เมื่อวันที่ 4 ต.ค.63 เวลา 04.00 น. ตำรวจ สภ.คูคต รับแจ้งเหตุรถเก๋ง เสียหลักชนอัดกับเสาไฟข้างทาง บริเวณถนนหทัยราษฎร์ ตรงข้ามกับปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จึงรุดไปตรวจสอบ พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร ป่อเต็กตึ๊ง และแพทย์เวรนิติเวช รพ.ภูมิพลอดุลยเดช
โดยที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสีเทา ทะเบียน จห-5914 กรุงเทพฯ ชนกับเสาไฟจนทำให้ด้านหน้าห้องเครื่องหลุดและกระเด็นไปถูกรถของประชาชนที่จอดอยู่ริมถนน รถพังเสียหายยับเยินอีก 2 คัน โดยห่างออกไปประมาณ 5 เมตร พบรถเก๋ง ทะเบียน ฆฬ-2145 กรุงเทพฯ สภาพด้านท้ายยุบเสียหาย และห่างกัน 2 เมตร พบรถเก๋ง ทะเบียน ฌว-4050 กรุงเทพฯ ท้ายรถถูกหัวรถเก๋งคันก่อเหตุ ขาดกระเด็นมาโดนท้ายรถจนพังเสียหาย
นอกจากนี้ ใต้ท้องรถพบศพ นายอภิสิทธิ์ ไขแสง อายุ 24 ปี คนขับรถเก๋งคันเกิดเหตุ สภาพมีบาดแผลที่ขาท่อนล่างด้านขวาขาด ส้นเท้าด้านซ้ายขาด ภายในตัวมีเงินสด 520 บาท และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่ายังมีรอยเสียหลักของรถอยู่บนทางเท้า และใกล้เสาไฟที่พบผู้เสียชีวิต มีเครื่องเส้น ประกอบด้วยกับข้าว
นายธีรภัทร เอี่ยมมณีศรีคลู อายุ 21 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะนั้นช่วงเวลาประมาณ 03.00 น. ตนได้เก็บร้าน จากนั้นได้ยินเสียงโครม พร้อมกับรถแฟนเจ้าของร้านและรถของเจ้าของร้านที่จอดอยู่บริเวณริมถนนไหลมาถูกเสาไฟฟ้า โดยด้านหน้าห้องเครื่องหลุดมาชนกับกองหินและกระเด็นมาชนรถของเจ้าของร้าน ตนรีบออกมาดูและรีบแจ้งตำรวจทันที ยอมรับว่าทำตัวไม่ถูก บริเวณรถผู้เสียชีวิตน้ำมันรั่วไฟลุก จึงรีบผลักรถที่อยู่ด้านหน้าออก พบว่าใต้ท้องมีผู้เสียชีวิต ขาท่อนล่างด้านขวาขาด ส้นเท้าด้านซ้ายขาด
ทั้งนี้ตนคาดว่า ผู้เสียชีวิตขับรถมาด้วยความเร็ว เพราะตนไม่ได้ยินเสียงเบรกของรถ หรือไม่อาจจะเมาสุรา และหลับใน นอกจากนี้เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เพราะทุกคนอยู่ในร้าน
บริเวณดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เนื่องจากประชาชนขับรถด้วยความเร็วและไม่ได้รับมัดระวัง แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ในช่วงเวลากลางคืนจะมีแสงสว่างส่องเห็นเส้นทาง อย่างไรก็ตาม ตนก็อยากให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนควรระมัดระวัง เพราะเส้นทางดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุอยู่บ่อยครั้ง ไม่ควรขับรถด้วยความเร็ว
ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้โทรศัพท์ไปสอบถาม นายคมกฤษ ไขแสง พ่อของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาเวลาตี 03.00 น. ลูกชายได้ออกจากบ้าน เพื่อที่จะไปเข้าเวรกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 1 รักษาพระองค์ หลังจากนั้นมีเพื่อนบ้านที่รู้จักกับผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่บ้านแจ้งให้ทราบว่า ลูกชายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตคาที่ ขณะนั้นตนยอมรับว่าตกใจมาก เพราะผู้เสียชีวิตเป็นลูกชายคนโตเป็นเสาหลักของครอบครัว
ทั้งนี้ตนคาดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ผู้เสียชีวิตน่าจะขับรถด้วยความเร็วจึงเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้า เพราะขณะนั้นฝนตกถนนลื่น นอกจากนี้พฤติกรรมการขับรถของผู้เสียชีวิตนั้นขับรถด้วยความเร็ว แต่ทั้งนี้ยังติดใจว่า ก่อนลูกชายจะประสบอุบัติเหตุรถพุ่งชนเสาไฟฟ้า จะมีรถผู้อื่นตัดหน้าหรือไม่ จนทำให้หักหลบจนเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
ขณะนี้สภาพจิตใจของครอบครัวนั้นย่ำแย่ ไม่คิดว่าผู้เสียชีวิตจะจากไปเร็วขนาดนี้ เพราะอายุยังน้อย เรียนดี นิสียดี เสียดายโอกาสที่ลูกชายของตนนั้นได้ทำงานได้เพียง 1 ปี นอกจากนี้ก่อนเกิดเหตุไม่ได้มีลางสังหรณ์ว่าผู้เสียชีวิตจะต้องจากไปแล้ว
นอกจากนี้ได้นำร่างของผู้เสียชีวิต ไปบำเพ็ญกุศลศพที่ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งเป็นบ้านเกิด ขณะนี้ตนกำลังนำศพของลูกชายกลับบ้าน และจะฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่ 10 ต.ค.63 ที่จะถึงนี้
