ทางการฝรั่งเศส ประกาศยกระดับการเตือนภัยด้านสาธารณสุขในพื้นที่กรุงปารีส เมืองหลวงของประเทศขึ้นสู่ระดับสูงสุดในวันจันทร์ (5 ต.ค.) เพื่อรับมือการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กลับมาทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น
รายงานข่าวระบุว่า การยกระดับเตือนภัยขึ้นสู่ระดับสูงสุดในครั้งนี้ จะมีผลให้บรรดาบาร์ ไนต์คลับ และร้านอาหารทุกแห่งในกรุงปารีส ต้องปิดให้บริการทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไขตั้งแต่วันอังคาร (6 ต.ค.) เป็นต้นไป
ขณะที่การรวมตัวของประชาชนตามสถานที่สาธารณะทั้งพิพิธภัณฑ์ โรงภาพยนตร์ และแหล่งท่องเที่ยว จะกลายเป็นสิ่งต้องห้าม รวมถึงห้ามประชาชนออกนอกบ้านโดยไม่มีเหตุจำเป็นหลังจากเวลา 22.00 น.
การตัดสินใจครั้งนี้ของทางการฝรั่งเศสมีขึ้นหลังจากที่อัตราการ “ติดเชื้อใหม่ในระดับท้องถิ่น” ของกรุงปารีส พุ่งสูงขึ้นแตะระดับ 250 คน ต่อประชากร 100,000 คน เป็นครั้งแรกเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนเตียงผู้ป่วยในห้องไอซียูของโรงพยาบาลต่างๆ ในกรุงปารีส ขณะนี้ มากกว่าร้อยละ 30 ถูกใช้รองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19
มาตรการล่าสุดนี้จะมีระยะเวลา 2 สัปดาห์ แต่อาจมีการขยายเวลาเพิ่มเติม หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังไม่กระเตื้องขึ้น
ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่กรุงปารีสมีขึ้นหลังจากที่มีการยืนยันว่าพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิดรายใหม่มากถึง 12,565 คนในวันเดียว ซึ่งในจำนวนนี้ มากกว่าครึ่งเป็นผู้ติดเชื้อในกรุงปารีสและเขตชานเมืองโดยรอบ
ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมของฝรั่งเศสล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 619,190 คนซึ่งในจำนวนนี้ 489,182 คนยังต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล
ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจากเชื้อโควิดล่าสุดของฝรั่งเศส มีจำนวนทั้งสิ้น 32,230 ราย นับถึงวันจันทร์ (5 ต.ค.)