เมื่อวันที่ 3 ต.ค. 63 เวลาประมาณ 01.37 น. ที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Sakdinon Ainsaeng” ได้โพสต์แจ้งเหตุโจรขึ้นบ้าน ที่บ้านหมู่ 8 บ้านสุขสำราญ ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ระบุว่า คนร้ายมีอาการคล้ายคนคลั่งยาเสพติด พกอาวุธมีดยาวประมาณ 1 ช่วงแขน บุกเข้ามาจี้คอทำร้ายร่างกายคุณยายท่านหนึ่ง หวังจะข่มขืนและปล้นทรัพย์ คุณยายจึงได้ร้องตะโกนขอความช่วยเหลือ ทำให้คนร้ายหลบหนีไป
ล่าสุดวันที่ 5 ต.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางมาที่บ้านหมู่ 8 บ้านสุขสำราญ ต.เซิม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย พบเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น มีหน้าต่างไม้รอบบ้าน แต่และบานติดเหล็กดัด และลงกลอนไว้อย่างแน่นหนา
นางสุด อายุ 69 ปี ผู้เสียหาย มีแผลปากแตก เล่าว่า ตนรู้จักคนร้ายดี ชื่อว่านายประยงค์ หรือ เซ อายุ 52 ปี อยู่บ้านถัดจากตนไปประมาณ 80 เมตร ซึ่งตนเห็นมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โดยนายประยงค์นั้นมีนิสัยติดสุรา และชอบเสียงดังโวยวาย
จากนั้น นางสุดก็ได้พาทีมข่าวไปดูหน้าต่างหลังบ้าน จุดที่นายประยงค์ปีนเข้ามา ซึ่งมั่นใจว่านายประยงค์ต้องปืนเข้ามาจากทางนี้ เนื่องจากเป็นหน้าต่างบานเดียวที่กลอนเสีย และไม่ได้ติดเหล็กดัด ซึ่งหลังจากเกิดเหตุ ก็ได้ซ่อมแซมหน้าต่างแล้วติดตั้งเหล็กดัดแล้ว
นางสุด เล่าต่อว่า ในคืนวันเกิดเหตุ ตนเข้านอนพร้อมหลานสาววัย 12 ปี ตั้งแต่เวลา 21.00 น. ซึ่งตนได้ลงกลอนหน้าต่างและประตูทุกบานไว้อย่างแน่นหนา มีเพียงหน้าต่างหลังบ้าน 1 บาน ที่กลอนเสียอยู่ จากนั้นในเวลาประมาณ 01.00 น. ตนก็รู้สึกตัวตื่น เนื่องจากรู้สึกว่ามีไฟส่องเข้ามาที่ใบหน้าของตัวเอง เมื่อตนลืมตาตื่นขึ้น ก็ได้เห็นนายประยงค์ยืนจ้องหน้ามาที่ตน นายประยงค์มีไฟฉายรัดศีรษะ พร้อมเอื้อมมือมาบีบคอของตนแล้วต่อยมาที่ปาก จนปากของตนแตก เลือดไหลกลบปาก
ตนพยายามตะโกนร้องว่า "บักเซ มึงมาตีกูเฮ็ดหยัง จะเอาอิหยังกับกู" นายประยงค์จึงได้วิ่งออกทางห้องครัวหนีไปทางหลังบ้าน ส่วนหลานสาวตนที่ตกใจตื่นก็รีบโทรศัพท์แจ้งครอบครัว ตนคาดว่านายประยงค์น่าจะต้องการเข้ามาขโมยสร้อยทอง 50 สตางค์ของตน เนื่องจากตนมักจะใส่สร้อยอยู่เป็นประจำ แต่นายประยงค์คงไม่รู้ว่าตนได้ขายสร้อยทองนี้ไปตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุได้ประมาณ 4 วันแล้ว
จากนั้น ทีมข่าวได้เดินไปสำรวจบ้านของนายประยงค์ ผู้ก่อเหตุ พบเป็นบ้านชั้นเดียว ตั้งอยู่หลังบ้านของน้องชายนายประยงค์ อยู่ห่างจากบ้านของผู้เสียหาย ประมาณ 80 เมตร
นายอรรถ (นามสมมติ) อายุ 48 ปี น้องชายของผู้ก่อเหตุ บอกว่า มีหมายจับของนายประยงค์ได้ถูกส่งมาที่บ้านในช่วงเช้าวันนี้ โดยนายประยงค์เป็นคนที่มีนิสัยเกเรมาตั้งแต่เด็ก ติดสุราและเสพยาเสพติด ซึ่งตนก็มักจะเตือนพี่ชายอยู่เสมอ เคยพูดไว้ว่า "สักวันตำรวจจะมาตามหาพี่"
ทั้งนี้ คืนวันเกิดเหตุ ตนเดินทางไปงานบุญบั้งไฟพญานาค เมื่อกลับมาถึงบ้านก็นอนหลับทันที จึงไม่ได้สังเกตว่านายประยงค์อยู่หรือไม่อยู่บ้าน แต่ตนคาดว่าในคืนนั้นนายประยงค์ก็น่าจะออกไปดื่มสังสรรค์ เนื่องจากออกพรรษา แล้วกลับมาก่อเหตุดังกล่าว ตนตั้งข้อสังเกตว่า นายประยงค์เมาแล้วต้องการเข้าไปขโมยของ หรือเป็นไปได้หรือไม่ว่านายประยงค์เมาแล้วต้องการที่จะเข้าไปหาแฟนเก่า ซึ่งอาศัยอยู่บ้านใกล้กับนางสุด แต่เข้าบ้านผิด เนื่องจากความมึนเมา ตนอยากให้พี่ชายกลับมาชี้แจงเจตนาว่าก่อเหตุไปเพื่ออะไร
