รวบแก๊งฆ่าเสี่ยโคนม อ้างแค้นซัดทอดคดีไม้เถื่อน เมียเชื่อผัวบริสุทธิ์หลังยิ้มร่าตอนโดนจับ (คลิป)

5 ต.ค. 63

จากกรณีนายอดุลย์ มีทองขาว เสี่ยฟาร์มโคนม ถูกคนร้ายทำร้ายร่างกายในบ้านพักตัวเอง ก่อนจะลักพาตัวไปทิ้งที่นอกพื้นที่ ช่วงตี 4 ของเช้าวันที่ 4 ต.ค. 63 ห่างจากบ้านไปราว 10 กิโลเมตร ก่อนมีคนหาของป่าพบเป็นศพถูกทิ้งไว้ช่วงเย็นของวันเดียวกัน

914325297431

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจมีการสืบหาตัวคนร้าย และเข้าไปคุมตัวผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านกันไปสอบปากคำ ก่อนผู้ต้องหาจะรับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง ส่วนอีกรายอ้างว่าไม่ได้ร่วมฆาตกรรม

980143538741

ขณะที่ พ.ต.ท.ครรชิต จันทเลิศ รอง.ผกก.สส พร้อมชุดสืบสวน สภ.มวกเหล็ก เชิญตัวผู้ต้องสงสัย ชื่อนายมนูญ หลัดดี อายุ 44 ปี อาชีพเลี้ยงโคนม มาสอบสวน ตอนแรกนายมนูญไม่ยอมรับแต่ต่อมาสารภาพว่าเป็นผู้ลงมืออุ้มฆ่านายอดุลย์ เพราะมีปัญหาส่วนตัวกับผู้ตาย

cg-1cg-2cg-3

วันเกิดเหตุนั่งกินเหล้าที่บ้านคนเดียว จากนั้นขับรถเก๋งมาคนเดียวเพื่อมาเจรจาปัญหาส่วนตัวที่บ้านผู้ตาย พร้อมงัดบานกระจกออก จากนั้นบุกเข้าไปหาในห้องแล้วชกต่อยกัน ก่อนจะใช้ไม้ตีหัวผู้ตายจนสลบ แล้วลากร่างขึ้นรถมาทิ้งในป่าที่เกิดเหตุ ก่อนนำศพทิ้งที่ป่า แล้วใช้ปืนยาวยิงผู้ตายซ้ำเพื่อให้แน่ใจว่าตายแล้ว

870143376564

จากนั้น ตนขับรถกลับมาที่บ้าน โดยทำงานตามปกติ จนกระทั่งตำรวจมาจับกุมตัว พร้อมปืนยาวของกลางและรถยนต์คันที่ใช้ก่อเหตุ

946973

สำหรับเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อว่าคนร้ายจะกระทำการคนเดียว เพราะคนตายก็มีรูปร่างใหญ่เชื่อได้ว่าอาจจะมีมากกว่า 3 คนที่ร่วมก่อเหตุ จึงจะเร่งสอบสวนสาเหตุและผู้กระทำความผิดต่อไป ซึ่งได้เชิญตัวนายณรงค์ฤทธิ์ผู้ที่ไปหานายมนูญในช่วงที่เกิดเหตุขึ้น

651843971942

เบื้องต้นได้แจ้งข้อหานายมนูญ หลัดดี และนายณรงค์ฤทธิ์ รักสระน้อย ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครอง, ซ่อนเร้นอำพรางศพ

409452

วันที่ 5 ต.ค. 63 ทีมข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านเกิดเหตุ หมู่ที่ 9 ต.ซับสนุ่น อ.ม๊วกเหล็ก จ.สระบุรี ทีมข่าวเดินทางมาที่บ้านของ นายอดุลย์ มีทองขาว ผู้เสียชีวิต ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านของผู้ก่อเหตุเพียง 190 เมตร ที่อยู่ปากซอย

843002

ญาติของผู้ตายพาทีมข่าวไปดูจุดที่คนร้ายลักลอบเข้ามาบ้าน โดยคาดว่าเข้ามาทางประตูห้องครัว โดยใช้มือล้วงเข้ามาทางมุ่งลวดหน้าต่าง ซึ่งมีแผ่นกระจกบานเกร็ดหายไป 2 แผ่น จากนั้นนำมือล้วนไปบิดลูกบิดประตู ทีมข่าวสาธิตใช้มือสอดผ่านหน้าต่างบานเกร็ดเพื่อเปิดประตูจากด้านในบ้านได้โดยง่าย

630528

จากนั้นญาติผู้ตายพาทีมข่าวไปดูที่ระเบียงหลังห้องนอนผู้ตาย ซึ่งจะมีประตูทางออกอีก 1 บาน จุดนี้คาดว่าคนร้ายพาร่างของผู้ตายออกมา และลากผู้ตายมาขึ้นรถยนต์ ซึ่งจอดไว้ที่ลานหลังบ้าน เนื่องจากมีร่องรอยของล้อรถ และมีคราบเลือดกระจายเต็มพื้นที่ ส่วนในห้องนอนถูกล็อกไว้ ด้านในข้าวของกระจัดกระจาย มีคราบเลือดจำนวนมากเปื้อนสิ่งของภายในห้อง

นายดอน มีทองขาว อายุ 85 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ตนเองอยู่บ้านกับลูกชาย 2 คน โดยช่วงเกิดเหตุ 03.00 - 04.00 น. ตอนนั้นตนเองเข้านอนไปแล้ว จากนั้น ตนเองได้ยินเสียงลูกชายร้อง "พ่อ ๆ" และมีเสียงกุก ๆ กัก ๆ ในห้อง ซึ่งด้วยอายุที่มากแล้ว ตนเองไม่ได้ลุกขึ้นมาดู

อย่างไรก็ตาม ตนเองไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกชาย ลูกชายหายออกไปจากบ้าน จนตนเองเรียกให้คนงานที่บ้านเรียกญาติตนมาช่วยทำข้าวให้ จึงทราบว่านายอดุลย์ถูกทำร้าย ส่วนตัวไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้กับลูกชาย ตนเองเสียใจมาก ตนเป็นโรคหัวใจ ตอนทราบเรื่อง ทำให้ใจมันสั่นไปหมด จากนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ลูกชายเป็นคนดีมาก เป็นคนเลี้ยงดูตนและดูแลตนอย่างดี

932033

นายจำปา หลัดดี พ่อของนายมนูญ เปิดใจกับทีมข่าวว่า ลูกชายตนไม่เคยมาพูดถึงเรื่องที่จะไปก่อเหตุให้ฟัง ลูกชายมีท่าทีที่ปกติมาก โดยคืนก่อนจะไปก่อเหตุ นายมนูญ และนายณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งก็เป็นญาติของคนตายยังมากินข้าวที่บ้านตนช่วง 20.00 น. ซึ่งปกติลูกชายจะมากินข้าวบ้านตนทุกวัน

ลูกชายพักอาศัยอยู่บ้านติดกับตน ห่างไปเพียง 50 เมตร ตนเองไม่ทราบเลยว่าลูกชายจะไปก่เหตุ หากรู้ก่อนเกิดเหตุ นายอดุลย์คงไม่เสียชีวิต ตนเองคงไม่ปล่อยให้ลูกชายตนไปก่อเหตุ ตนเองทราบเรื่องที่ลูกชายถูกกล่าวหาคดีขโมยไม้ ซึ่งเป็นไม้ที่ถูกขโมยจากกระท่อมในพื้นที่ อ.ปากช่อง ซึ่งนายอดุลย์ กล่าวหาว่าลูกชายตนรับซื้อไม้นี้ไว้ เนื่่องจากช่วงนี้ลูกชายตนมีงานเกี่ยวกับการไสไม้อยู่ ซึ่งตนยืนยันได้ว่าลูกขายตนไม่ได้ขโมยไม้ และไม้ที่ขโมยก็ไม่ได้มาอยู่ที่นี่ ซึ่งคดีนี้เพิ่งมีการแจ้งความไปจับนายณรงค์ฤทธิ์ ซึ่งก็ไม่พบไม้ มาตรวจสอบที่บ้านลูกตนแล้วก็ไม่มีไม้ แต่นายณรงฤทธิ์ถูกปรับคดีเกี่ยวกับการมีอาวุธปืนไป 10,000 บาท

409219

เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองไม่เข้าข้างลูกชาย ตนเองก็เสียใจ คนตายตนเองรู้จักมาตั้งแต่เกิด เราโตมาด้วยกัน ตนเองก็อยากจะขอโทษครอบครัวคนตายเช่นกัน ลูกชายตนหากผิด ตนเองไม่เข้าข้าง ขอให้เขารับกรรมตามกฎหมาย

478405

น.ส.สายฝน (นามสมมติ) ภรรยานายณรงค์ฤทธิ์ เปิดเผยว่า ตนเองไม่รู้ว่าสามีตนไปร่วมก่อเหตุหรือไม่ แต่ส่วนตัวคิดว่าสามีตนไม่ได้ร่วมมือในการฆ่า เพราะไม่ได้มีความแค้น เรื่องที่สามีตนต้องไปจ่ายค่าปรับ 10,000 บาท ตนเองยอมรับว่าจริง โดยเงินที่เอาไปเป็นเงินเก็บก้อนสุดท้าย ซึ่งเพิ่งไปจ่ายวันที่ 30 ก.ย. 63 ทำให้ครอบครัวไม่มีเงินแม้จะกินข้าว ส่วนเรื่องคดีขโมยไม้ ยืนยันว่าสามีไม่ได้ขโมยตามที่กล่าวหา เพราะปกคิก็ไม่ค่อยได้สุงสิงกับผู้ตาย

ช่วงเกิดเหตุวันที่ 3 ต.ค. 63 ตนเองทะเลาะกับสามีเรื่องเงิน ตนไล่ให้สามีมาที่บ้านนายมนูญ บอกให้มีเบิกเงินค่าจ้างที่มาทำงานไสไม้ก่อน ซึ่งมีการจ้างกันไว้ 10,000 บาท ซึ่งสามีตนก็ออกมา แต่ไม่ได้บอกว่าจะไปนอนค้างบ้านนายมนูญ ซึ่งสามีตนก็หายไปทั้งคืน

จนกระทั่งช่วง 18.00 น. ของวันที่ 4 ต.ค.63 สามีตนเองกลับมาที่บ้าน ท่าทีก็ปกติ มาเล่าเพียงว่านายอดุลย์ตายแล้ว เพราะตอนนั้นตำรวจไปเจอศพของนายอดุลย์ ซึ่งตนก็ตกใจ แต่ไม่คิดว่าคนก่อเหตุจะเป็นนายมนูญ สามีกลับมาก็มีเงินมาให้ตน 2,000 บาท เพื่อนำไปซื้อข้าว จากนั้นช่วง 22.00 น. ตำรวจก็มาเชิญตัวสามีไป ซึ่งตนก็ยังไม่ทันได้สอบถามรายละเอียด เข้าใจว่าตำรวจมาเชิญตัวไปสอบปากคำ เพราะสามีตนไปบ้านนายมนูญด้วย อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองก็ไม่เข้าข้างสามี แต่เชื่อสามีไม่ได้ลงมือฆ่านายอดุลย์แน่นอน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส