เจอแล้ว "ไอ้งาสั้น" โผล่ไร่ จ่อยิงยาซึมขนขึ้นเครนปล่อยป่า สยบอาถรรพ์ช้างผี 3 ศพ (คลิป)

กรณีปฏิบัติการล่าช้า "เจ้างาสั้น" ช้างป่าผีสิง ซึ่งทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตรวมแล้ว 3 ศพ ล่าสุดวันที่ 8 ต.ค.63 ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ระบุว่า ยังไม่สามารถยิงยาสลบได้ เนื่องจากสภาพพื้นที่ยังไม่เอื้ออำนวย ตอนนี้จึงอยู่ระหว่างการเฝ้าดูพฤติกรรม ดูเส้นทางการเดิน เเละประเมินอารมณ์

โดยตอนนี้เจ้างาสั้นทราบเเล้วว่ามีคนโอบล้อม สังเกตได้จากพฤติกรรม ซึ่งช้างเป็นสัตว์ที่ฉลาด เเละประสาทสัมผัสไวมาก หากตรงไหนมีเจ้าหน้าที่ยืนดักยู่ ก็จะเดินไปอีกทาง

ซึ่งกลางดึกที่ผ่านมา เจ้างาสั้นได้เดินหลบกล้อง ลงมาอยู่ที่สวนปาล์มของชาวบ้าน ในพื้นที่ หมู่ 3 ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง เจ้างาสั้นมีการระวังตัวเอง เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าใกล้ได้ โดยธรรมชาติเเล้วช้างเป็นสัตว์ที่วิ่งเร็วกว่ามนุษย์ จึงต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ เเต่ในเรื่องของอารมณ์ เจ้างาสั้นยังนิ่ง ไม่มีอาการหงุดหงิดเเต่อย่างใด

ทั้งนี้ในเรื่องอุปสรรค ตั้งเเต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีฝนตกต่อเนื่อง การเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ หรือการเดินทางเข้าพื้นค่อนข้างลำบาก อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ชุดยิงยาสลบ จะเดินทางเข้าพื้นที่ในช่วงบ่าย เเต่ปฏิบัติการต่าง ๆ จะต้องรอประเมินสภาพอากาศอีกครั้ง โดยเฉพาะเรื่องฝน

ทีมข่าวได้พูดคุยกับนายธนกฤต ยุทธเจริญกิจ ผู้ใหญ่บ้าน กล่าวว่า หลังจากช้างเข้ามาในพื้นที่ ชาวบ้านก็ได้รับผลกระทบ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร ทำไร่ทำสวน เเละอาชีพรับจ้าง ไม่สามารถไปประกอบอาชีพได้ นั่นหมายถึงรายได้ที่หายไปด้วย

ซึ่งตนในฐานะผู้นำชุมชน ได้ประชาสัมพันธ์กับชาวบ้านเเล้วว่า ช่วงนี้ให้งดการเข้าสวน เพราะเสี่ยงอันตราย คาดว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายใน 2-3 วัน ตอนนี้ชาวบ้านก็เกิดความกังวล เพราะช้างมีพฤติกรรมดุร้าย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ก็ทำงานอย่างเต็มที่
ในส่วนของตนก็พร้อมอำนวยความสะดวก เบื้องต้นได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ ให้ช่วยเหลือในเรื่องการเคลื่อนย้ายช้าง หากสามารถยิงยาสลบได้ ซึ่งตนได้ประสานรถเเบ็กโฮไว้เรียบร้อยเเล้ว

เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ปฏิบัติการล่า "ไอ้งาสั้น" เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรานที่ 13 เเละผู้นำท้องถิ่น ตำบลป่ายุบใน อำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยอง รวม 50 นาย ได้ลาดตระเวน เเละโอบล้อมพื้นที่ เพื่อเฝ้าดูเจ้างาสั้น ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในไร่มันสำปะหลังกลางหุบเขา พื้นที่หมู่ 3 ตำบลป่ายุบใน

โดยในส่วนของชุดยิงยาซึม มีทีมสัตวเเพทย์เเละสัตวบาลของกรมอุทยานเเห่งชาติสัตว์ป่าเเละพันธุ์พืช จำนวน 15 คน เเบ่งเป็นสัตวเเพทย์ 4 คน เเละสัตวบาล 11 คน โดยจะมีคนยิง จำนวน 4 คน ประกอบด้วย สัตวบาล 3 คน เเละสัตวเเพทย์ 1 คน

สำหรับยาที่จะใช้ เป็นชนิดยาซึมสำหรับสัตว์ใหญ่ ซึ่งจะทำให้สัตว์ยืนหลับ ส่วนในเรื่องปริมาณยา จะต้องวิเคราะห์จากสถานการณ์ความปลอดภัย รวมถึงสภาพของสัตว์ หากมีขนาดใหญ่เเละสุขภาพเเข็งเเรง จะต้องใช้ปริมาณมาก เบื้องต้นเตรียมยาไว้ 3-4 เข็ม

โดยหลังจากยิงเเล้ว จะใช้เวลา 20-30 นาทีช้างจึงจะหยุดนิ่ง หลังจากการยิงเจ้าหน้าที่จะต้องติดตามทันทีอย่างรวดเร็ว เพราะกว่าช้างจะนิ่ง ช้างจะวิ่งได้ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ซึ่งระหว่างที่ช้างกำลังยืนหลับเพราะฤทธิ์ยา เจ้าหน้าที่จะรีบทำการติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียม เเบบเรียลไทม์ เพื่อติดตามตำเเหน่งของช้าง โดยการติดปลอกคอจะใช้เวลาประมาณ 30-40 นาที

อย่างไรก็ตามปฏิบัติการดังกล่าว จะต้องรีบทำในช่วงที่ยังไม่มืด เพราะหากเวลาล่วงเข้าสู่ช่วงกลางคืน จะต้องยุติชั่วคราว เเล้ววางเเผนอีกครั้งในวันถัดไป

นายเผด็จ ลายทอง ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา เปิดเผยว่า เป้าหมายสูงสุด คือ ต้องการเคลื่อนย้ายช้างให้ได้ เเต่ถ้าหากยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ ก็จะติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียม เพื่อติดตามตำเเหน่งของช้างก่อน ซึ่งช้างตัวดังกล่าวไม่คุ้นชินพื้นที่ เนื่องจากเข้ามาครั้งเเรก จึงยังไม่สามารถยิงยาซึมได้ เพราะเจ้าหน้าที่ไม่รู้พฤติกรรมสัตว์ว่าจะวิ่งไปทางใด

เบื้องต้นปฏิบัติการวันพรุ่งนี้ ทีมสัตวเเพทย์จะเข้าไปประเมินพื้นที่ ว่าจะยิงยาอย่างไร ซึ่งตนกำชับชับเรื่องความปลอดภัย ดังนั้นอาจมีการสร้างขนำไว้บนต้นไม้เพื่อดักซุ่มยิง หรืออาจยืนยิงบนหลังรถบรรทุกเพื่อความปลอดภัย เเละจะมีกำลังเจ้าหน้าที่คุ้มกันสัตวเเพทย์ด้วย จะไม่มีการเดินไปยิงเด็ดขาด เพราะเสี่ยงอันตราย

ขณะเดียวกันมีการประสานผู้ใหญ่บ้าน เตรียมรถเเบ็กโฮ เเละรถบรรทุกไว้เคลื่อนย้ายช้าง ซึ่งรถจะใช้เวลาเข้าถึงพื้นที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังเตรียมเชือกขนาด 36 มิลลิเมตร ควมมยาว 50 เมตร จำนวน 5 เส้น น้ำหนักเส้นละ 40 โลกรัม ไว้ใช้ดึงช้างขึ้นรถ