 26/1 หมู่ 14 ต.ปราสาท อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ ที่เสี่ยงขึ้นรถกระบะกับชาวบ้านมาตรวจเช็กว่ามีเงินเข้าตามที่รัฐบาลประกาศว่าเงินงวดแรกเข้าจริงหรือไม่

001_33

หลังตรวจสอบกับพนักงานร้านค้าพบว่าตนมีสิทธิ์ซื้อสินค้าได้ 500 บาทจริง นางสวอนถึงกับกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ พร้อมเล่าด้วยว่าก่อนหน้านี้ลูกชายถูกเลิกจ้างเพราะพิษโควิด-19 กลับมาอยู่บ้าน ลูกอีกคนไปมีครอบครัวอยู่ต่างจังหวัด ที่ผ่านมาลูกชายคนที่ถูกเลิกจากจะส่งเงินมาให้ใช้ทุกเดือนแต่ตอนนี้ตกงานแล้ว ยอมรับว่าวันนี้ "ทั้งครอบครัวไม่มีเงินแม้แต่บาทเดียว” และในบ้านไม่มีอาหารกินอีกต่อไป เพราะเงินเบี้ยคนชราได้ซื้อข้าวสารกับจ่ายค่าไฟไปก่อนหน้านี้แล้ว พอมาทราบว่ามีสิทธิ์ซื้อของได้รู้สึกโล่งใจจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ขอขอบคุณรัฐบาลที่ยังต่อลมหายใจให้กับคนจนได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ